3.12 Data Collection Methods3.12.1

3.12 Data Collection Methods
3.12.1 Primary Data Collection Methods
The researcher collected both primary and secondary data. The primary data were
collected through questionnaires, semi‐structured interviews and focus group discussions
(FGD). An explanation of the research instruments is presented below.
3.12.2 Questionnaire
According to Zikmund (2003), questionnaires are a simple yet effective research tool. They
are cost‐effective and reduce distortions in data resulting from any ‘interviewer bias’
introduced during the interview process. Since the research aimed to discover deeply held
personal attitudes and beliefs, some of which may be sensitive in nature, the anonymous
nature of the questionnaire allows respondents to express their inner beliefs, attitudes, and
perceptions freely.
3.12.3 Mode of Questionnaire Development
As well as open‐ended questions, closed questions were included in the questionnaire to
determine the context of the research by asking general questions like age, gender, and
occupation. Multiple choice questions were employed with Likert scales so respondents
80
could indicate the ‘intensity’ of their attitude towards each aspect of their job. The Likert
scale had a range of options from ‘Strongly Agree’ to ’Strongly Disagree’. This gave
respondents the ability to make fine distinctions between attitudes (Dundas, 2004). The
questionnaire was structured so that general information was sought first before moving to
questions that probed deeper aspects of job contentment and loyalty (Arab, 2007).
3.12.4 Structure of the Questionnaire
The questionnaire was divided into six sections. A detailed explanation, and a copy of the
questionnaire, is available in Appendix 4.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.12 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล3.12.1 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลหลักนักวิจัยรวบรวมข้อมูลหลัก และรอง ข้อมูลหลักได้รวบรวมแบบสอบถาม semi‐structured สัมภาษณ์ และสนทนากลุ่มโฟกัส(FGD) คำอธิบายของเครื่องมือวิจัยจะแสดงด้านล่าง3.12.2 แบบสอบถามตาม Zikmund (2003), แบบสอบถามเป็นเครื่องมือวิจัยเรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพ พวกเขามี cost‐effective และลดการบิดเบือนข้อมูลที่เกิดจากการ 'ทีมอคติ'แนะนำระหว่างการสัมภาษณ์ ตั้งแต่การวิจัยมุ่งได้ลึกขึ้นส่วนบุคคลทัศนคติและความเชื่อ ซึ่งอาจจะสำคัญในธรรมชาติ ที่ไม่ระบุชื่อลักษณะของแบบสอบถามให้ผู้ตอบแสดงความเชื่อของพวกเขาภายใน ทัศนคติ และภาพลักษณ์คอร์รัปชันได้อย่างอิสระ3.12.3 วิธีการพัฒนาแบบสอบถามเป็น open‐ended คำถาม ถามรวมอยู่ในแบบสอบถามให้กำหนดบริบทของการวิจัย โดยการถามคำถามทั่วไปเช่นอายุ เพศ และอาชีพ หลากหลายทางเลือกคำถามว่าจ้างกับ Likert จัดมาตราส่วนเพื่อให้ผู้ตอบ80สามารถบ่งชี้ 'ความเข้ม' ของของทัศนคติที่มีต่อมุมมองแต่ละคน แบบ Likertขนาดมีช่วงของตัวเลือกจาก 'ขอยอมรับ' เพื่อ 'ขอไม่เห็นด้วย' นี้ให้ตอบความดีความแตกต่างระหว่างทัศนคติ (Dundas, 2004) ที่แบบสอบถามถูกจัดโครงสร้างเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปที่ขอครั้งแรก ก่อนย้ายไปคำถามที่พิสูจน์ด้านลึกของงานและการตอบแทนลูกค้าสมาชิก (อาหรับ 2007)3.12.4 โครงสร้างของแบบสอบถามแบบสอบถามถูกแบ่งออกเป็นหกส่วน คำอธิบายโดยละเอียด และสำเนาของการแบบสอบถาม มีในภาคผนวก 4

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.12 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
3.12.1 เก็บข้อมูลหลักวิธีการ
วิจัยรวบรวมข้อมูลทั้งประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ข้อมูลปฐมภูมิที่ถูก
เก็บรวบรวมผ่านแบบสอบถามการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและการสนทนากลุ่ม
(FGD) คำอธิบายของการวิจัยจะนำเสนอด้านล่าง.
3.12.2 แบบสอบถาม
ตาม Zikmund (2003) แบบสอบถามมีความเรียบง่ายและมีเครื่องมือในการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ พวกเขา
มีค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและลดการบิดเบือนในข้อมูลที่เกิดจากการใด ๆ 'อคติสัมภาษณ์'
แนะนำในช่วงการสัมภาษณ์ ตั้งแต่การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นพบที่จัดขึ้นอย่างล้ำลึก
ทัศนคติส่วนบุคคลและความเชื่อบางอย่างที่อาจจะมีความสำคัญในธรรมชาติที่ไม่ระบุ
ลักษณะของแบบสอบถามจะช่วยให้ผู้ตอบแบบสอบถามในการแสดงความเชื่อภายในของพวกเขาทัศนคติและ
การรับรู้ได้อย่างอิสระ.
3.12.3 โหมดของการพัฒนาแบบสอบถาม
ในฐานะที่เป็น รวมทั้งคำถามปลายเปิดปิดคำถามที่ถูกรวมอยู่ในแบบสอบถามเพื่อ
ตรวจสอบบริบทของการวิจัยโดยการถามคำถามทั่วไปเช่นอายุเพศและ
การประกอบอาชีพ คำถามหลายตัวเลือกที่ถูกว่าจ้างกับ Likert เกล็ดเพื่อให้ผู้ตอบแบบสอบถาม
80
อาจบ่งชี้ 'เข้ม' ของทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อทุกแง่มุมของงานของพวกเขาแต่ละคน Likert
ขนาดมีช่วงของตัวเลือกจาก 'เห็นด้วยอย่างยิ่ง' เป็น 'เห็นด้วยอย่างยิ่ง' เรื่องนี้ทำให้
ผู้ตอบแบบสอบถามมีความสามารถที่จะทำให้ความแตกต่างระหว่างการปรับทัศนคติ (ดาส, 2004)
แบบสอบถามเป็นโครงสร้างเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปได้ขอก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่
คำถามว่าการตรวจสอบด้านลึกของความพึงพอใจในการทำงานและความจงรักภักดี (อาหรับ 2007).
3.12.4 โครงสร้างของแบบสอบถาม
แบบสอบถามแบ่งออกเป็นหกส่วน คำอธิบายรายละเอียดและสำเนาของ
แบบสอบถามที่มีอยู่ในภาคผนวกที่ 4

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.12 การรวบรวมข้อมูลวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ 3.12.1

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ จำนวน‐
จากแบบสอบถามกึ่งสัมภาษณ์และการสนทนากลุ่ม
( FGD ) คำอธิบายของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่แสดงด้านล่าง 3.12.2

ตาม zikmund ( 2003 )แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพยังง่าย . พวกเขา‐
เป็นค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและลดการบิดเบือนข้อมูลที่เกิดจากการใด ๆ ' '
แนะนำลอยๆในระหว่างการสัมภาษณ์ เนื่องจากการวิจัยครั้งนี้ค้นพบลึกขึ้น
ส่วนตัวทัศนคติและความเชื่อบางอย่างที่อาจจะอ่อนไหวในธรรมชาติ นิรนาม
ธรรมชาติของแบบสอบถามให้ผู้ตอบแสดงความเชื่อภายใน ทัศนคติ และการรับรู้ได้อย่างอิสระ
.
3.12.3 โหมดของการพัฒนาแบบสอบถามเป็นคำถามปลายเปิด‐คำถามปิดถูกรวมไว้ในแบบสอบถาม
กำหนดบริบทของการวิจัยโดยการถามคำถามทั่วไป เช่น อายุ เพศ และอาชีพ
.คำถามแบบเลือกกลุ่มตัวอย่างที่มีระดับถึง 80 คน ผู้ตอบแบบสอบถาม

อาจบ่งชี้ ' เข้ม ' ทัศนคติที่มีต่อแต่ละด้านของงานของพวกเขา มาตราส่วน Likert
มีช่วงของตัวเลือกจาก ' เห็นด้วย ' ' เห็นด้วย ' นี้ให้
ผู้ตอบแบบสอบถามความสามารถที่จะทำให้ความแตกต่างระหว่างทัศนคติ ( ดาส , 2004 )
แบบสอบถามมีโครงสร้างเพื่อให้ข้อมูลทั่วไป ขอ ก่อนย้ายไป
คำถามที่ตรวจสอบลึกของงานด้านความพึงพอใจและความภักดี ( อาหรับ , 2007 )

3.12.4 โครงสร้างของแบบสอบถามแบ่งเป็นหกส่วน อธิบายรายละเอียด และสำเนา
แบบสอบถามสามารถใช้ได้ในภาคผนวกที่ 4