Studies based on APFMGS data showed

Studies based on APFMGS data showed that during the period 2003–2009, reductions did indeed take place in many HUNs.
There was a signifcant shift from water-intensive crops to water-saving crops and the value of crop production increased, thus belying concerns about loss of income.
There was substantial expansion of micro-irrigation and soil-water conservation measures.
The massive volume of hydro-geological information, including GIS maps, that many HUNs generated, impressed many a visitor; and some HUNs began generating revenue by selling this information.
Local politicians lent support to make the APFMGS approach the centre-pin of state policy.
A 2010 World Bank study declared APFMGS a ‘proven model’ for community-based groundwater governance (Steenbergen, 2010).
Another World Bank assessment (Pahuja et al., 2010) argued that,“Community management offers an alternative mechanism to state enforcement for groundwater management…there is now a critical mass of experience [in APFMGS] for designing models that could be viable at least for the hard-rock settings in India.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาตามข้อมูลของ APFMGS ที่แสดงให้เห็นว่า ช่วง 2003 – 2009 ลดได้จริงเกิดขึ้นในชาวฮันหลาย กะ signifcant จากพืชน้ำเข้มข้นพืชประหยัดน้ำและค่าของการผลิตพืชเพิ่มขึ้น ดังนั้น เขียวความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียรายได้มาก การขยายมาตรการอนุรักษ์ดินน้ำและชลประทานขนาดเล็กที่พบได้ แผนที่ธรณีวิทยาไฮโดรข้อมูล รวมทั้ง GIS ระดับใหญ่ ว่า ชาวฮันหลายสร้าง ประทับใจมากผู้เยี่ยมชม และบางอย่างชาวฮันเริ่มสร้างรายได้จากการขายข้อมูลนี้ นักการเมืองท้องถิ่นยืมเงินสนับสนุนเพื่อให้วิธีการ APFMGS ศูนย์พินของนโยบายรัฐ การศึกษาธนาคารโลก 2010 ประกาศ APFMGS 'พิสูจน์แบบ' สำหรับการกำกับดูแลกิจการน้ำบาดาลที่ชุมชน (อุทยานแห่งชาติ 2010) ธนาคารโลกประเมินอื่น (Pahuja et al. 2010) โต้เถียงที่, "การจัดการชุมชนให้มีกลไกอื่นให้รัฐบังคับใช้สำหรับการจัดการน้ำบาดาล...ขณะนี้มีจำนวนมากประสบการณ์ [APFMGS] สำหรับการออกแบบรูปแบบที่สามารถทำงานได้น้อยสำหรับการตั้งค่าฮาร์ดร็อคในอินเดีย "

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาบนพื้นฐานของข้อมูล APFMGS แสดงให้เห็นว่าในช่วง 2003-2009 ที่ลดลงไม่แน่นอนเกิดขึ้นในหลายฮั่น.
มีการเปลี่ยนแปลง signifcant จากพืชน้ำอย่างเข้มข้นให้กับพืชประหยัดน้ำและความคุ้มค่าของการผลิตพืชเพิ่มขึ้นเป็นจึง belying ความกังวลเกี่ยวกับ . สูญเสียรายได้
. มีการขยายตัวที่สำคัญของไมโครชลประทานและดินน้ำมาตรการอนุรักษ์เป็น
ปริมาณมหาศาลของข้อมูล Hydro-ธรณีวิทยารวมทั้งแผนที่ GIS ที่หลายฮั่นที่สร้างความประทับใจให้ผู้เข้าชมจำนวนมาก; และบางฮั่นเริ่มสร้างรายได้จากการขายข้อมูลนี้.
นักการเมืองท้องถิ่นให้การสนับสนุนเพื่อให้ APFMGS แนวทางศูนย์ขาของนโยบายของรัฐ.
2010 การศึกษาธนาคารโลกประกาศ APFMGS ว่า 'รูปแบบการพิสูจน์แล้วสำหรับชุมชนตามการกำกับดูแลกิจการน้ำบาดาล (Steenbergen 2010 ).
อีกการประเมินของธนาคารทั่วโลก (Pahuja et al., 2010) แย้งว่า "การบริหารจัดการชุมชนมีกลไกทางเลือกที่จะให้รัฐบังคับใช้สำหรับการบริหารจัดการน้ำบาดาล ... ตอนนี้จะมีมวลที่สำคัญของประสบการณ์ [ใน APFMGS] สำหรับรูปแบบการออกแบบที่สามารถทำงานได้ อย่างน้อยสำหรับการตั้งค่าฮาร์ดร็อคในอินเดีย. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศึกษาจากข้อมูล พบว่า ในช่วง apfmgs 2003 – 2009 ซึ่งมันเกิดขึ้นในหลายฮั่นมีการเปลี่ยนแปลงจากแบบทดสอบน้ำพืชเพื่อประหยัดน้ําพืชและมูลค่าของการผลิตพืชเพิ่มขึ้น ดังนั้น belying ความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียของรายได้มีการขยายตัวอย่างมากของชลประทานจุลภาคและมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ .น้ำปริมาณมหาศาลของข้อมูลทางธรณีวิทยา รวมถึงแผนที่ GIS ที่มากมายทำให้สร้างประทับใจมากของผู้เข้าชม และบางฮั่นเริ่มสร้างรายได้ โดยการขายข้อมูลนี้นักการเมืองท้องถิ่นให้สนับสนุนให้ apfmgs เข้าใกล้ศูนย์ พินของนโยบายรัฐการศึกษา 2553 ธนาคารโลกประกาศ apfmgs " พิสูจน์ " สำหรับชุมชนแบบธรรมาภิบาลน้ำใต้ดิน ( Steenbergen , 2010 )อีกโลกหนึ่งที่ธนาคารประเมิน ( pahuja et al . , 2010 ) แย้งว่า " การจัดการชุมชนมีกลไกทางเลือกที่จะบังคับใช้รัฐเพื่อการจัดการ . . . . . . . . ขณะนี้มีมวลวิกฤติของประสบการณ์ [ ] สำหรับ apfmgs แบบจำลองการออกแบบที่สามารถทำงานได้ อย่างน้อยก็สำหรับฮาร์ดร็อคการตั้งค่าในอินเดีย " .