exclude her from their games and be

exclude her from their games and begin to take the superior attitudes of their fathers.
• In sports she sees males and manhood extolled, females and womanhood ridi­ culed. Coaches and team-mates insult male athletes by calling them "woman" or "girl," and praise them with the term "man."
• When a man and a woman negotiate a car loan or a home loan, or buy an expensive machine, the salesperson speaks only to the man. Supermarket ads are aimed, meanwhile, at women as housewives.
• In conversations between colleagues men are routinely deferred to while women's remarks are ignored. When a male colleague repeats what a female has said, he is complimented for his good idea.



Sexism is a key motif that unifies this otherwise seemingly disparate set of per­ sonal experiences. This list could, of course, be greatly expanded, and much feminist work has been devoted to increasing our stock of example experiences. This work is important because sexism is such an integral but unspoken part of the everyday world that both men and women have a difficult time recognizing it. For society's ground of legitimacy seems to require that injustice be recognized and socially opposed. Yet the injustice of sexism is built into the very fabric of everyone's every­ day experiences from infancy on.




Unconscious sexism

"Unconscious sexism" refers to the psychological mechanisms and tacit beliefs, emotions, and attitudes that create, constitute, promote, sustain, and/or exploit invidious sexual inequalities. This category will be denied by many as vague, unprovable, or too easily invoked. But there are both conceptual and empirical arguments in favor of its existence. The conceptual argument is that the statistical evidence concerning the lesser lives that women live would be completely puzzllng given the legal guarantees of equality for men and women in many countries were it not for the possibility of such unconscious sexism. Institutional and interpersonal sexism cannot alone account for all the data. That implies that there are uncon­ scious attitudes and beliefs that allow persons in positions of power unconsciously to prefer men to women when social rewards are distributed, and yet not to see themselves or be seen as applying sexist standards.
The empirical argument is widely diffused, but accessible. It consists first of all in evidence for the existence of unconscious motivations, which is vast in the psycho­ logical literature. Second, there is evidence that when the same work is attributed to a woman it is judged of less value than when attributed to a man (Valian,
1998). Third, there is evidence that women find it more painful to think of them­ selves as oppressed, and men find it more painful to think of themselves as the privileged gender. Thus, there is motivation for neither women nor men to think of women as oppressed and men as dominant (Branscombe, 1998). Fourth, there is a great deal of evidence from social cognitive psychology to suggest that persons make invidious distinctions among salient social categories, that we tend to amplify them well beyond the real differences between individuals in those categories, and

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่รวมเธอจากเกมของพวกเขาและเริ่มต้นที่จะใช้ทัศนคติที่เหนือกว่าของบรรพบุรุษของเขา.
•ในการเล่นกีฬาที่เธอเห็นเพศชายและความเป็นลูกผู้ชาย extolled ผู้หญิงและผู้หญิง Ridi culed โค้ชและเพื่อนร่วมทีมของนักกีฬาชายดูถูกโดยการเรียกพวกเขาว่า "ผู้หญิง" หรือ "ผู้หญิง" และยกย่องพวกเขาด้วยคำว่า "คน."
•เมื่อชายและหญิงเจรจากู้เงินซื้อรถยนต์หรือสินเชื่อบ้านหรือซื้อแพง เครื่อง,พนักงานขายพูดเฉพาะกับผู้ชายคนหนึ่ง โฆษณาซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อขณะที่ผู้หญิงเป็นแม่บ้าน.
•ในการสนทนาระหว่างเพื่อนร่วมงานผู้ชายรอการตัดบัญชีเป็นประจำในขณะที่คำพูดของผู้หญิงที่จะถูกละเว้น เมื่อซ้ำเพื่อนร่วมงานชายหญิงในสิ่งที่ได้กล่าวว่าเขาเป็น complimented สำหรับความคิดที่ดีของเขา.



กีดกันทางเพศเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญที่รวบรวมชุดนี้เป็นอย่างอื่นที่แตกต่างกันดูเหมือนว่าประสบการณ์ของ sonal ต่อ รายการนี​​้สามารถของหลักสูตรจะมีการขยายตัวมากและการทำงานของนักสตรีนิยมมากได้รับการอุทิศเพื่อการเพิ่มสต็อกของเราจากประสบการณ์เช่น งานนี้มีความสำคัญเนื่องจากกีดกันทางเพศดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดในชีวิตประจำวันของโลกที่ทั้งชายและหญิงมีช่วงเวลาที่ยากตระหนักถึงมันสำหรับพื้นของสังคมถูกต้องตามกฎหมายดูเหมือนว่าจะต้องความอยุติธรรมที่ได้รับการยอมรับและคัดค้านสังคม แต่ความอยุติธรรมของการรังเกียจผู้หญิงที่ถูกสร้างขึ้นในผ้ามากของทุกคนทุกประสบการณ์ทุกวันตั้งแต่วัยเด็กเมื่อ.




กีดกันหมดสติ

"กีดกันหมดสติ" หมายถึงกลไกทางจิตวิทยาและความเชื่อโดยปริยายอารมณ์และทัศนคติที่สร้างประกอบ ส่งเสริมการรักษา,และ / หรือใช้ประโยชน์จากความไม่เท่าเทียมกันทางเพศยุติธรรม หมวดหมู่นี้จะถูกปฏิเสธมากที่สุดเท่าที่คลุมเครือไม่สามารถพิสูจน์ได้หรือเรียกง่ายเกินไป แต่มีข้อโต้แย้งทั้งแนวคิดและเชิงประจักษ์ในความโปรดปรานของการดำรงอยู่ของมันการโต้แย้งทางความคิดก็คือหลักฐานทางสถิติที่เกี่ยวข้องกับชีวิตน้อยกว่าที่ผู้หญิงจะมีชีวิตอยู่อย่างสมบูรณ์ puzzllng ได้รับการค้ำประกันทางกฎหมายของความเท่าเทียมกันสำหรับผู้ชายและผู้หญิงในหลายประเทศก็จะไม่เป็นไปได้ของการรังเกียจผู้หญิงที่หมดสติดังกล่าว กีดกันทางเพศสถาบันและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไม่สามารถอยู่คนเดียวบัญชีสำหรับข้อมูลทั้งหมดที่แสดงให้เห็นว่ามีทัศนคติ scious uncon และความเชื่อที่ช่วยให้บุคคลในตำแหน่งที่มีอำนาจโดยไม่รู้ตัวจะชอบผู้ชายกับผู้หญิงเมื่อผลตอบแทนทางสังคมที่มีการกระจายและยังไม่เห็นตัวเองหรือถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ใช้มาตรฐาน.
โต้แย้งเชิงประจักษ์เป็นกระจายอย่างกว้างขวาง แต่สามารถเข้าถึงได้ มันประกอบด้วยแรกของทั้งหมดในหลักฐานสำหรับการดำรงอยู่ของแรงจูงใจที่หมดสติ,ซึ่งมีมากมายในวรรณคดีจิตวิทยาตรรกะ ที่สองมีหลักฐานว่าเมื่องานเดียวกันเป็นโทษกับผู้หญิงคนหนึ่งจะมีการตัดสินจากค่าน้อยกว่าเมื่อนำมาประกอบกับผู้ชายคนหนึ่ง (valian
1998) คือ ที่สามมีหลักฐานว่าผู้หญิงที่พบว่ามันเจ็บปวดมากที่จะคิดว่าตัวเองพวกเขาเป็นผู้ถูกกดขี่และคนพบว่ามันเจ็บปวดมากที่จะคิดว่าตัวเองเป็นเพศที่มีสิทธิพิเศษคือ ดังนั้นมีแรงจูงใจสำหรับผู้หญิงมิได้ผู้ชายจะคิดว่าผู้หญิงเป็นผู้ถูกกดขี่และคนเป็นที่โดดเด่น (Branscombe, 1998) คือ ที่สี่มีการจัดการที่ดีของหลักฐานจากจิตวิทยาการเรียนรู้ทางสังคมเพื่อชี้ให้เห็นว่าบุคคลที่ทำให้ความแตกต่างระหว่างประเภทยุติธรรมทางสังคมที่สำคัญที่เรามีแนวโน้มที่จะขยายพวกเขาดีเกินกว่าความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างบุคคลในประเภทเหล่านั้นและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แยกเธอออกจากเกมของพวกเขา และเริ่มนำทัศนคติเหนือกว่าของบรรพบุรุษของพวกเขา.
•กีฬาเธอเห็นชายและกล้าหาญ extolled หญิงและ womanhood ridi­ culed โค้ชเพื่อนร่วมทีมดูถูกนักกีฬาเพศชาย โดยการเรียก "ผู้หญิง" หรือ "สาว" และสรรเสริญพวกเขา ด้วยคำว่า "คน"
•เมื่อชายและหญิงเจรจาเงินกู้รถยนต์หรือสินเชื่อบ้าน หรือซื้อเครื่องมีราคาแพง พนักงานขายพูดกับคนเท่านั้น โฆษณาซุปเปอร์มาร์เก็ตจะมุ่ง ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงเป็น housewives.
•ในบทสนทนาระหว่างเพื่อนร่วมงานชายอยู่เป็นประจำเลื่อนออกไปในขณะที่คำพูดของผู้หญิงจะถูกละเว้น เมื่อร่วมเพศซ้ำหญิงได้พูด มีมากมายในความคิดของเขาดีขึ้น


เพศนิยมเป็นสาระสำคัญที่สำคัญที่ unifies ชุดนี้มิฉะนั้นจะดูเหมือนว่าจะแตกต่างกันของ per­ ประสบการณ์ sonal รายการนี้ได้ แน่นอน อย่างมาก ขยาย และมีการทุ่มเทงาน feminist มากการเพิ่มหุ้นของเราอย่างประสบการณ์ งานนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเพศนิยมเป็นเช่น unspoken แต่เป็นส่วนของโลกทุกวันว่า ทั้งชายและหญิงมีเวลายากจดจำมัน สำหรับพื้นของความชอบธรรมของดูเหมือนว่าต้องว่า ความอยุติธรรมรู้จัก และสังคมตรงข้าม ยังสร้างความอยุติธรรมของเพศนิยมเป็นผ้าสวยมากของทุกคนเป็นวัน every­ ประสบการณ์จากบน


เพศนิยมสติ

"สติเพศนิยม" หมายถึงกลไกทางจิตใจ และความเชื่อ tacit อารมณ์ และทัศนคติที่สร้าง ประกอบ ส่งเสริม รักษา หรือใช้ความเหลื่อมล้ำทางเพศเปรย ประเภทนี้จะถูกปฏิเสธ โดยมากเป็นคลุมเครือ unprovable หรือเรียกใช้ง่ายเกินไป แต่มีแนวคิด และประจักษ์อาร์กิวเมนต์สามารถดำรงตนอยู่ อาร์กิวเมนต์แนวคิดคือ หลักฐานทางสถิติที่เกี่ยวข้องกับชีวิตน้อยกว่าที่ผู้หญิงอยู่จะหมด puzzllng จะค้ำประกันกฎหมายของความเสมอภาคสำหรับผู้ชาย และผู้หญิงในหลายประเทศไม่ได้สำหรับของเพศนิยมเช่นสติ เพศนิยมมนุษยสัมพันธ์ และสถาบันคนเดียวไม่บัญชีสำหรับข้อมูลทั้งหมดได้ ที่บ่งชี้ว่า มี uncon­ scious ทัศนคติและความเชื่อที่ทำให้คนในตำแหน่งรับจะชอบผู้ชายผู้หญิงเมื่อกระจายรางวัลทางสังคม และ ยังไม่ ไปดูตัวเองถือเป็นการใช้มาตรฐาน sexist.
อาร์กิวเมนต์ประจักษ์คืออายุมาก แต่สามารถเข้าถึง ประกอบด้วยครั้งแรกของทั้งหมดในหลักฐานการดำรงอยู่ของโต่งสติ ซึ่งมีมากมายในวรรณคดีแบบลอจิคัล psycho­ ที่สอง มีหลักฐานว่า เมื่อการทำงานที่เดียวกันเป็นบันทึกผู้หญิง มันจะตัดสินค่าน้อยกว่าเมื่อเกิดจากไปชาย (Valian,
1998) ที่สาม หลักฐานที่เจ็บปวดมากจะคิดว่า them­ ตัวที่ถูกรุกรานที่ผู้หญิงพบ และเจ็บปวดมากจะคิดว่า ตัวเองเป็นเพศมีสิทธิพิเศษที่ผู้ชายหา ดังนั้น มีแรงจูงใจทั้งผู้หญิง หรือผู้ชายคิดว่า ผู้หญิงที่ถูกรุกราน และผู้ชายเป็น dominant (Branscombe, 1998) เป็นหลักฐานจากจิตวิทยาสังคมรับรู้เพื่อแนะนำให้ คนทำความเปรยระหว่างเด่นสังคมประเภท ที่เรามักจะขยายให้เกินจริงความแตกต่างระหว่างบุคคลในประเภทที่ ดี มาก สี่ และ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แยกมาจากเกมของพวกเขาและเริ่มทัศนคติแบบ Superior ของบรรพบุรุษของเขา.
•ในกีฬาเธอจะเห็นคนและผู้ชายทั้งหลายต่างยกย่องหญิงและความเป็นผู้หญิง ridi culed จรดพระนังคัล รถโค้ชและทีมงานเพื่อนสบประมาทชายนักกีฬาด้วยการโทรติดต่อเขา"ผู้หญิง"หรือ"สาวน้อย"และคำสรรเสริญพระองค์ด้วยคำว่า"คน"
•เมื่อมีชายคนหนึ่งและผู้หญิงเจรจาต่อรองที่จอดรถเงินกู้หรือให้สินเชื่อบ้าน,หรือซื้อที่ราคาแพงเครื่อง,พนักงานขายก็จะพูดเท่านั้นที่ชายผู้นี้ แสดงข้อความโฆษณาขึ้นบังหน้าจอซุปเปอร์มาร์เก็ตมีวัตถุประสงค์เพื่อในขณะเดียวกันที่ผู้หญิงเป็นแม่บ้าน.
•ในการสนทนาระหว่างเพื่อนร่วมงานคนที่มาอยู่ที่ถูกเลื่อนออกไปในขณะที่หมายเหตุ:ของผู้หญิงจะไม่ได้รับความสนใจอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเพื่อนร่วมงานเป็นผู้ชายที่:เล่นซ้ำว่าหญิงคนหนึ่งได้พูดว่าเขาคือเพิ่มความสมบรูณ์แบบสำหรับความคิดที่ดีของเขา.



ปุ่มต่างๆมีความโดดเด่นที่รวมข้อมูลทุกอย่างในตั้งค่าหรือแสดงท่าทางแตกต่างกันนี้ของประสบการณ์ต่อจรดพระนังคัล sonal รายการนี้ไม่สามารถได้รับการขยายไปอย่างมากและงานสตรีนิยมมากมีการอุทิศให้กับการเพิ่มหุ้นของเราของประสบการณ์ตัวอย่างเช่น งานนี้เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะต่างๆเป็นส่วนหนึ่งแต่ไม่ได้พูดว่าโลกในทุกๆวันที่ทั้งชายและหญิงได้มีเวลานั้นยากที่จะยอมรับสำหรับพื้นที่ของสังคมของความชอบธรรมดูเหมือนจะต้องได้รับการยอมรับว่าความอยุติธรรมและสังคมต่อต้าน แต่ความอยุติธรรมที่ต่างๆของได้ถูกสร้างขึ้นเข้าสู่เนื้อผ้าเป็นอย่างมากของทุกคนทุกวันจากประสบการณ์จรดพระนังคัลตั้งแต่ยังแบเบาะอยู่บน.




ต่างๆไม่ รู้

"ต่างๆไม่รู้"หมายถึงเป็นกลไกทางจิตวิทยาที่ความเชื่อและทัศนคติและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอารมณ์ความรู้สึกที่สร้างเป็นการรักษาและ/หรือแสวงประโยชน์จากความไม่เท่าเทียมทางเพศไม่ยุติธรรม ประเภท นี้จะถูกปฏิเสธโดยผู้คนจำนวนมากที่มีเลศนัยผิดศีลธรรมหรือมากเกินไปเรียกได้อย่างง่ายดาย แต่มีทั้งอาร์กิวเมนต์ทางความคิดและเชิงประจักษ์ในความสำคัญของการดำรงอยู่ของมัน.อาร์กิวเมนต์ทางความคิดที่มีสถิติว่ามีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ไม่มากนักที่ว่าผู้หญิงมีชีวิตอยู่จะได้รับ puzzllng ได้รับการรับประกันทางกฎหมายของความเท่าเทียมกันสำหรับผู้ชายและผู้หญิงในหลายประเทศนั้นไม่ได้สำหรับความเป็นไปได้ที่จะไม่รู้ว่าต่างๆของ สถาบันต่างๆและความสัมพันธ์ไม่สามารถแอคเคาท์สำหรับข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ตามลำพังซึ่งหมายถึงว่ามีความเชื่อและทัศนคติ scious uncon ชำนิที่อนุญาตให้ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งของพลังงานอย่างไม่รู้ตัวจะชอบคนให้ผู้หญิงเมื่อรางวัลทางสังคมจะมีการจำหน่ายและยังไม่ได้ไปดูด้วยตัวเองหรือได้รับการมองในฐานะที่เป็นการนำมาตรฐาน sexist .
อาร์กิวเมนต์ในเชิงประจักษ์ผสานอยู่กันอย่างกว้างขวางแต่สามารถเข้าถึงได้ โรงแรมประกอบไปด้วยเป็นครั้งแรกของทั้งหมดในหลักฐานสำหรับการดำรงอยู่ของแรงจูงใจไม่รู้ซึ่งมีขนาดใหญ่ในวรรณคดีจิตวิทยาแบบลอจิกจรดพระนังคัลนี้ ประการที่สองมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อมีการทำงานเหมือนกับที่มีผลมาจากผู้หญิงที่เป็นผู้ตัดสินเลือกผู้ได้รับของมูลค่าน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับชายคนหนึ่ง( valian
1998 ) ที่สามที่มีหลักฐานว่าผู้หญิงพบว่ามันเจ็บปวดมากกว่าจะคิดว่าของเขาชำนิตนเองเป็นผู้ถูกกดขี่และคนได้พบกับมันมากความเจ็บปวดในการคิดของตนเองเป็นเพศที่เต็มไปด้วยประโยชน์ ดังนั้นมีแรงจูงใจสำหรับผู้หญิงหรือคนไม่คิดว่าของผู้หญิงที่ถูกกดขี่และคนที่มีอำนาจ( branscombe 1998 ) ที่สี่มีข้อตกลงที่ดีเยี่ยมของหลักฐานจากทางจิตวิทยาการเรียนรู้ทางสังคมเพื่อขอแนะนำให้ว่ามีคนทำให้จำแนกความแตกต่างระหว่างกลุ่มไม่ยุติธรรมทางสังคมที่โดดเด่นที่เรามีแนวโน้มที่จะเพิ่มให้มากกว่าความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างผู้ใช้บริการแบบเฉพาะรายใน ประเภท และ