The study of experimental study con

The study of experimental study conducted by fermenting compost from municipal waste, vegetable waste, Yasothon Province Thailand. by the catalyst using are bio-fermented and catalyst microorganisms from the Department of land development(PD1). The dilution rate are1:200 1:100 and 1:50 In order to reduce the period of composting from municipal waste Yasothon Province Thailand. The three types of experiments. Type A Solid Waste Division 6 pile by 3 first put accelerator biologically fermented, 3 division final put PD1. By dilution rate 1:200. Type B Solid Waste Division 6 pile by 3 first put accelerator biologically fermented 3 division final put PD1. By dilution rate 1:100. Type C Solid Waste Division 9 pile by 3 first put accelerator biologically fermented, 3 division another put PD1. By dilution rate 1:50, 3 division final put only water. Repeat 3 times, Humidity controlled by reverse the fertilizer and humidity measurement at 16.30 every day.
Result showed that the started temperature and end point temperature of the compost pile all are near Equivalent, But different duration the end of the fermentation process. The accelerators used the degradation is biologically fermented at dilution rate 1:50 Fermentation period average 29 days. Which end of the fermentation process of this study found that degradation is compost faster than plain water for 7 days (36 days). In conclusion, the kind catalyst that brought composting is an important factor that contributed to the compost has decomposed faster, and there are also other factors that contributed to the compost to an end as soon as the type and composition. the compost material is a mixture of compost as well as keeping the moisture level of the compost pile, which controls the level of the potassium from this study showed that all compost pile volume. nitrogen, phosphorus, potassium, according to the standards of the Department of Agriculture in 2548.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาการศึกษาทดลองโดยการหมักปุ๋ยหมักจากขยะ ขยะผัก ไทยจังหวัดยโสธร โดยตัวเร่งปฏิกิริยาใช้จะหมักชีวภาพและจุลินทรีย์เศษจากกรมที่ดิน development(PD1) Are1:200 เจือจางอัตรา 1: 100 และ 1:50 เพื่อลดระยะเวลาของการหมักจากจังหวัดยโสธรเทศบาลขยะประเทศไทย สามประเภทของการทดลอง ชนิด A ของแข็งขยะกอง 6 กอง โดย 3 ครั้งแรกใส่ตัวเร่งทางชีวภาพหมัก 3 ส่วนสุดท้ายใส่ PD1 โดยเจือจางอัตรา 1: 200 กอง 6 กองขยะแข็งชนิด B โดยแรก 3 ใส่ตัวเร่งทางชีวภาพหมัก 3 ส่วนสุดท้ายใส่ PD1 โดยเจือจางอัตรา 1: 100 กอง C ไม้เสียหาร 9 ชนิด โดย 3 ครั้งแรกใส่ PD1 อื่นใส่ตัวเร่งทางชีวภาพหมัก ดิวิชั่น 3 โดยเจือจางอัตรา 1:50, 3 ส่วนสุดท้ายใส่น้ำเท่านั้น ทำซ้ำ 3 ครั้ง ควบคุมความชื้น โดยย้อนกลับปุ๋ยและความชื้นวัดเวลา 16.30 น.ทุกวัน ผลพบว่า อุณหภูมิเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดอุณหภูมิของการหมักกองทั้งหมดอยู่ใกล้เทียบเท่า แต่แตกต่างกันระยะเวลาสิ้นสุดของกระบวนการหมัก เร่งใช้การย่อยสลายทางชีวภาพจะหมักที่ระยะเวลาหมักเจือจางอัตรา 1:50 29 วัน ซึ่งตอนท้ายของกระบวนการหมักของการศึกษานี้พบว่าย่อยสลายเป็นปุ๋ยหมักได้เร็วกว่าน้ำธรรมดา 7 วัน (36 วัน) ในบทสรุป ตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดที่นำมาหมักนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ปุ๋ยหมักย่อยสลายได้เร็วขึ้น และยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำใหการหมักสิ้นสุดทันทีประเภทและองค์ประกอบ วัสดุปุ๋ยหมักที่มีส่วนผสมของปุ๋ยหมักเช่นเดียวกับการรักษาระดับความชื้นของกองปุ๋ยหมัก ซึ่งควบคุมระดับของโพแทสเซียมจากการศึกษานี้ แสดงให้เห็นว่า ทั้งปุ๋ยหมักปริมาณกอง ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ตามมาตรฐานของกรมวิชาการเกษตรในปีพ.ศ. 2548

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาการศึกษาทดลองดำเนินการโดยการหมักปุ๋ยหมักจากขยะของเสียผักจังหวัดยโสธรประเทศไทย โดยตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้เป็นจุลินทรีย์ชีวภาพหมักและตัวเร่งปฏิกิริยาจากกรมพัฒนาที่ดิน (PD1) ได้ 1 อัตราการเจือจาง: 200 1: 100 และ 01:50 เพื่อลดระยะเวลาในการทำปุ๋ยหมักจากขยะในเขตเทศบาลเมืองจังหวัดยโสธรประเทศไทย สามประเภทของการทดลอง พิมพ์ที่เป็นของแข็งกองขยะ 6 กอง 3 ก่อนนำตัวเร่งหมักชีวภาพ 3 ส่วนใส่สุดท้าย PD1 โดยอัตราการเจือจาง 1: 200 ประเภท B ขยะกอง 6 กอง 3 ก่อนนำตัวเร่งทางชีวภาพหมัก 3 ส่วนใส่สุดท้าย PD1 โดยอัตราการเจือจาง 1: 100 Type C ขยะส่วนที่ 9 การกอง 3 ก่อนนำตัวเร่งทางชีวภาพหมัก 3 อีกฝ่ายใส่ PD1 โดยอัตราการเจือจาง 01:50 3 ส่วนสุดท้ายใส่น้ำเท่านั้น ทำซ้ำ 3 ครั้งความชื้นควบคุมโดยย้อนกลับปุ๋ยและความชื้นวัดเวลา 16.30 ทุกวัน.
ผลการศึกษาพบว่าอุณหภูมิที่เริ่มต้นและจุดสิ้นสุดอุณหภูมิจุดกองปุ๋ยหมักทั้งหมดอยู่ใกล้เทียบเท่า แต่ระยะเวลาที่แตกต่างกันในตอนท้ายของกระบวนการหมัก เครื่องเร่งอนุภาคที่ใช้ในการย่อยสลายทางชีวภาพหมักในอัตราเจือจาง 01:50 ระยะเวลาการหมักเฉลี่ย 29 วัน ซึ่งท้ายของกระบวนการหมักของการศึกษานี้พบว่าการย่อยสลายเป็นปุ๋ยหมักได้เร็วกว่าน้ำธรรมดาเป็นเวลา 7 วัน (36 วัน) ในการสรุปตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดที่นำมาทำปุ๋ยหมักเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการหมักย่อยสลายได้เร็วขึ้นและนอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีส่วนทำให้ปุ๋ยหมักถึงจุดสิ้นสุดโดยเร็วชนิดและองค์ประกอบ วัสดุปุ๋ยหมักเป็นส่วนผสมของปุ๋ยหมักรวมทั้งการรักษาระดับความชุ่มชื้นของกองปุ๋ยหมักที่ควบคุมระดับของโพแทสเซียมจากการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าปริมาณการกองปุ๋ยหมัก ไนโตรเจนฟอสฟอรัสโพแทสเซียมเป็นไปตามมาตรฐานของกรมวิชาการเกษตรใน พ.ศ. 2548

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาทดลองจากการศึกษาโดยหมักปุ๋ยอินทรีย์จากขยะเทศบาล ขยะผัก จังหวัดยโสธร ประเทศไทย โดยตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาชีวภาพและจุลินทรีย์ที่หมักจากกรมพัฒนาที่ดิน ( pd1 ) อัตราการเจือจาง 1 : 100 : 50 are1:200 และเพื่อลดระยะเวลาในการทำปุ๋ยหมักจากขยะเทศบาล จ. ยโสธร ) สามประเภทของการทดลอง ประเภทของขยะกอง 6 กอง โดย 3 ครั้งแรก ใส่ตัวเร่งทางชีวภาพที่หมัก 3 ส่วนสุดท้ายใส่ pd1 . โดยอัตราเจือจาง 1:200 . ประเภท B แผนก 6 กอง โดย 3 อันดับแรกขยะใส่คันเร่ง 3 กองสุดท้ายใส่น้ำหมักชีวภาพที่ได้ pd1 . โดยอัตราเจือจาง 1 : 100 . ประเภท C ขยะกอง 9 กองโดย 3 ครั้งแรก ใส่ตัวเร่งทางชีวภาพที่หมัก 3 ส่วนอื่นใส่ pd1 . โดยอัตราเจือจาง 1 : 50 , 3 กองสุดท้ายใส่แค่น้ำ ย้ำ 3 ครั้ง ความชื้น ควบคุมโดยกลับปุ๋ยและ 16.30 ทุกวัน วัดความชื้นพบว่าอุณหภูมิและจุดปลายเริ่มอุณหภูมิกองปุ๋ยหมักทั้งหมดใกล้เทียบเท่า แต่แตกต่างกันที่ระยะเวลาสิ้นสุดของกระบวนการหมัก การใช้สารเร่งการย่อยสลาย คือ น้ำหมักชีวภาพที่ได้จากการหมักอัตราการเจือจางน้อยกว่าระยะเวลาเฉลี่ย 29 วัน ที่สิ้นสุดของกระบวนการหมักจากผลการศึกษาพบว่า การเป็นปุ๋ยหมักได้เร็วกว่าน้ำธรรมดา 7 วัน ( 36 วัน ) สรุป เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่นำมาทำปุ๋ยหมักเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ได้ปุ๋ยหมักย่อยสลายเร็วขึ้น และยังมีปัจจัยอื่น ๆที่สนับสนุนให้ปุ๋ยหมักจะสิ้นสุดทันทีที่ประเภทและองค์ประกอบที่ วัสดุปุ๋ยหมักเป็นส่วนผสมของปุ๋ยหมัก รวมทั้งรักษาความชื้นในกองปุ๋ยหมัก ซึ่งการควบคุมระดับของโพแทสเซียม จากการศึกษาพบว่า กองปุ๋ยหมักปริมาณ ไนโตรเจน , ฟอสฟอรัส , โพแทสเซียม , ตามมาตรฐานของกรมวิชาการเกษตรใน 2548