to increase pore size and reduce ce

to increase pore size and reduce cellulose crystallinity. In
acid-catalyzed pre-treatment, the hemicellulose layer is
hydrolyzed, whereas in alkali-catalyzed pretreatment,
mainly, a part of the lignin is removed and hemicellulose
has to be hydrolysed by the use of hemicellulases. Hence,
pretreatment is necessary to expose the cellulose fibres to
the enzymes or to at least make the cellulose more accessible
to the enzymes. An efficient pretreatment can substantially
reduce the enzyme requirements, which make
up a large part of the production cost.
Pretreatment is usually assessed in a number of
ways: by enzymatic hydrolysis (EH) of the solid material
to determine the digestibility; by fermentation of the liquid
to assess the effect of potential inhibitors towards the
fermenting microorganism; and/or by simultaneous saccharification
and fermentation (SSF) of the pretreated
material. The conditions for the assessment can vary,
particularly in terms of washed or non-washed solids
and the concentration of solids and enzymes in the EH
and SSF, making comparison of results from different
investigations difficult.
In an extensive study undertaken in the USA, where the
same batch of corn stover was pretreated using various
methods (e.g. dilute acid, AFEX, hot water treatment) and
then subjected to standard evaluation techniques, the
yields of sugars were found to be more or less the same
[10]. Total sugar yields – after pretreatment followed by
enzymatic hydrolysis – of around 90% or more were
reached, demonstrating that corn stover is an easily
degradable material. When corn stover was steam pretreated
with small amounts of SO2, overall sugar yields
close to the theoretical value were obtained; steam pretreatment
without a catalyst also resulted in 90% glucose
yield [11].
In countries such as Sweden, Canada and the USA,
much of the available biomass is softwood, which is more
difficult to hydrolyse than corn stover. For softwood, steam
pretreatment with the addition of an acid catalyst such as

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อเพิ่มขนาดรูขุมขนและลดผลึกเซลลูโลส ใน
กรดเร่งรักษาก่อนที่ชั้นเฮมิเซลลูโลสเป็น
ไฮโดรไลซ์ในขณะที่ในการปรับสภาพด่างเร่ง,
ส่วนใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของลิกนินออกและเฮมิเซลลูโลส
จะต้องมีการย่อยโดยการใช้เฮมิ ดังนั้น
การปรับสภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะเปิดเผยเส้นใยเซลลูโลสเพื่อ
เอนไซม์หรืออย่างน้อยทำให้เซลลูโลสเข้าถึงได้มากขึ้น
ที่จะเอนไซม์ การปรับสภาพที่มีประสิทธิภาพมากสามารถ
ลดความต้องการของเอนไซม์ที่ทำให้
ขึ้นเป็นส่วนใหญ่ของต้นทุนการผลิต.
ปรับสภาพได้รับการประเมินมักจะอยู่ในจำนวน
วิธีโดยการย่อยสลายของเอนไซม์ (EH) ของวัสดุที่เป็นของแข็ง
เพื่อตรวจสอบการย่อย; โดยการหมักของของเหลว
ที่จะประเมินผลกระทบของสารยับยั้งที่มีศักยภาพต่อการ
หมักจุลินทรีย์; และ / หรือ saccharification พร้อมกัน
และการหมัก (SSF) ปรับสภาพของ
วัสดุ เงื่อนไขในการประเมินความสามารถแตกต่างกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการล้างหรือของแข็งที่ไม่ได้ล้าง
และความเข้มข้นของของแข็งและเอนไซม์ใน EH
และ SSF ทำให้การเปรียบเทียบผลที่แตกต่างกันจาก
การตรวจสอบยาก.
ในการศึกษาดำเนินการอย่างกว้างขวางในสหรัฐอเมริกาที่
ชุดเดียวกันของซังข้าวโพดได้รับการปรับสภาพต่างๆโดยใช้
วิธีการ (เช่นกรดเจือจาง Afex บำบัดน้ำร้อน) และ
จากนั้นภายใต้เทคนิคการประเมินผลมาตรฐาน
อัตราผลตอบแทนของน้ำตาลพบว่ามีมากหรือน้อยเหมือนกัน
[10] อัตราผลตอบแทนรวมน้ำตาล - หลังจากการปรับสภาพตามด้วย
การย่อยของเอนไซม์ - ประมาณ 90% หรือมากกว่าถูก
ถึงแสดงให้เห็นถึงซังข้าวโพดที่เป็นได้อย่างง่ายดาย
วัสดุที่ย่อยสลายได้ เมื่อซังข้าวโพดได้รับการอบไอน้ำปรับสภาพ
ที่มีจำนวนเล็ก ๆ ของ SO2 ผลผลิตน้ำตาลโดยรวม
ใกล้เคียงกับมูลค่าทางทฤษฎีที่ได้รับ; อบไอน้ำปรับสภาพ
โดยไม่ต้องเป็นตัวเร่งปฏิกิริยายังส่งผลให้มีอะไรบ้าง? กลูโคส 90%
อัตราผลตอบแทน [11].
ในประเทศเช่นสวีเดนแคนาดาและสหรัฐอเมริกา
มากของชีวมวลที่มีอยู่เป็นไม้เนื้ออ่อนซึ่งเป็น
เรื่องยากที่จะย่อยซังข้าวโพดกว่า สำหรับไม้เนื้ออ่อน, อบไอน้ำ
ปรับสภาพด้วยนอกเหนือจากตัวเร่งปฏิกิริยากรดเช่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อเพิ่มขนาดของรูขุมขนและลดความเป็นผลึกเซลลูโลส ใน
กรดเร่งผล , เฮมิเซลลูโลสชั้น
ไฮโดรไลซ์ ส่วนในการเร่งปฏิกิริยาด่าง
, ส่วนใหญ่ , ส่วนหนึ่งของลิกนินออก และเฮมิเซลลูโลส
ต้องผ่านโดยการใช้ hemicellulases . ดังนั้น การต้องเปิดเผย

เส้นใยเซลลูโลสเอ็นไซม์ หรืออย่างน้อยให้เซลลูโลสได้ง่ายขึ้น
กับเอนไซม์ การเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมากสามารถลดความต้องการ

เอนไซม์ซึ่งทำให้ขึ้นส่วนใหญ่ของต้นทุนการผลิต โดยมักจะประเมิน
ในหลาย
วิธี : โดยเอนไซม์ ( เอ๋ ) ของวัสดุของแข็งเพื่อศึกษาการย่อยได้

; โดยการหมักของของเหลวเพื่อศึกษาผลของยา ที่อาจเกิดขึ้นต่อ
หมักจุลินทรีย์ และ / หรือ
เส้นพร้อมกันและหมัก ( SSF ) ของที่ได้รับ
วัสดุ เงื่อนไขในการประเมินสามารถแตกต่างกันไป โดยเฉพาะในแง่ของการล้าง

หรือ ไม่ล้างของแข็งและความเข้มข้นของของแข็งและเอนไซม์ในเอ๋
SSF และทำให้การเปรียบเทียบผลจากที่แตกต่างกัน
การตรวจสอบยาก ในการศึกษาปัญหา
กว้างขวางในสหรัฐอเมริกาที่
ชุดเดียวกันของฝักข้าวโพดที่ได้รับโดยใช้วิธีการต่างๆ
( เช่นกรดเจือจาง Afex , การรักษาน้ำร้อน ) และ
แล้วภายใต้มาตรฐานเทคนิคการประเมิน ,
ผลผลิตน้ำตาล พบว่ามีมากหรือน้อยเหมือนกัน
[ 10 ] น้ำตาลรวมผลผลิต–หลังก่อนตามด้วย
เอนไซม์–ประมาณ 90% หรือมากกว่า
ถึง , แสดงให้เห็นว่าข้าวโพดฝักเป็นวัสดุย่อยสลายง่าย
. เมื่อฝักข้าวโพดอบผ่าน
กับปริมาณน้อยของ SO2 , ผลผลิตน้ำตาลรวม
ใกล้เคียงกับมูลค่าทางทฤษฎีที่ได้รับการ ; ไอน้ำ
ไม่มีตัวเร่งปฏิกิริยายังก่อให้เกิด  90% กลูโคส
ผลผลิต [ 11 ] .
ในหลายประเทศ เช่น สวีเดน แคนาดา และสหรัฐอเมริกา
มากของชีวมวลที่มีอยู่เป็นไม้เนื้ออ่อน ซึ่งเพิ่มเติม
ยากสุดมากกว่าฝักข้าวโพด สำหรับไม้เนื้ออ่อน , ไอ
การเพิ่มกรดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เช่น