Thus, according to expectancy theor

Thus, according to expectancy theory, individuals are
motivated when they see a favourable combination of what
is important to them and what they expect as a reward for
their efforts, and they behave accordingly.
Reinforcement Theory
Reinforcement theory is associated with the psychologist B.F.Skinner and other contemporary.He has shown through the experiment that how the consequences of past behavior affect
future actions in a cyclical learning process. He conducted an experiment on a dog. What he did was that he brought food in
front of a dog. When the food came in front of dog his mouth
started to salivate. Every time the food came the mouth
salivated. Now, in his experiment he introduced another
element. The food was presented and as soon as food was
presented the dog was given electric shock. The sequence of event was:
Food → salivation→ shock.
This experiment was repeated number of times. After
sometime it was observed that the dog stopped salivating
whenever the food was presented. The results of the experiment
were that behaviour can be modified. This process may be expressed as follows:
Stimulus →Response → Consequences → Future Response.
(Food) (Salivation) (Electric Shock) (no salivation)
We see that behind the Reinforcement Theory is the
concept of punishment and reward. The application of this
theory is seen when animals are trained to perform certain
actions. You might have seen monkeys being asked to dance
by monkey-man and when monkey performs an act he is given something to eat. Reinforcement Theory is useful in understanding human behaviour as well. Human behaviour
can also be modified through reward and punishment.
If in organizations we want to encourage people to come
on time, then those who come on time have to be encouraged.
Now encouragement isa kind of reward. We have to remember
that rewards have many forms and dimensions. Rewards are
not only in money form. Even a nice word can be reward. In
organization sometimes certificates, badges, mugs etc can be used as rewards for good behaviour.
Similarly punishment has many dimensions in organization.
The severe being thrown out of job and a mild punishment
could be to use word of censure for behaviour that is not
desirable.

Figure 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนั้น ตามทฤษฎี expectancy บุคคลที่มี แรงจูงใจเมื่อพวกเขาเห็นการผสมผสานที่ดีของอะไร เป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาและสิ่งที่พวกเขาคาดหวังเป็นรางวัลสำหรับ ความพยายามของพวกเขา และพวกเขาทำงานตามลำดับทฤษฎีการเสริมแรงทฤษฎีการเสริมแรงเกี่ยวข้องกับนักจิตวิทยา B.F.Skinner และร่วมสมัยอื่น ๆ เขาได้แสดงผ่านการทดลองวิธีที่ผลของการส่งผลกระทบต่อลักษณะการทำงานที่ผ่านมาการดำเนินการในกระบวนการเรียนรู้วงจรในอนาคต เขาดำเนินการทดลองในสุนัข สิ่งที่เขาไม่ได้ว่า เขานำอาหารในหน้าของสุนัข เมื่ออาหารเข้ามาหน้าสุนัขปากของเขาเริ่ม salivate ทุกครั้งที่อาหารมาปาก salivated ตอนนี้ ในการทดลองของเขา เขาแนะนำอีก องค์ประกอบการ อาหารถูกนำเสนอ และตามทันทีเป็นอาหารได้นำสุนัขให้ไฟฟ้าช็อต คือลำดับของเหตุการณ์:อาหาร→ salivation→ ช็อตทดลองนี้คือ จำนวนครั้งที่ซ้ำ หลังจาก บางครั้งมันก็สังเกตเห็นว่า สุนัขหยุด salivating เมื่ออาหารถูกนำเสนอ ผลของการทดลองที่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ กระบวนการนี้อาจแสดงเป็นดังนี้: กระตุ้น →Response →ผล→ผลทันที (อาหาร) (น้ำลาย) (ไฟฟ้าช็อต) (ไม่มีน้ำลาย)เราเห็นว่า อยู่เบื้องหลังทฤษฎีการเสริมแรงเป็นการ แนวคิดของการลงโทษและรางวัล โปรแกรมประยุกต์นี้ทฤษฎีจะเห็นได้เมื่อฝึกสัตว์ให้ทำบางอย่าง การดำเนินการ คุณอาจเคยเห็นลิงที่ถูกขอให้เต้นรำโดยลิงคนและเมื่อลิงดำเนินการกระทำ เขาจะได้รับสิ่งที่กิน ทฤษฎีการเสริมแรงจะมีประโยชน์ในการเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์เช่น พฤติกรรมของมนุษย์ ยังสามารถแก้ไขผ่านการให้รางวัลและลงโทษถ้าในองค์กร ที่เราต้องการสนับสนุนให้คนมา เวลา แล้วผู้ที่มารับจะต้องได้รับการสนับสนุน ตอนนี้กำลังใจ isa ชนิดของรางวัล เราต้องจำไว้ว่า รางวัลมีหลายรูปแบบและขนาด รางวัล ไม่เพียงแต่ในแบบฟอร์มการเงิน คำดีได้รางวัล ในใบรับรองบางครั้งองค์กร ป้าย แก้วฯลฯ สามารถใช้เป็นรางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ดี ในทำนองเดียวกัน การลงโทษมีหลายขนาดในองค์กร ความรุนแรงถูกโยนออกจากงานและการลงโทษไม่รุนแรง อาจเป็นการ ใช้คำตำหนิสำหรับพฤติกรรมที่ไม่ พึงปรารถนารูปที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นตามทฤษฎีความคาดหวังบุคคลที่ได้
แรงบันดาลใจเมื่อพวกเขาเห็นการรวมกันที่ดีของสิ่งที่
มีความสำคัญกับพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาคาดหวังว่าจะเป็นรางวัลสำหรับ
ความพยายามของพวกเขาและพวกเขาประพฤติตาม.
เสริมสร้างทฤษฎี
ทฤษฎีการเสริมแรงมีความเกี่ยวข้องกับนักจิตวิทยา BFSkinner และอื่น ๆ contemporary.He ได้แสดงให้เห็นผ่านการทดสอบว่าวิธีผลกระทบของพฤติกรรมที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อ
การดำเนินการในอนาคตในกระบวนการเรียนรู้วงจร เขาดำเนินการทดลองในสุนัข สิ่งที่เขาทำก็คือการที่เขานำอาหารใน
ด้านหน้าของสุนัข เมื่ออาหารมาในด้านหน้าของสุนัขปากของเขา
เริ่มที่จะทำให้น้ำลาย ทุกครั้งที่อาหารมาปาก
salivated ตอนนี้ในการทดลองของเขาเขาแนะนำอีก
องค์ประกอบ อาหารที่ถูกนำเสนอและทันทีที่อาหารถูก
นำเสนอสุนัขได้รับไฟฟ้าช็อต ลำดับของเหตุการณ์คือ:
. อาหารน้ำลายไหล→→ช็อต
การทดลองนี้ซ้ำหลายครั้ง หลังจากที่
บางครั้งมันก็ตั้งข้อสังเกตว่าสุนัขหยุดน้ำลายสอ
เมื่อใดก็ตามที่อาหารที่ถูกนำเสนอ ผลที่ได้จากการทดลอง
พบว่าพฤติกรรมที่สามารถแก้ไขได้ กระบวนการนี้อาจจะแสดงเป็นดังนี้
. กระตุ้นการตอบสนอง→→→ผลที่ตามมาในอนาคตการตอบสนอง
(อาหาร) (การหลั่งน้ําลาย) (ไฟฟ้าช็อต) (ไม่น้ำลายไหล)
เราจะเห็นว่าอยู่เบื้องหลังทฤษฎีการเสริมแรงเป็น
แนวคิดของการลงโทษและให้รางวัล การประยุกต์ใช้นี้
ทฤษฎีคือเมื่อเห็นสัตว์ได้รับการฝึกฝนในการดำเนินการบาง
การกระทำ คุณอาจได้เห็นลิงถูกขอให้เต้น
โดยลิงมนุษย์และลิงเมื่อดำเนินการกระทำที่เขาจะได้รับบางสิ่งบางอย่างที่จะกิน ทฤษฎีการเสริมแรงจะเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี พฤติกรรมของมนุษย์
นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนผ่านรางวัลและการลงโทษ.
หากในองค์กรเราต้องการที่จะส่งเสริมให้คนที่จะมา
ในเวลานั้นบรรดาผู้ที่มาในเวลาที่ต้องได้รับการสนับสนุน.
ตอนนี้ให้กำลังใจชนิด ISA ของรางวัล เราต้องจำไว้
ว่าผลตอบแทนที่มีหลายรูปแบบและขนาด ผลตอบแทนจะ
ไม่เพียง แต่ในรูปแบบเงิน แม้จะเป็นคำที่ดีสามารถรับรางวัล ใน
องค์กรบางครั้งใบรับรอง, ป้าย, แก้ว ฯลฯ สามารถนำมาใช้เป็นรางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ดี.
ในทำนองเดียวกันการลงโทษที่มีหลายมิติในองค์กร.
รุนแรงที่ถูกโยนออกจากงานและการลงโทษอ่อน
อาจจะใช้คำตำหนิสำหรับพฤติกรรมที่ไม่
พึงประสงค์ .

รูปที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้นตามทฤษฎีความคาดหวังของบุคคลเป็นแรงกระตุ้นเมื่อพวกเขาเห็นการรวมกันของอะไรดีเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาและสิ่งที่พวกเขาคาดหวังว่ารางวัลความพยายามของพวกเขาและพวกเขาปฏิบัติตามทฤษฎีการเสริมแรงทฤษฎีการเสริมแรงที่เกี่ยวข้องกับนักจิตวิทยา b.f.skinner และอื่น ๆ ปัจจุบัน เขาได้ผ่านการทดลองแล้วพฤติกรรมที่ผ่านมาส่งผลกระทบตามมาการกระทำในอนาคตในกระบวนการเรียนรู้ที่เป็นวงกลม เขาทำการทดลองในสุนัข สิ่งที่เขาทำคือ เขานำอาหารในหน้าหมา เมื่ออาหารมาถึงหน้าหมาปากของเขาเริ่มหลั่งน้ำลาย . เวลาอาหารมาถึงปากsalivated . ตอนนี้ ในการทดลองของเขา เขาแนะนำให้อีกองค์ประกอบ อาหารที่ถูกนำเสนอ และทันทีที่อาหารคือแสดงสุนัขได้รับการช็อตด้วยไฟฟ้า ลำดับเหตุการณ์ :อาหาร→ keyboard - key - name อิ่มใจ→ keyboard - key - name ช็อกการทดลองซ้ำหลายครั้ง หลังจากบางครั้งพบว่าสุนัขหยุดบอกไปแล้วนะเมื่ออาหารถูกนำเสนอ ผลลัพธ์ของการทดลองคือ พฤติกรรมที่สามารถแก้ไขได้ ขั้นตอนนี้อาจจะแสดงดังนี้กระตุ้นการตอบสนอง→ keyboard - key - name ผลที่ตามมา→ keyboard - key - name → keyboard - key - name ในอนาคตการตอบสนอง( อาหาร ) ( อิ่มใจ ) ( ไฟฟ้าดูด ) ( อิ่มใจ )เราดูเบื้องหลังทฤษฎีการเสริมแรงคือแนวคิดของการลงโทษและให้รางวัล โปรแกรมนี้ทฤษฎี คือ เห็น เมื่อสัตว์ได้รับการอบรมเพื่อดำเนินการบางอย่างการกระทำ คุณอาจได้เห็นลิงถูกชวนให้เต้นโดยมนุษย์ลิง และเมื่อลิงแสดงละครเขาจะให้อะไรกิน ทฤษฎีการเสริมแรงที่เป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี พฤติกรรมมนุษย์นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนผ่านการให้รางวัลและการลงโทษถ้าในองค์กรเราต้องการที่จะส่งเสริมให้คนมาเวลา แล้วคนที่มาตรงเวลาจะต้องได้รับการส่งเสริมตอนนี้กำลังใจ ISA เป็นรางวัล เราต้องจำที่รางวัลมีหลายรูปแบบและขนาด รางวัลคือไม่เพียง แต่ในรูปเงิน . แม้พูดดีได้รางวัล ในองค์กรบางครั้งบัตร , ป้าย , แก้ว ฯลฯ สามารถใช้เป็นรางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ดีในทำนองเดียวกัน การลงโทษมีหลายมิติในองค์กรที่รุนแรงที่ถูกโยนออกมาจากงาน และบทลงโทษไม่รุนแรงอาจจะใช้คำที่กล่าวตำหนิพฤติกรรมที่ไม่ที่พึงประสงค์รูปที่ 1