If traits responsible for resource

If traits responsible for resource use or host susceptibility to natural
enemies are not widely conserved, or if the sum of plant–soil
interactions remain neutral, relatedness may in fact be a poor
predictor of negative plant–soil feedback effects.
More than two decades of plant–soil feedback research have
generated sufficient number of studies to allow us to test the utility
of evolutionary history for predicting negative plant–soil feedback
effects. Here we present a formal meta-analysis of 329 experiments
which compared the growth response of plant species to soil
cultured by conspecifics relative to heterospecifics (133 plant
species in 276 unique pairwise interactions). For each pairwise
species interaction, we calculated Hedges’ d standardized mean
difference, where a negative effect size corresponds to a positive
plant response to heterospecific-cultured soil relative to conspecific-
cultured soil (i.e. a signal of negative plant–soil feedbacks).We
then extracted the phylogenetic distances between species pairs in
each experiment from a chronogram built using publicly available
data. We meta-regressed our calculated effect sizes on the
phylogenetic distance estimates by fitting a hierarchical Bayes
linear model that accounts for sampling dependence (e.g. same
conspecific control soils across multiple experiments), and hierarchical
dependencies (e.g. multiple experiments within the same
study) in the dataset (Stevens & Taylor, 2008). We estimated an

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หากลักษณะความรับผิดชอบในการใช้ทรัพยากรหรือความอ่อนแอเจ้าภาพธรรมชาติ
ศัตรูจะไม่ได้รับการอนุรักษ์อย่างกว้างขวางหรือถ้าผลรวมของพืชดิน
ปฏิสัมพันธ์ยังคงเป็นกลางสัมพันธ์ในความเป็นจริงอาจจะเป็นที่น่าสงสาร
ทำนายของผลการตอบรับจากพืชดินเชิงลบ.
มากกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาของ การวิจัยข้อเสนอแนะจากพืชในดินได้
สร้างจำนวนที่เพียงพอของการศึกษาที่จะช่วยให้เราสามารถทดสอบยูทิลิตี้
ของประวัติศาสตร์วิวัฒนาการในการทำนายเชิงลบจากพืชดินข้อเสนอแนะ
ผลกระทบ ที่นี่เรานำเสนอวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นทางการของการทดลอง 329
ซึ่งเมื่อเทียบกับการตอบสนองต่อการเจริญเติบโตของพันธุ์พืชในดิน
เลี้ยงโดย conspecifics เทียบกับ heterospecifics (133 พืช
ชนิดใน 276 ปฏิสัมพันธ์คู่ที่ไม่ซ้ำกัน) สำหรับแต่ละคู่
ปฏิสัมพันธ์สายพันธุ์ที่เราคำนวณพุ่มไม้ 'D มาตรฐานหมายถึง
ความแตกต่างที่มีขนาดผลกระทบสอดคล้องกับการบวก
การตอบสนองของพืชเพื่อ heterospecific เลี้ยงญาติดิน conspecific-
ดินเพาะเลี้ยง (คือสัญญาณของการตอบรับจากพืชดินเชิงลบ) เรา
แล้วแยกสายวิวัฒนาการระยะทางระหว่างคู่ชนิดใน
การทดลองจาก chronogram แต่ละสร้างขึ้นโดยใช้ที่เปิดเผยต่อสาธารณชน
ข้อมูล เรา Meta-ถดถอยขนาดอิทธิพลจากการคำนวณของเราในการ
ประมาณการระยะทางสายวิวัฒนาการโดยการปรับลำดับชั้นของเบย์
โมเดลเชิงเส้นตรงที่บัญชีสำหรับการพึ่งพาการสุ่มตัวอย่าง (เช่นเดียวกัน
การควบคุมดินชนิดเดียวกันทั่วทดลองหลาย) และลำดับชั้น
การอ้างอิง (เช่นการทดลองหลายภายในเดียวกัน
การศึกษา) ใน ชุดข้อมูล (สตีเว่นเทย์เลอร์และ 2008) เราคาด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถ้าลักษณะการใช้ทรัพยากรหรือรับผิดชอบต่อการยังไม่แพร่หลายอนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ
หรือถ้าผลรวมของพืชและดิน
การโต้ตอบยังคงเป็นกลาง แบ่งงานกันทำในความเป็นจริงอาจจะไม่ดี ) ของพืชและดิน
ลบความคิดเห็นผล .
มากกว่าสองทศวรรษของพืชดินและข้อเสนอแนะการวิจัยมีจำนวนเพียงพอ
สร้างขึ้น ของการศึกษาเพื่อให้เราทดสอบโปรแกรม
ประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของพืชและดิน เพื่อทำนายผลป้อนกลับทางลบ . ที่นี่เรานำเสนอการวิเคราะห์อย่างเป็นทางการของการทดลองเปรียบเทียบการตอบสนองที่ 329
การเจริญเติบโตของพืชในดิน โดย conspecifics
เลี้ยงญาติ heterospecifics ( 133 พืช
ชนิด 276 เฉพาะคู่ปฏิสัมพันธ์ ) สำหรับแต่ละคู่
ชนิดปฏิสัมพันธ์ที่เราคำนวณ hedges ' d
มาตรฐานหมายถึงความแตกต่างที่มีผลต่อขนาดสอดคล้องกับการเพาะเลี้ยงพืชบวก
heterospecific ดินเมื่อเทียบกับ conspecific -
เลี้ยงดิน ( เช่น สัญญาณลบของพืชและการตอบดิน ) เรา
แล้วแยกระยะทาง ซึ่งระหว่างชนิดคู่
แต่ละการทดลองจากไอพอดทัชที่สร้างขึ้นโดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่ทั่วไป

เรากลับไปคำนวณผล Meta บน
ขนาดของเราประมาณการระยะต่างๆโดยการปรับลำดับชั้น Bayes
ที่บัญชีสำหรับการพึ่งพาแบบเชิงสุ่ม ( เช่นเดียวกัน
conspecific ควบคุมดินผ่านการทดลองหลาย ) และลำดับชั้น
การอ้างอิง ( เช่นหลายการทดลองในการศึกษาเดียวกัน
) ในชุดข้อมูล ( สตีเว่น&เทย์เลอร์ , 2008 ) เราคาดว่าเป็น