Education in China is a state-run s

Education in China is a state-run system of public education run by the Ministry of Education. All citizens must attend school for at least nine years, known as the nine-year compulsory education, which the government funds. It includes six years of primary education, starting at age six or seven, and three years of junior secondary education (middle school) for ages 12 to 15. Some provinces may have five years of primary school but four years for middle school. After middle school, there are three years of high school, which then completes the secondary education. The Ministry of Education reported a 99 percent attendance rate for primary school and an 80 percent rate for both primary and middle schools.[citation needed] In 1985, the government abolished tax-funded higher education, requiring university applicants to compete for scholarships based on academic ability. In the early 1980s the government allowed the establishment of the first private school, increasing the number of undergraduates and people who hold doctoral degrees fivefold from 1995 to 2005.[4] In 2003 China supported 1,552 institutions of higher learning (colleges and universities) and their 725,000 professors and 11 million students (see List of universities in China). There are over 100 National Key Universities, including Peking University and Tsinghua University. Chinese spending has grown by 20% per year since 1999, now reaching over $100bn, and as many as 1.5 million science and engineering students graduated from Chinese universities in 2006. China published 184,080 papers as of 2008.[5] China has also became a top destination for international students.[6] As of 2013, China is the most popular country in Asia for international students, and ranks third overall among countries.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาในจีนเป็นระบบรัฐการศึกษาสาธารณะที่ดำเนินการ โดยกระทรวงศึกษาธิการ ประชาชนทั้งหมดต้องเข้าเรียนในโรงเรียนอย่างน้อย 9 ปี เป็นการศึกษาภาคบังคับเก้าปี ซึ่งเงินที่รัฐบาล รวมหกปีของการศึกษาขั้นพื้นฐาน ราคาเริ่มต้นที่อายุหกหรือเจ็ด และสามปีสำหรับเด็กมัธยมศึกษา (โรงเรียน) สำหรับอายุ 12-15 บางจังหวัดอาจมีห้าปีของโรงเรียนประถมแต่มัธยมปี 4 หลังโรงเรียน มีสามปีมัธยม ซึ่งสำเร็จการศึกษาแล้ว กระทรวงศึกษาธิการรายงานอัตราเข้า 99 เปอร์เซ็นต์สำหรับประถมศึกษาและอัตราร้อยละ 80 เป็นหลักและกลางโรงเรียน[ต้องการอ้างอิง] ในปี 1985 รัฐบาลยกเลิกภาษีสนับสนุนอุดมศึกษา ต้องการผู้สมัครมหาวิทยาลัยประกวดทุนการศึกษาตามความสามารถทางวิชาการ ในต้นทศวรรษ 1980 รัฐบาลได้จัดตั้งโรงเรียนเอกชนแรก เพิ่มจำนวนสูง ๆ และคนที่ถือเอกองศา fivefold บริการจาก 1995-2005[4] ใน 2003 จีนสนับสนุน 1สถาบัน 552 เรียนสูง (ทางศาสนา) และอาจารย์ของพวกเขา 725,000 นักเรียน 11 ล้าน (ดูรายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศจีน) มีโรงคีย์ 100 แห่งชาติมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยปักกิ่งและพบ การใช้ภาษาจีนได้เติบโตขึ้น 20% ต่อปีตั้งแต่ปี 1999 ตอนนี้ ถึงกว่า $100bn และเป็น 15 ล้านวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์นักเรียนศึกษาจากมหาวิทยาลัยในจีนในปี 2006 จีนเผยแพร่เอกสาร 184,080 2551[5] จีนมีเป็น จุดหมายยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ[6] เป็น 2013 จีนประเทศนิยมมากที่สุดในเอเชียสำหรับนักศึกษาต่างชาติ และอันดับที่สามโดยรวมประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาในประเทศจีนเป็นระบบที่รัฐใช้ในการศึกษาของรัฐดำเนินการโดยกระทรวงศึกษาธิการ ประชาชนทุกคนจะต้องเข้าเรียนในโรงเรียนเป็นเวลาอย่างน้อยเก้าปีที่รู้จักกันในเก้าปีการศึกษาภาคบังคับซึ่งเงินของรัฐบาล ซึ่งจะรวมถึงหกปีของการศึกษาประถมศึกษาเริ่มต้นที่อายุหกหรือเจ็ดและอีกสามปีของการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (โรงเรียนมัธยม) สำหรับทุกเพศทุกวัย 12 ถึง 15 บางจังหวัดอาจจะมีห้าปีของโรงเรียนประถม แต่สี่ปีสำหรับโรงเรียนมัธยม หลังจากที่โรงเรียนมัธยมมีสามปีของโรงเรียนมัธยมที่เสร็จสมบูรณ์แล้วจะมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการรายงานอัตราการเข้าร่วมร้อยละ 99 สำหรับโรงเรียนประถมศึกษาและอัตราร้อยละ 80 สำหรับโรงเรียนทั้งประถมศึกษาและกลาง. [อ้างจำเป็น] ในปี 1985 รัฐบาลได้ยกเลิกภาษีได้รับทุนการศึกษาระดับสูงที่จำเป็นต้องมีผู้สมัครของมหาวิทยาลัยเพื่อชิงทุนการศึกษาบนพื้นฐานของ ความสามารถทางวิชาการ ในต้นปี 1980 รัฐบาลได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชนแห่งแรก, การเพิ่มจำนวนของนักศึกษาปริญญาตรีและผู้ที่จบปริญญาเอกเป็นห้าเท่าจากปี 1995 เพื่อ 2005 [4] ในปี 2003 ประเทศจีนสนับสนุน 1,552 สถาบันการศึกษาระดับสูง (วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย) และ 725,000 ของพวกเขาอาจารย์และนักเรียน 11 ล้าน (ดูรายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศจีน) มีกว่า 100 กุญแจแห่งชาติมหาวิทยาลัยรวมทั้งมหาวิทยาลัยปักกิ่งและมหาวิทยาลัยซิงหัว การใช้จ่ายของจีนได้เติบโตขึ้นโดย 20% ต่อปีตั้งแต่ปี 1999 ตอนนี้ถึงกว่า $ 100bn และมากที่สุดเท่าที่ 1.5 ล้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมนักเรียนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของจีนในปี 2006 จีนเผยแพร่เอกสาร 184,080 ณ 2008 [5] จีนได้กลายเป็น ปลายทางยอดนิยมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ. [6] ของปี 2013 จีนเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเอเชียสำหรับนักศึกษาต่างชาติและอันดับที่สามโดยรวมในประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาในจีนเป็นระบบที่ใช้ในการศึกษาสาธารณะที่ดำเนินการโดยกระทรวงศึกษาธิการ พลเมืองทุกคนต้องเข้าเรียนอย่างน้อย 9 ปี เรียกว่า การศึกษาภาคบังคับเก้าปี ซึ่งรัฐบาลกองทุน รวม 6 ปี การศึกษาระดับประถมศึกษา เริ่มต้นที่อายุหกหรือเจ็ดและสามปีของมัธยมศึกษาตอนต้น ( ม.ต้น ) อายุ 12 ถึง 15บางจังหวัดอาจจะห้าปีของโรงเรียน ประถมศึกษา แต่สี่ปีสำหรับโรงเรียนมัธยม หลังจากโรงเรียนมัธยม มี สามปี ของโรงเรียน ซึ่งจบระดับมัธยมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า ร้อยละ 99 อัตรา ระดับประถมศึกษา เข้าร่วมประชุม และ 80 เปอร์เซ็นต์ เท่ากัน ทั้งโรงเรียนประถมและโรงเรียนกลาง . [ อ้างอิงที่จำเป็น ] ในปี 1985รัฐบาลยกเลิกภาษีได้รับทุนอุดมศึกษา , มหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครแข่งขันเพื่อรับทุนขึ้นอยู่กับความสามารถทางวิชาการ ในต้นทศวรรษ 1980 รัฐบาลได้จัดตั้งโรงเรียนเอกชน เพิ่มจำนวนนักศึกษาและผู้ถือปริญญาเอก 5 เท่าจากปี 2548 [ 4 ] ในปี 2003 จีนสนับสนุน 1จากสถาบันการเรียนรู้ที่สูงขึ้น ( วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ) และ 725000 อาจารย์และ 11 ล้านคน ( ดูรายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศจีน ) มีมหาวิทยาลัยที่สำคัญกว่า 100 ชาติ รวมทั้งปักกิ่งและมหาวิทยาลัย Tsinghua มหาวิทยาลัย จีนการเติบโต 20% ต่อปีตั้งแต่ปี 1999 แล้วถึงกว่า $ 100bn และมากที่สุดเท่าที่ 15 ล้าน วิทยาศาสตร์และวิศวกรรม นักศึกษาที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจีนในปี 2006 จีนเผยแพร่เอกสารเป็น 184080 2008 . [ 5 ] จีนยังเป็นปลายทางยอดนิยมสำหรับนักศึกษานานาชาติ [ 6 ] โดย 2013 , จีนเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเอเชีย สำหรับนักเรียนนานาชาติ และอันดับที่สาม โดยรวมของประเทศ