The thing they have in common is th

The thing they have in common is that they are all focusing on innovation and creativity. Moreover, they all gain not only huge success in business but good reputation and respect from people because of that innovation. They are all billionaires. Each leader has their own leadership style to manage people. Taking Larry Page and Steve Jobs for instance, Larry Page is preferred to the transformational leadership style while Steve Jobs tends to use the transactional leadership. According to Ibarra, Santamaria, Lindsey and Daly (2012), transactional leaders tend to set clear performance expectations, monitor performance, take corrective action on deviation, and enforce rules to avoid future mistakes while transformational leadership is associated with increased organizational outcomes, including higher levels of job satisfaction, opportunities to develop and realize personal goals, and increased opportunities for intellectual.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิ่งพวกเขามีกันคือ ว่า พวกเขาทั้งหมดเน้นนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ พวกเขาทั้งหมดได้ไม่มากเท่าความสำเร็จในธุรกิจแต่เกียรติและความเคารพจากคน เพราะนวัตกรรมที่ พวกเขามีทั้งหมดฟอบส์ ผู้นำแต่ละลักษณะเป็นผู้นำของตนเองเพื่อจัดการคนได้ การงาน Steve และแลร์รีเพจเช่น แลร์รีเพจได้ต้องลักษณะภาวะผู้นำในขณะที่ Steve งานมีแนวโน้มที่จะ ใช้นำทรานแซคชัน ตาม Lindsey Ibarra, Santamaria และ Daly (2012), ผู้นำธุรกรรมมักจะ ตั้งความคาดหวังประสิทธิภาพที่ชัดเจน ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน ดำเนินการแก้ไขความเบี่ยงเบน และการบังคับใช้กฎเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในอนาคตในขณะที่ภาวะผู้นำการเชื่อมโยงกับผลลัพธ์องค์กรเพิ่มขึ้น รวมถึงงานความพึงพอใจ โอกาสในการพัฒนา และตระหนักถึงเป้าหมายส่วนบุคคล ระดับสูง และเพิ่มโอกาสทางปัญญา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือว่าพวกเขาจะมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้พวกเขาทั้งหมดได้รับไม่เพียง แต่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ แต่ชื่อเสียงที่ดีและเคารพจากคนเพราะนวัตกรรมที่ พวกเขาเป็นมหาเศรษฐีทั้งหมด ผู้นำแต่ละคนมีสไตล์ของตัวเองเป็นผู้นำในการจัดการคน การ Larry Page และสตีฟจ็อบส์เช่น Larry Page เป็นที่ต้องการกับรูปแบบภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในขณะที่สตีฟจ็อบส์มีแนวโน้มที่จะใช้ความเป็นผู้นำในการทำธุรกรรม ตามโลเม Santamaria, ลินด์เซและดาลี่ (2012) ผู้นำการทำธุรกรรมมีแนวโน้มที่จะตั้งความคาดหวังผลการดำเนินงานที่ชัดเจนและผลการดำเนินงานตรวจสอบดำเนินการแก้ไขในส่วนเบี่ยงเบนและบังคับใช้กฎระเบียบที่จะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในอนาคตในขณะที่ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลองค์กรที่เพิ่มขึ้นรวมถึงการที่สูงขึ้น ระดับของความพึงพอใจในงานโอกาสที่จะพัฒนาและตระหนักถึงเป้าหมายส่วนบุคคลและโอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับทางปัญญา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือว่าพวกเขากำลังทั้งหมดที่เน้นนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้พวกเขาได้รับไม่เพียง แต่ขนาดใหญ่ ความสำเร็จในธุรกิจ แต่ชื่อเสียงและความเคารพจากผู้คนเพราะนวัตกรรม พวกเศรษฐี แต่ละหน้ามีรูปแบบภาวะผู้นำของตนเองในการจัดการคน ถ่าย Larry Page และสตีฟงานตัวอย่างแลร์รี่เพจต้องการรูปแบบภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในขณะที่สตีฟจ็อบส์มีแนวโน้มที่จะใช้ภาวะผู้นำของทรานแซคชัน ตามบาร์ราซานตามาเรียลินด์เซย์ , และ , ดาลี่ ( 2012 ) , ผู้นำด้านมักจะตั้งความคาดหวังการปฏิบัติงานที่ชัดเจน , การตรวจสอบประสิทธิภาพ , ดําเนินการแก้ไขในส่วนเบี่ยงเบนและบังคับใช้กฎเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในอนาคต ขณะที่ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการเพิ่มผลลัพธ์ขององค์การ ได้แก่ ระดับความพึงพอใจในงาน โอกาสที่จะพัฒนาและตระหนักเป้าหมายส่วนบุคคล และโอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับปัญญา