First of all, I would like to talk

First of all, I would like to talk that we “Thai” people, we live with teaching and belief from generation to generation. Because these things are the truth, even made from old people or ancestor. It is still the dharmic truth. There fore, these maxims reflect to our society tremendously clearly.

I think every society live the life like some of these maxims. For example, “Dogs don’t bite minors who walk behind the senior”. We know that it is like this since this world has human. Maybe we don’t even know that it is written as the proverb that always warn and tell us to stay carefully. It is like the nature of human and the art of using a life happily and securely. Another proverb “Speak tactfully to satisfy both parties”, this is exactly

how we are told and use from generation to generation, sometimes it comes naturally. In the other hand, this proverb might not be used with every society “ A daughter is like a loo erected in the front yard ”. I think this influenced from the religion or maybe the different belief.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ครั้งแรกของทั้งหมด อยากจะพูดคุยที่คน "ไทย" เราอยู่กับการสอนและความเชื่อจากรุ่นสู่รุ่น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นความจริง ทำแม้กระทั่งจากคนเก่าหรือบรรพบุรุษ ยังคงเป็นสัจธรรม มี fore คำคมเหล่านี้สะท้อนถึงสังคมของเราอย่างชัดเจนผมคิดว่า ทุกสังคมถ่ายทอดสดชีวิตเช่นบางส่วนของคำคมเหล่านี้ ตัวอย่าง "หมาไม่กัดเด็กเล็กที่เดินหลังอาวุโส" เรารู้ว่า มันเป็นเช่นนี้ เพราะโลกนี้มีมนุษย์ บางทีเราไม่ได้รู้ว่า มันจะเขียนเป็นสุภาษิตที่จะเตือน และบอกการเดินอย่างระมัดระวัง มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์และศิลปะการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และปลอดภัย อื่นสุภาษิต "พูดงานศิลปะฝีมือของการตอบสนองทั้งสองฝ่าย" โดยตรงวิธีที่เราจะบอก และใช้จากรุ่นสู่รุ่น บางครั้ง มันมาตามธรรมชาติ ในมืออื่น ๆ สุภาษิตนี้อาจไม่สามารถใช้กับทุกสังคม "บุตรสาวเป็นเช่น loo เกร็งในลานด้านหน้า" ผมคิดว่า นี้รับอิทธิพลจากศาสนาหรือความเชื่อต่างกันบางที

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แรกของทั้งหมดที่ผมอยากจะพูดว่าเรา "ไทย" คนเรามีชีวิตอยู่กับการเรียนการสอนและความเชื่อจากรุ่นสู่รุ่น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นความจริงที่เกิดขึ้นแม้จะมาจากคนเก่าหรือบรรพบุรุษ มันยังคงเป็นความจริง Dharmic ก่อนมี, คำคมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงสังคมของเราไปอย่างเห็นได้ชัดอย่างมาก. ผมคิดว่าทุกคนในสังคมมีชีวิตอยู่เช่นบางคำคมเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น "หมาไม่กัดผู้เยาว์ที่เดินตามหลังผู้บริหารระดับสูง" เรารู้ว่ามันเป็นเช่นนี้ตั้งแต่โลกนี้มีมนุษย์ บางทีเราไม่ได้รู้ว่ามันถูกเขียนเป็นสุภาษิตที่มักจะเตือนและบอกเราจะอยู่อย่างระมัดระวัง มันก็เหมือนธรรมชาติของมนุษย์และศิลปะของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปลอดภัย สุภาษิตอีก "พูดแนบเนียนเพื่อตอบสนองความทั้งสองฝ่าย" ตรงนี้เป็นวิธีการที่เราจะบอกและใช้จากรุ่นสู่รุ่นบางครั้งก็มาจากธรรมชาติ ในทางตรงกันข้ามสุภาษิตนี้อาจจะไม่ได้นำมาใช้กับทุกสังคม "ลูกสาวเป็นเหมือนห้องน้ำสร้างขึ้นในสนามหน้าบ้าน" ผมคิดว่านี้ได้รับอิทธิพลจากศาสนาหรือความเชื่อที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แรกของทั้งหมดที่ฉันต้องการจะพูด ว่า เรา " คนไทย " คน เราอยู่กับการสอนและความเชื่อ จากรุ่นสู่รุ่น เพราะสิ่งเหล่านี้คือความจริง แม้ทำจากคนแก่ หรือบรรพบุรุษ มันก็คือความจริง dharmic . ดังนั้นแม็กซิม เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงสังคมของเราเป็นอย่างมากเห็นได้ชัด

ผมว่าทุกสังคมมีชีวิตเช่นบางส่วนของแม็กซิม เหล่านี้ ตัวอย่างเช่น" สุนัขไม่กัดเด็กที่เดินตามหลังรุ่นพี่ " เรารู้ว่ามันเป็นอย่างนี้ เพราะโลกนี้มีคน บางทีเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันถูกเขียนเป็นสุภาษิตที่มักเตือนและบอกเราไว้ให้ดี มันก็เหมือนธรรมชาติของมนุษย์ และ ศิลปะของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปลอดภัย สุภาษิต " หนึ่งพูดแนบเนียนความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย " นี่แหละ

แล้วเราจะบอกและใช้จากรุ่นสู่รุ่น บางครั้งมันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ในมืออื่น ๆ , สุภาษิตนี้อาจใช้ไม่ได้กับทุกสังคม " ลูกสาวก็เหมือนห้องน้ำที่สร้างขึ้นในลานด้านหน้า ฉันคิดว่านี้ได้รับอิทธิพลจากศาสนาหรือความเชื่อที่แตกต่างกัน