ประวัติโดยย่อ
อับราฮัม ลินคอล์น เกิดเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 1809 ในแถบชนบทของรัฐแคนตักกี้ บ้านของเขามีฐานะยากจนมาก เขาเป็นคนที่ไม่มีโอกาสได้ไปโรงเรียนจึงต้องเรียนด้วยตนเองจากการอ่านหนังสือและท่องโลกกว้าง ซึ่งครั้งแรกคือการล่องเรือตามแม่น้ำเพื่อไปยังรัฐนิวออลีนส์เมื่อปี ค.ศ. 1828 และต่อมาเขาก็ได้มาอยู่ที่รัฐนิวออลีนส์ ในอีก2ปีถัดมา เขาเป็นคนซื่อสัตย์และจริงใจทำให้ชาวเมืองส่วนใหญ่ชอบเขาและให้เขาเป็นผู้นำกลุ่มอาสาสมัครเพื่อเข้าร่วมสงครามแบล็ค ฮอว์ค แต่ก็ไม่ได้ไปร่วมสงคราม และเขาก็ได้มีโอกาสเรียนด้านกฎหมายรวมถึงได้เจอกับ แอน รัทเลดจ์ และทั้งคู่ได้มีความสัมพันธ์กัน
ในปี ค.ศ. 1834 อับราฮัม ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐโดยอยู่ในตำแหน่ง 4 สมัยจนถึงปี 1841 และได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพรรคริพับลิกัน ย้อนกลับไปช่วงปี 1836 เขาได้รับใบอนุญาตประกอบอาชีพทนายความ ซึ่งมีหุ้นส่วนทางกฎหมายคือจอห์น ที สจ๊วต และได้มีงานว่าความอย่างต่อเนื่อง เบื้องหลังความสำเร็จครั้งมากจากสตีเฟ่น ที โลแกน และวิลเลี่ยม เอช เฮิร์นดอน ซึ่งเขาคือคนที่อยู่กับอับราฮัมตลอดและได้เขียนอัตชีวประวัติ ของลินคอล์นด้วย ในปี 1842 เขาหลุดพ้นจากปัญหาติดพันผู้หญิงด้วยการแต่งงานกับแมรี่ ทอดด์ และก็ได้ทำงานที่สภาครองเกรส 1 สมัย ช่วงปี 1847-1849 ในช่วงนั้นเขาได้ใช้โอกาสนี้ในการลงเลือกตั้งผู้สมัครพรรคริพับบลิกัน แต่เขาสอบตกและได้หันหลังให้กับการเมืองไป
ใช่ว่าเขาจะยอมแพ้อับราฮัมกลับมาอีกครั้งในปี 1854 โดยเขานำความขัดแย้งเรื่องทาสมาเป็นประเด็นและได้ประกาศเอกราชไว้ในสุนทรพจน์ที่เมืองสปริงฟิลด์และพีโอเรีย ในปีถัดมาเขาลงสมัครวุฒิสมาชิกแต่ก็พลาดไปอีก ต่อมาในปี 1856 เขาได้เข้าพรรคริพับลิกัน และโดดเด่นขึ้นมาโดยการคัดค้านเรื่องทาสและด้วยนิสัยของเขาทำให้เขาได้รับการไว้วางใจและยอมรับจากทั้งกลุ่มก้าวหน้าผู้ต้องการเลิกทาสและกลุ่มรัฐอิสระที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด สองปีต่อมาเขาได้รับการแต่งตั้งจากพรรคฯให้เป็นตัวแทนเพื่อชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกในรัฐอิลลินอยส์
อับราฮัม ยังคงหาเสียงต่อไปเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 1860 แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกต่อดักลาสแล้วก็ตาม จนในที่สุดเขาก็ได้รับชัยชนะ แต่ก็มีฝ่ายใต้ที่ไม่เห็นด้วกับอับราฮัมจึงแยกตัวออกไป 7 รัฐ และได้ใช้ชื่อว่า The Confederates States ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1861 อับราฮัมได้ใช้ป้อมซัมเทอร์และทำให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น แม้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเขาจะทำเพื่อหวังให้ประเทศเป็นหนึ่งเดียว และในช่วงที่สงครามใกล้จบลงเขาก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้งโดยชนะ จอร์จ บี แมคเคลแลน และมีสุนทรพจน์เด็ดถึงฝ่ายใต้ที่มีมุมมองของการให้อภัยว่า “ไม่ประสงค์ร้ายใคร และด้วยกุศลจิตสำหรับทุกคน” และแล้วเขาก็ได้เห็นสงครามยุติลง แต่ก็ไม่สามารถฟื้นฟูประเทศได้เนื่องจากคืนวันที่ 14 เมษายน 1865 อับราฮัมถูกลอบยิงที่โรงละครฟอร์ด เธียเตอร์ และเสียชีวิตลงในเช้าวันต่อมา ด้วยฝีมือของนักแสดงชื่อ จอห์น วิสกี้ส์ บู้ธ แม้ว่าการเสียชีวิตของเขาจะทำให้ใครหลายคนเศ้ราเสียใจแต่ก็มีคนยกย่องเขาเป็น “ผู้เสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์”