The second stream of research explo

The second stream of research explores the effects of lean production implementation on inventory leanness and other operational performance measures (Table 2). Most of the studies in this literature stream are based on surveys of manufacturing executives (e.g., White, 1993, Norris et al., 1994, Droge and Germain, 1998 and Shah and Ward, 2003). These studies typically employ multi-item scales to measure the degree of implementation of lean production. Inventory and operational performance, in turn, is measured in terms of inventory levels (e.g., Droge and Germain, 1998), cycle time (White, 1993) or as a multi-dimensional construct including elements such as inventory visibility and accuracy as well as quality and process control (Norris et al., 1994 and Shah and Ward, 2003). Even though there are some differences in variable measurement and survey populations, all studies present evidence that greater implementation of lean production is associated with improvements in at least some aspects of inventory and operational performance. These findings are further corroborated by a set of studies that identify the adoption of JIT practices, a subset of lean production practices, via a literature search and rely on secondary data only to estimate the effect of JIT adoption on inventory performance (Huson and Nanda, 1995, Balakrishnan et al., 1996 and Biggart and Gargeya, 2002). Specifically, these studies find that JIT adoption leads to increased inventory turnover (Huson and Nanda, 1995 and Balakrishnan et al., 1996) and lower raw materials inventories (Biggart and Gargeya, 2002). It is noteworthy, however, that only one study has explored the effect of lean production practices other than JIT adoption on inventory leanness (Demeter and Matyusz, 2011). Based on a series of univariate tests, these authors conclude that raw materials, work-in-process and finished goods materials inventories are lower when the company has implemented lean practices. Consistent with these firm-level studies, aggregate analyses of inventory and sales data for also indicate that the implementation of JIT has resulted in lower inventory holdings (Irvine, 2003 and Obermaier, 2012).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระแสที่สองของการวิจัยสำรวจผลกระทบของการดำเนินการผลิตแบบลีนในกุ้งแห้งสินค้าคงคลังและการวัดประสิทธิภาพการดำเนินงานอื่น ๆ (ตารางที่ 2) ส่วนใหญ่ของการศึกษาในกระแสวรรณกรรมนี้จะขึ้นอยู่กับการสำรวจของผู้บริหารการผลิต (เช่นสีขาวปี 1993 นอร์ริเอตอัล. ปี 1994 และ Droge germain 1998 และกษัตริย์และวอร์ด 2003)การศึกษาเหล่านี้มักจะใช้เครื่องชั่งแบบหลายรายการที่จะวัดระดับของการดำเนินการผลิตแบบลีน สินค้าคงคลังและผลการดำเนินงานในที่สุดก็จะเป็นวัดในแง่ของระดับสินค้าคงคลัง (เช่น Droge และ germain, 1998) รอบเวลา (สีขาว1993) หรือเป็นโครงสร้างหลายมิติรวมถึงองค์ประกอบต่างๆเช่นการแสดงสินค้าและความถูกต้องเช่นเดียวกับที่มีคุณภาพและการควบคุมกระบวนการ (นอร์ริเอตอัล. ปี 1994 และกษัตริย์และวอร์ด 2003) แม้ว่าจะมีความแตกต่างบางอย่างในการวัดตัวแปรและประชากรที่สำรวจการศึกษาหลักฐานทั้งหมดในปัจจุบันว่าการดำเนินการมากขึ้นในการผลิตแบบลีนมีความเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงอย่างน้อยบางแง่มุมของสินค้าคงคลังและผลการดำเนินงาน การค้นพบนี้ได้รับการยืนยันต่อไปโดยชุดของการศึกษาที่ระบุการยอมรับการปฏิบัติ JIT, ส่วนย่อยของการผลิตแบบลีน,ผ่านการค้นหาวรรณกรรมและพึ่งพาข้อมูลทุติยภูมิเดียวที่จะประเมินผลกระทบของการยอมรับ JIT ต่อประสิทธิภาพการทำงานของสินค้าคงคลัง (huson และ nanda, 1995, และอัลบาลาค. 1996 และ Biggart และ gargeya, 2002) โดยเฉพาะการศึกษาเหล่านี้พบว่าการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม JIT จะนำไปสู่​​ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของสินค้าคงคลัง (huson และ nanda 1995 และตอัลบาลาค.1996) และลดสินค้าคงเหลือวัตถุดิบ (Biggart และ gargeya, 2002) มันเป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่มีเพียงหนึ่งการศึกษามีการสำรวจผลกระทบของการผลิตแบบลีนการปฏิบัติอื่นใดที่นำมาใช้ในการ JIT กุ้งแห้งสินค้าคงคลัง (Demeter และ matyusz 2011) ขึ้นอยู่กับชุดของการทดสอบ univariate ผู้เขียนเหล่านี้สรุปได้ว่าวัตถุดิบทำงานในกระบวนการและสินค้าคงเหลือวัสดุสินค้าสำเร็จรูปที่ลดลงเมื่อ บริษัท ฯ ได้ดำเนินการปฏิบัติน้อย เหล่านี้สอดคล้องกับการศึกษาของ บริษัท ระดับการวิเคราะห์รวมของสินค้าคงคลังและข้อมูลการขายสำหรับยังแสดงให้เห็นว่าการดำเนินการของ JIT มีผลในการถือครองสินค้าคงคลังที่ลดลง (เออร์ 2003 และ Obermaier, 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระแสที่สองของการวิจัยสำรวจผลกระทบของการผลิตแบบ lean การใช้งานในสินค้าคงคลัง leanness และประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานอื่น ๆ (ตารางที่ 2) ส่วนใหญ่ศึกษาในกระแสวรรณกรรมนี้ตามแบบสำรวจของผู้บริหารการผลิต (เช่น ขาว 1993, al. และนอร์ริส 1994, Droge และ แมง 1998 และชาห์ และ Ward, 2003) การศึกษาเหล่านี้มักจะใช้สินค้าหลายระดับเพื่อวัดระดับการใช้งานของการผลิตแบบ lean สินค้าคงคลังและประสิทธิภาพการดำเนินงาน จะ จะวัดระดับสินค้าคงคลัง (เช่น Droge และแมง 1998), รอบเวลา (สีขาว 1993) หรือเป็นโครงสร้างหลายมิติรวมถึงองค์ประกอบเช่นการมองเห็น และความถูกต้อง ตลอดจนคุณภาพสินค้าคงคลัง และการควบคุม (al. et นอร์ริส 1994 และชาห์ และ Ward, 2003) แม้มีความแตกต่างในตัวแปรการประเมินและสำรวจประชากร หลักฐานแสดงการศึกษาทั้งหมดที่ใช้งานมากกว่าการผลิตแบบ lean จะเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงในลักษณะบางอย่างของสินค้าคงคลังและประสิทธิภาพการดำเนินงาน ผลการวิจัยเหล่านี้มี corroborated เพิ่มเติม โดยชุดของการศึกษาที่ยอมรับของจิตปฏิบัติ ชุดย่อยของการผลิตแบบ lean ปฏิบัติ ผ่านวรรณกรรมการค้นหา และใช้ข้อมูลรองเท่านั้นเพื่อประเมินผลของจิตการยอมรับในประสิทธิภาพของสินค้าคงคลัง (Huson และนันดา 1995, Balakrishnan et al., 1996 และ Biggart และ Gargeya, 2002) โดยเฉพาะ การศึกษานี้พบว่า จิตยอมรับนำไปสู่การหมุนเวียนสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้น (Huson และนันดา 1995 และ Balakrishnan et al., 1996) ลดสินค้าคงคลังวัตถุดิบ (Biggart และ Gargeya, 2002) เรื่องนี้น่าสนใจ ไร ศึกษาเดียวมีอุดมผลของวิธีการผลิตแบบ lean ไม่ใช่จิตการยอมรับในสินค้าคงคลัง leanness (Demeter และ Matyusz, 2011) ผู้เขียนเหล่านี้ขึ้นอยู่กับชุดของการทดสอบอย่างไร univariate สรุปที่ดิบ งานการทำ และสำเร็จรูปสินค้าวัสดุคงจะต่ำกว่าเมื่อบริษัทได้ดำเนินการปฏิบัติการแบบ lean สอดคล้องกับการศึกษานี้ระดับบริษัท รวมวิเคราะห์สินค้าคงคลัง และขายข้อมูลยังระบุว่า การดำเนินของจิตมีผลในการถือครองสินค้าคงคลังต่ำ (เออร์วิน 2003 และ Obermaier, 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สตรีมที่สองของการวิจัยสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการนำไปใช้งานการผลิตเอนตัวบนความผอมสินค้าคงคลังและมาตรการการดำเนินงานอื่นๆ(ตารางที่ 2 ) การศึกษาในการสตรีมวรรณกรรมนี้ส่วนมากมีพื้นฐานอยู่บนการสำรวจของผู้บริหารการผลิต(เช่นสีขาว 1993 norris et al . 1994 droge และ Germain 1998 และชาห์และคุก 2003 )การศึกษานี้โดยปกติแล้วจะใช้เครื่องชั่งแบบมัลติ - รายการเพื่อวัดระดับของการนำไปใช้ในการผลิตเอนตัว ประสิทธิภาพ การทำงานและสินค้าคงคลังในการเป็นการวัดในเงื่อนไขของระดับสินค้าคงคลัง(เช่น droge และ Germain 1998 )รอบระยะเวลา(สีขาว1993 )หรือการควบคุมสร้างองค์ประกอบรวมถึงเช่นความแม่นยำและการติดตามระบบการทำงานสินค้าคงคลังและมี คุณภาพ และกระบวนการแบบหลากหลายมิติ( norris et al . 1994 พระเจ้าชาห์และคุก 2003 ) แม้จะมีความแตกต่างกันบางอย่างในประชากรได้หลายระดับและการวัดผลการสำรวจการศึกษาทั้งหมดในปัจจุบันมีหลักฐานว่าการนำไปใช้งานมากกว่าการผลิตเอนตัวมีการเชื่อมโยงกับการพัฒนาปรับปรุงในที่อย่างน้อยบางแง่มุมของการดำเนินงานและสินค้าคงคลัง จากการสำรวจนี้เป็นหรือเปล่าโดยตั้งค่าการศึกษาซึ่งระบุว่าการนำการปฏิบัติด่านอีป้องชุดย่อยของการปฏิบัติการผลิตเอนตัวต่อไปผ่านงานวรรณกรรมที่การค้นหาและใช้ข้อมูลในรองเท่านั้นในการประเมินผลของการนำด่านอีป้องใน ประสิทธิภาพ สินค้าคงคลัง( huson และ nanda 1995 balakrishnan et al . 1996 biggart และ gargeya 2002 ) โดยเฉพาะการศึกษาพบว่าการนำด่านอีป้องนำไปสู่รายได้จากสินค้าคงคลังเพิ่มมากขึ้น( huson และ nanda 1995 และ balakrishnan et al .1996 )และสินค้าคงคลังวัตถุดิบลดลง( biggart และ gargeya 2002 ) อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่ามีเพียงการศึกษาเรื่องการสำรวจมีผลการปฏิบัติการผลิตเอนตัวอื่นที่ไม่ใช่การนำด่านอีป้องในสินค้าคงคลังความผอม( demeter และ matyusz 2011 ) ใช้การทดสอบ univariate เหล่านี้ผู้เขียนสรุปวัตถุดิบที่สินค้าคงคลังเอกสารใช้งานในกระบวนการและสินค้าสำเร็จรูปได้ในระดับที่ต่ำเมื่อบริษัทที่ได้มีการนำแนวทางปฏิบัติผอม สอดคล้องกับการศึกษาบริษัท - ระดับนี้จะทำการวิเคราะห์รวมกันของข้อมูลการขายและสินค้าคงคลังยังระบุว่าการนำไปใช้งานของด่านอีป้องมีผลให้ลงทุนในสินค้าคงคลังลดลง( Irvine 2003 obermaier และ 2012 )