The National Higher Education Entra

The National Higher Education Entrance Examination, commonly known as the gaokao (高考) was created in 1952.

The unified national tertiary entrance examination in 1952 marked the start of reform of National Matriculation Tests Policies (NMTP) in the newly established PRC. With the implementation of the first Five Year Plan in 1953, the NMTP was further enhanced. After repeated discussions and experiments, the NMTP was eventually set as a fundamental policy system in 1959. From 1958, the tertiary entrance examination system was affected by the Great Leap Forward Movement. Soon, unified recruitment was replaced by separate recruitment by individual or allied tertiary education institutions. Meanwhile, political censorship on candidate students was enhanced. Since 1962, criticism of the NMTP system had become even harsher, because it hurt benefits of the working class. On July 1966, the NMTP was officially canceled and substituted by a new admission policy of recommending workers, farmers and soldiers to college.[1] During the next ten years, the Down to the Countryside Movement, initiated by Mao Zedong, forced both senior and junior secondary school graduates, the so-called "intellectual youths", to go to the country and work as farmers in the villages. Against the backdrop of world revolution, millions of such young people, some full of religious-like fervor, joined the ranks of farmers, working and living alongside them. However, they were soon disillusioned by the reality of hard conditions in the countryside.[citation needed]

In the early 1970s, Mao Zedong realized that internal political struggle had taken too big a toll on him as well as the nation and decided to resume the operation of universities. However, the students were selected based on political and family backgrounds rather than academic achievements. This practice continued until the death of Mao in September 1976. In late 1977, Deng Xiaoping, then under Hua Guofeng, the heir apparent of Mao, officially resumed the traditional examination based on academics, the National Higher Education Entrance Examination, which has continued to the present day.

The first such examination after the Cultural Revolution took place in late 1977 and was a history-making event. There was no limit on the age and official educational background of examinees. Consequently, most of the hopefuls who had accumulated during the ten years of the Cultural Revolution and many others who simply wanted to try their luck emerged from society for the examination. The youngest were in their early teens and the oldest were in their late thirties. The questions in the examinations were designed by the individual provinces. The total number of candidate students for the national college entrance exam in 1977 was as many as 5.7 million. Although the Ministry of Education eventually expanded enrollment, adding 63,000 more to the admission quota, the admission ratio of 4.8% was the lowest in the history of the PRC, with only 272,971 students being admitted.[2]

Starting from 1978, the examination was uniformly designed by the Ministry of Education and all the students across the country took exactly the same examination.

However, reforms on the content and form of the exam have never stopped, among which the permission for individual provinces to customize their own exams has been the most salient. The Ministry of Education allowed the College Enrollment Office of Shanghai to employ an independent exam in 1985, which was the beginning of provincial proposition. In the same year, Guangdong was also permitted to adopt independent proposition. Starting from 2003, Beijing, Tianjin, Jiangsu, and Zhejiang were allowed to adopt independent propositions. Till now, there have been 16 provinces and municipalities adopting customized exams.

Although today's admission rate is much higher than in 1977, 1978 and before the 1990s, it is still fairly low compared to the availability of higher education in the Western world. Consequently, the examination is highly competitive, and the prospective examinees and their parents experience enormous pressure. For the majority, it is a watershed that divides two dramatically different lives.

• In 1970, less than 1% of Chinese people had attended higher education; however, university admissions places are less than 1/1000 of the whole population of China. In the 1970s, 70% of students who were recommended to go to university had political backgrounds reflecting the political nature of university selection at the time. At the same time, the undergraduate course system narrowed down the time from 4 years to 3 years. According to incomplete statistics, from 1966 to 1977, institutions of higher learning recruited 940,000 people who belonged to the worker-peasant-soldier group.

For most provinces, the National Higher Education Entrance Examination is held once a year (in recent years some of the provinces in China hold examinations twice a year and the extra one is called the Spring Entrance Examination). The previous schedule (before 2003) of the National Higher Education Entrance Examination was in July every year. It now takes place in June every year. Partial Provincial administrative units determine the schedule of the exams on the 7th and 8th of June.

Procedure[edit]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แห่งชาติศึกษาเข้าสอบ โดยทั่วไปเรียกว่า gaokao (高考) ถูกสร้างใน 1952การสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยรวมชาติใน 1952 เครื่องเริ่มต้นการปฏิรูปของชาติเตรียมอุดมศึกษาทดสอบนโยบาย (NMTP) ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนจัดตั้งขึ้นใหม่ กับการใช้ครั้งแรก 5 ปีแผนการใน 1953, NMTP ถูกเพิ่มเติมเพิ่ม หลังจากสนทนาซ้ำและการทดลอง NMTP มีในที่สุดได้เป็นระบบนโยบายพื้นฐานใน 1959 จาก 1958 ระบบสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยได้รับผลจากการดีกระโดดไปข้างหน้าเคลื่อนไหว เร็ว ๆ นี้ การสรรหาบุคลากรรวมถูกแทน โดยสรรหาบุคลากรแยกตามสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยแต่ละ หรือพันธมิตร ในขณะเดียวกัน การตรวจพิจารณาทางการเมืองในนักเรียนผู้สมัครถูกเพิ่ม ตั้งแต่ปี 1962 วิจารณ์ระบบ NMTP ได้กลายเป็นแม้ harsher เนื่องจากมันเจ็บประโยชน์ของชั้นทำ บน 1966 กรกฎาคม NMTP ทางถูกยกเลิก และแทน โดยศึกษานโยบายใหม่ของแนะนำแรงงาน เกษตรกร และทหารให้กับวิทยาลัย [1] ในช่วงสิบปีถัดไป ลงการเคลื่อนไหว ชนบทเริ่ม โดยเหมาเจ๋อตง บังคับทั้งอาวุโส และสำหรับเด็กมัธยมบัณฑิต เรียกว่า "ปัญญาเยาวชน" จะไปประเทศ และทำงานเป็นเกษตรกรในหมู่บ้านนั้น กับฉากหลังของการปฏิวัติโลก ล้านเช่นคนหนุ่มสาว บางเต็มเหมือนศาสนา fervor รวมถึงเกษตรกร การทำงาน และชีวิตควบคู่ไปกับพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้เร็ว ๆ นี้ผิดหวังอย่างมาก โดยความเป็นจริงของสภาพยากในชนบท [ต้องการอ้างอิง]ใน เหมาเจ๋อตงตระหนักที่ต่อสู้ทางการเมืองภายในมีมาโทรบนเขาเป็นประเทศใหญ่เกินไป และตัดสินใจที่จะดำเนินต่อการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม นักเรียนได้เลือกตามพื้นหลังทางการเมือง และครอบครัวมากกว่าที่เป็นความสำเร็จทางวิชาการ แบบฝึกหัดนี้ต่อเนื่องจนถึงการเสียชีวิตของเหมาในเดือน 1976 กันยายน ในสาย 1977 เต็ง Xiaoping แล้วภายใต้หัวกั้วเฟง ทายาทของเมา ดำเนินต่อแบบสอบตามนักวิชาการ ชาติศึกษาเข้าสอบ ซึ่งมีอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบันอย่างเป็นทางแรกเช่นการตรวจสอบหลังจากการปฏิวัติวัฒนธรรมเกิดขึ้นในปลาย 1977 และเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทำ มีได้ไม่จำกัดอายุและประวัติการศึกษาอย่างเป็นทางการของ examinees ดังนั้น ส่วนใหญ่ของ hopefuls ที่มีสะสมในช่วงสิบปีของการปฏิวัติวัฒนธรรม และหลายคนก็อยากจะลองเสี่ยงโชคเกิดจากสังคมตรวจสอบ ลูกอยู่ในวัยรุ่นแรกของพวกเขา และมีเก่าแก่ที่สุดใน thirties ของสาย คำถามในการตรวจสอบที่ถูกออกแบบ โดยแต่ละจังหวัด จำนวนผู้สมัครเรียนสำหรับการสอบเข้าวิทยาลัยแห่งชาติใน 1977 เป็น 5.7 ล้านได้ แม้ว่ากระทรวงศึกษาธิการก็ขยายลงทะเบียน เพิ่ม 63,000 เพิ่มเติมการรับสมัครโควตา อัตราค่าเข้าชม 4.8% ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีนักเรียน 272,971 เท่านั้นที่จะยอมรับ [2]ตั้งแต่ 1978 สอบสม่ำเสมอเมื่อเทียบเคียงได้ถูกออกแบบ โดยกระทรวงศึกษาธิการ และนักศึกษาทั่วประเทศจึงเหมือนการสอบเดียวกันอย่างไรก็ตาม ปฏิรูปเนื้อหาและรูปแบบของการสอบได้ไม่เคยหยุด ระหว่างสิทธิ์สำหรับแต่ละจังหวัดกำหนดสอบของตัวเองได้เด่นที่สุด กระทรวงศึกษาธิการอนุญาตให้ใช้วิทยาลัยลงทะเบียน Office ของเซี่ยงไฮ้เพื่อใช้สอบในปี 1985 อิสระซึ่งเป็นต้นของจังหวัดเสนอ ในปีเดียวกัน กวางตุ้งได้ยังสามารถนำเสนอด้วยตนเอง ตั้งแต่ 2003 ปักกิ่ง เทียนจิน มณฑลเจียง ซู และเจ้อเจียงได้รับอนุญาตให้นำเริ่มด้วยตนเอง จนถึงตอนนี้ มี 16 จังหวัดและอำเภอที่ใช้สอบแบบกำหนดเองแม้ว่าจะสูงกว่าอัตราสมัครวันนี้ใน 1977, 1978 แชมป์ร่วม และ ก่อนปี 1990 ได้ยังค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับความพร้อมของอุดมศึกษาในโลกตะวันตก ดังนั้น สอบแข่งขัน และ examinees ผู้สนใจและผู้ปกครองของพวกเขาพบความกดดันมหาศาล สำหรับส่วนใหญ่ เป็นลุ่มน้ำที่แบ่งสองชีวิตที่แตกต่างกันอย่างมาก•ในปี 1970 น้อยกว่า 1% ของคนจีนได้เข้าร่วมการศึกษา อย่างไรก็ตาม สถานรับสมัครของมหาวิทยาลัยมีน้อยกว่า 1/1000 ของประชากรทั้งหมดของจีน ในทศวรรษ 1970, 70% ของนักเรียนที่แนะนำไปยังมหาวิทยาลัยมีภูมิหลังทางการเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะทางการเมืองของการเลือกมหาวิทยาลัยในเวลา ในเวลาเดียวกัน หลักสูตรระดับปริญญาตรีระบบจำกัดลงจากเวลา 4 ปี 3 ปี ตามสถิติที่สมบูรณ์ จาก 1966 ถึง 1977 สถาบันการเรียนรู้ระดับสูงพิจารณา 940,000 คนที่เป็นสมาชิกกลุ่มทหารผู้ปฏิบัติงานชาวนาในต่างจังหวัดส่วนใหญ่ การสอบเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งชาติจะจัดขึ้นปีละครั้ง (ในบางจังหวัดในประเทศจีนถือสอบสองปีและได้เพิ่มเติมคือสอบเข้าฤดูใบไม้ผลิปีล่าสุด) กำหนดการก่อนหน้านี้ (ก่อน 2003) ของการสอบเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งชาติขึ้นในเดือนกรกฎาคมทุกปี ตอนนี้มีขึ้นในเดือนมิถุนายนทุกปี บางส่วนหน่วยบริหารจังหวัดกำหนดกำหนดการสอบในวันที่ 7 และ 8 มิถุนายน[แก้ไข] ตอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งชาติสอบคัดเลือกเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็น gaokao นี้ (高考) ถูกสร้างขึ้นในปี 1952 แบบครบวงจรแห่งชาติสอบเข้าในระดับอุดมศึกษาในปี 1952 เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปแห่งชาติบวชทดสอบนโยบาย (NMTP) ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ด้วยการดำเนินการตามแผนแรกห้าปีในปี 1953 NMTP ได้เพิ่มอีก หลังจากการอภิปรายซ้ำและการทดลองที่ NMTP ถูกกำหนดในที่สุดระบบนโยบายพื้นฐานในปี 1959 จากปี 1958 ระบบการสอบเข้าในระดับอุดมศึกษาได้รับผลกระทบจากการกระโดดการเคลื่อนไหวไปข้างหน้า เร็ว ๆ นี้การรับสมัครแบบครบวงจรก็ถูกแทนที่ด้วยการสรรหาบุคลากรที่แยกจากกันโดยสถาบันอุดมศึกษาของแต่ละบุคคลหรือพันธมิตร ในขณะเดียวกันการเซ็นเซอร์ทางการเมืองในนักเรียนผู้สมัครที่ได้รับการปรับปรุง ตั้งแต่ปี 1962 การวิจารณ์ของระบบ NMTP ได้กลายเป็นที่รุนแรงเพราะมันทำร้ายผลประโยชน์ของชนชั้นแรงงาน กรกฏาคม 1966 NMTP ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการและทดแทนตามนโยบายการรับสมัครใหม่ของการแนะนำคนงานเกษตรกรและทหารที่วิทยาลัย. [1] ในช่วงสิบปีข้างหน้าลงไปเคลื่อนไหวชนบทที่ริเริ่มโดยเหมาเจ๋อตงบังคับให้ทั้งผู้บริหารระดับสูง และจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนมัธยมที่เรียกว่า "เยาวชนทางปัญญา" ที่จะไปประเทศและทำงานเป็นเกษตรกรในหมู่บ้าน กับฉากหลังของการปฏิวัติโลกนับล้านของคนหนุ่มสาวเช่นบางที่เต็มไปด้วยความร้อนทางศาสนาเหมือนเข้าร่วมจัดอันดับของเกษตรกรทำงานและอาศัยอยู่พร้อมกับพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่แยแสเร็ว ๆ นี้โดยความเป็นจริงของสภาพอย่างหนักในชนบท. [อ้างจำเป็น] ในต้นปี 1970 เหมาเจ๋อตงรู้ว่าการต่อสู้ทางการเมืองภายในประเทศได้มีขนาดใหญ่เกินไปโทรในเขาเช่นเดียวกับประเทศและตัดสินใจที่จะกลับมา การดำเนินงานของมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตามนักเรียนที่ถูกเลือกขึ้นอยู่กับภูมิหลังทางการเมืองและครอบครัวมากกว่าความสำเร็จทางวิชาการ การปฏิบัตินี้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะตายของเหมาในเดือนกันยายนปี 1976 ในช่วงปลายปี 1977 เติ้งเสี่ยวผิงจากนั้นภายใต้ Hua Guofeng, ทายาทของเหมาที่กลับมาอย่างเป็นทางการในการตรวจสอบแบบดั้งเดิมบนพื้นฐานของนักวิชาการที่ศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งชาติเข้าสอบซึ่งยังคง ยุคปัจจุบัน. การตรวจสอบดังกล่าวเป็นครั้งแรกหลังจากการปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 1977 และเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การทำ ไม่มีการ จำกัด อายุและวุฒิการศึกษาอย่างเป็นทางการของผู้สอบเป็น ดังนั้นส่วนใหญ่ของ hopefuls ที่ได้สะสมในช่วงสิบปีของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมและอื่น ๆ อีกหลายคนก็อยากจะลองโชคของพวกเขาโผล่ออกมาจากสังคมสำหรับการตรวจสอบ ที่อายุน้อยที่สุดอยู่ในช่วงวัยรุ่นของพวกเขาและที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ในวัยสามสิบปลายของพวกเขา คำถามในการสอบได้รับการออกแบบโดยแต่ละจังหวัด จำนวนรวมของนักเรียนผู้สมัครสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติในปี 1977 เป็นมากที่สุดเท่าที่ 5.7 ล้าน แม้ว่ากระทรวงศึกษาธิการในที่สุดก็ลงทะเบียนขยายเพิ่ม 63,000 มากขึ้นในโควต้าเข้ารับการรักษาอัตราส่วนการรับสมัคร 4.8% ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีเพียง 272,971 นักเรียนเข้ารับการรักษา. [2] เริ่มจากปี 1978 การตรวจสอบคือ ออกแบบมาอย่างสม่ำเสมอโดยกระทรวงการศึกษาและนักเรียนทุกคนทั่วประเทศเอาว่าการตรวจสอบเหมือนกัน. แต่การปฏิรูปในเนื้อหาและรูปแบบของการสอบไม่เคยหยุดในระหว่างที่ได้รับอนุญาตสำหรับแต่ละจังหวัดในการปรับแต่งการสอบของตัวเองได้รับ เด่นมากที่สุด กระทรวงศึกษาธิการได้รับอนุญาตให้วิทยาลัยการลงทะเบียนสำนักงานเซี่ยงไฮ้ที่จะจ้างงานการสอบที่เป็นอิสระในปี 1985 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องที่จังหวัด ในปีเดียวกันกวางตุ้งได้รับอนุญาตนอกจากนี้ยังจะนำข้อเสนอที่เป็นอิสระ เริ่มต้นจาก 2003, ปักกิ่ง, เทียนจิน, มณฑลเจียงซูและเจ้อเจียงได้รับอนุญาตให้นำข้อเสนอที่เป็นอิสระ จนถึงขณะนี้มีการ 16 จังหวัดและเทศบาลการนำสอบที่กำหนดเอง. แม้ว่าอัตราการเข้ารับการรักษาในปัจจุบันจะสูงกว่าในปี 1977 ปี 1978 และก่อนปี 1990 ก็ยังคงเป็นที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับความพร้อมของการศึกษาที่สูงขึ้นในโลกตะวันตก ดังนั้นการตรวจสอบมีการแข่งขันสูงและสอบและผู้ปกครองของพวกเขาได้สัมผัสกับแรงกดดันมหาศาล ส่วนใหญ่ก็เป็นสันปันน้ำที่แบ่งสองชีวิตที่แตกต่างกันอย่างมาก. •ในปี 1970 น้อยกว่า 1% ของคนจีนได้เข้าร่วมการศึกษาที่สูงขึ้น แต่สถานที่รับสมัครมหาวิทยาลัยน้อยกว่า 1/1000 ของประชากรทั้งหมดของประเทศจีน ในปี 1970 ที่ 70% ของนักเรียนที่ได้รับการแนะนำให้ไปที่มหาวิทยาลัยมีภูมิหลังทางการเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะทางการเมืองของการเลือกมหาวิทยาลัยในเวลา ในขณะเดียวกันระบบการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีแคบลงเวลาจาก 4 ปีถึง 3 ปี ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์ 1966-1977 สถาบันการศึกษาระดับสูงที่ได้รับคัดเลือก 940,000 คนซึ่งเป็นกลุ่มคนงาน-ชาวนาทหาร. สำหรับจังหวัดที่สอบเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งชาติจะจัดขึ้นปีละครั้ง (ในปีที่ผ่านมาบางส่วนของ จังหวัดในประเทศจีนถือการสอบปีละสองครั้งและเป็นคนพิเศษที่เรียกว่าฤดูใบไม้ผลิเข้าตรวจสอบ) ตารางก่อนหน้า (ก่อน 2003) ของการศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งชาติสอบคัดเลือกเป็นในเดือนกรกฎาคมของทุกปี ตอนนี้มันจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปี หน่วยการบริหารบางส่วนจังหวัดกำหนดตารางเวลาของการสอบในวันที่ 7 และ 8 มิถุนายน. ขั้นตอน [แก้ไข]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสอบเข้าอุดมศึกษาแห่งชาติ ที่รู้จักกันทั่วไปเป็นเกาเข่า ( 高考 ) ถูกสร้างขึ้นในปี 1952 .

รวมชาติลำดับที่สอบคัดเลือกในปี 1952 เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปนโยบายเรียนการทดสอบแห่งชาติ ( nmtp ) ในการจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน กับการดำเนินงานของแผนห้าปีแรกในปี 1953 , nmtp เพิ่มขึ้นต่อไปหลังจากการอภิปรายและการทดลองซ้ำ , nmtp ในที่สุดตั้งเป็นระบบนโยบายพื้นฐานในปี 1959 จาก 1958 , สอบเข้าระดับอุดมศึกษาระบบได้รับผลกระทบจากมหาก้าวไปข้างหน้าการเคลื่อนไหว เร็ว ๆ นี้ ซึ่งการสรรหาแทน โดยแยกการสรรหาบุคคลหรือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา . ในขณะเดียวกันการเซ็นเซอร์ในนักเรียนผู้สมัครมากขึ้น ตั้งแต่ 1962 , วิจารณ์ระบบ nmtp ได้กลายเป็นที่รุนแรงขึ้น เพราะมันทำร้ายผลประโยชน์ของชนชั้น บนกรกฎาคม 1966 , nmtp ประกาศยกเลิกและทดแทนด้วยการรับนักเรียนใหม่ของเรื่องแรงงาน เกษตรกร และทหารวิทยาลัย [ 1 ] ในอีกสิบปี ลงสู่ชนบทการเคลื่อนไหวริเริ่มโดย เหมา เจ๋อตง บังคับทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องที่จบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เรียกว่า " ปัญญาเยาวชน " ไปทำงานประเทศและเกษตรกรในหมู่บ้าน กับฉากหลังของการปฏิวัติโลก คนหลายล้านคนหนุ่ม บางศาสนา เช่น เต็มไปด้วยความเร่าร้อนร่วมจัดอันดับของเกษตรกร ทำงานและอาศัยอยู่กับพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รู้ความจริงว่า จริง ยาก เงื่อนไขในชนบท . [ อ้างอิงที่จำเป็น ]

ในช่วงต้นทศวรรษ เหมาเจ๋อตงก็ตระหนักได้ว่า การต่อสู้ทางการเมืองภายในมีขนาดใหญ่เกินไปโทรบนเขารวมทั้งประเทศและตัดสินใจต่อการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม นักเรียนเลือกตามครอบครัวและภูมิหลังทางการเมือง มากกว่าความสำเร็จทางวิชาการการปฏิบัตินี้ต่อไปจนกว่าความตายของเหมาในเดือนกันยายน 1976 . ในปลายปีพ.ศ. 2520 , เติ้ง เสี่ยวผิง จากนั้นภายใต้หัวกั๊วเฟิง รัชทายาทของเหมา อย่างเป็นทางการต่อการตรวจสอบแบบดั้งเดิมตามนักวิชาการ สอบเข้าอุดมศึกษาแห่งชาติซึ่งมีอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ครั้งแรกเช่นตรวจหลังการปฏิวัติทางวัฒนธรรมเกิดขึ้นในปลายปี 2520 และมีการสร้างประวัติศาสตร์เหตุการณ์ ไม่จํากัดอายุและประวัติการศึกษาอย่างเป็นทางการของผู้สอบ . ดังนั้นส่วนใหญ่ของ hopefuls ที่มีการสะสมในช่วงสิบปีของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม และคนอื่น ๆที่เพียงต้องการที่จะลองโชคของพวกเขาโผล่ออกมาจากสังคม สำหรับการสอบน้องเล็กอยู่ในวัยรุ่นของพวกเขาก่อนและที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ในช่วงสามสิบ . คำถามในการสอบถูกออกแบบโดยจังหวัดของแต่ละบุคคล จำนวนของผู้สมัครนักเรียนสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติในปี 1977 เป็นมากเป็น 5.7 ล้าน แม้ว่ากระทรวงศึกษาธิการในที่สุดการขยายเพิ่มอีก 63 , 000 เข้าโควต้ารับอัตรา 4.8 % ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ของ จีน มีเพียง 272971 นักเรียนยอมรับ [ 2 ]

เริ่มจากปี 1978 ตรวจอย่างสม่ำเสมอ ออกแบบโดย กระทรวงศึกษาธิการและนักเรียนทั้งหมดทั่วประเทศก็เหมือนกัน . .

แต่การปฏิรูปในเนื้อหาและ รูปแบบของการสอบไม่เคยหยุดระหว่างที่ได้รับอนุญาตสำหรับแต่ละจังหวัด เพื่อปรับการสอบเองได้ สำคัญที่สุด กระทรวงศึกษาธิการอนุญาตให้วิทยาลัยการลงทะเบียนสำนักงานเซี่ยงไฮ้จ้างสอบอิสระในปี 1985 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการยื่นข้อเสนอ ในปีเดียวกัน , Guangdong ยังอนุญาตอุปการะอิสระข้อเสนอ ตั้งแต่ 2003 , ปักกิ่ง , เทียนจิน ,มณฑลเจียงซู และเจ้อเจียงได้รับอนุญาตให้รับข้อเสนอที่เป็นอิสระ จนถึงตอนนี้ มี 16 จังหวัดและเทศบาล ที่ใช้สอบเอง

แม้ว่าอัตราค่าเข้าชมในวันนี้คือ สูงกว่าในปี 1977 , 1978 และก่อนปี 1990 ก็ยังค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับความพร้อมของการอุดมศึกษาในโลกตะวันตก ดังนั้น การสอบแข่งขันสูงและผู้สอบ อนาคต และพ่อแม่ของพวกเขา ประสบการณ์ ความกดดันมหาศาล สำหรับคนส่วนใหญ่ มันคือสันปันน้ำที่แบ่งสองชีวิตที่แตกต่างกันอย่างมาก

- 1970 น้อยกว่า 1% ของประชาชนจีนได้เข้าร่วมการศึกษาที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การรับสมัครมหาวิทยาลัยสถานที่จะน้อยกว่า 1 / 1000 ของประชากรทั้งหมดของจีน ในทศวรรษร้อยละ 70 ของนักเรียนที่ได้รับการแนะนำเพื่อไปที่มหาวิทยาลัย มีภูมิหลังทางการเมืองสะท้อนการเมือง ธรรมชาติของการเลือกมหาวิทยาลัยในเวลา ใน เวลาเดียวกัน หลักสูตรระดับปริญญาตรี ระบบจะจำกัดเวลาจาก 4 ปี เป็น 3 ปี ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์จาก 2509 ถึง 2519 , สถาบันของการเรียนรู้ที่สูงขึ้นเป็น 940 ,000 คน เป็นของคนงานชาวนาทหารกลุ่ม

สำหรับจังหวัดส่วนใหญ่ สอบเข้าอุดมศึกษาแห่งชาติจะจัดขึ้นปีละครั้ง ( ในปีล่าสุดบางส่วนของจังหวัดในประเทศจีน จัดสอบปีละสองครั้งและพิเศษหนึ่งเรียกว่าฤดูใบไม้ผลิสอบคัดเลือก )กำหนดการเดิม ( ก่อนปี 2546 ) ของการสอบเข้าอุดมศึกษาแห่งชาติ คือ ในเดือน กรกฎาคม ทุกปี ตอนนี้จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปี หน่วยการบริหารส่วนจังหวัด ตรวจสอบตารางการสอบ ในวันที่ 7 และ 8 มิถุนายน

[ ]
ขั้นตอนการแก้ไข