This dissertation is a collection o

This dissertation is a collection of five self-contained papers (not including this introduction). The first three (Chapters 2, 3, and 4) concern desire-satisfaction theories of welfare, Chapter 5 concerns the nature of sensory pleasure, and Chapter 6 concerns the relationship between desire theories and hedonistic theories of welfare. One advantage of this format is that the reader can begin anywhere he likes (the abstract above contains very brief synopses of each chapter). A disadvantage is that the work repeats itself occasionally.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิทยานิพนธ์นี้คือ ชุดของห้าเอกสารที่ตนเองมีอยู่ (ไม่รวมนี้แนะนำ) ทฤษฎีความพึงพอใจความต้องกังวล (บทที่ 2, 3 และ 4) ของสวัสดิการ บทที่ 5 สามแรกเกี่ยวข้องกับธรรมชาติของความสุขทางประสาทสัมผัส และบทที่ 6 ความสัมพันธ์ระหว่างทฤษฎีความต้องการและสวัสดิการ hedonistic ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับ ประโยชน์ข้อหนึ่งของรูปแบบนี้คือ ให้ผู้อ่านสามารถเริ่มต้นที่ใดก็ได้ชอบเขา (บทคัดย่อด้านบนประกอบด้วยภาพยนตร์ใหม่สั้น ๆ ของแต่ละบท) ข้อเสียเปรียบคือ ว่า งานทำซ้ำตัวเองในบางครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้คือชุดของห้าเอกสารในตัวเอง (ไม่รวมถึงการแนะนำนี้) ครั้งแรกที่สาม (บทที่ 2, 3 และ 4) ความกังวลทฤษฎีความพึงพอใจความต้องการของสวัสดิการบทที่ 5 ความกังวลธรรมชาติของความสุขทางประสาทสัมผัสและบทที่ 6 ความกังวลความสัมพันธ์ระหว่างทฤษฎีความปรารถนาและทฤษฎีลัทธิของสวัสดิการ ข้อดีอย่างหนึ่งของรูปแบบนี้คือการที่ผู้อ่านสามารถเริ่มต้นได้ทุกที่เขาชอบ (นามธรรมข้างต้นมี synopses สั้นมากของแต่ละบท) ข้อเสียก็คือการทำงานเป็นครั้งคราวซ้ำตัวเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้เป็นคอลเลกชันของห้าในเอกสาร ( ไม่รวมแนะนำตัวนี้ ) สามอันแรก ( บทที่ 2 , 3 , และ 4 ) ปัญหาความความพึงพอใจของทฤษฎีสังคม บทที่ 5 กล่าวถึงธรรมชาติของความรู้สึกยินดี และบทที่ 6 กล่าวถึง ความสัมพันธ์ระหว่างทฤษฎีและทฤษฎีสวัสดิการเจ้าสำราญความปรารถนาหนึ่งในข้อดีของรูปแบบนี้คือว่า ผู้อ่านสามารถเริ่มต้นที่ใดก็ได้ที่เขาชอบ ( นามธรรมข้างต้นประกอบด้วยบทสรุปมากข้อมูล, แต่ละบท ) ข้อเสียคืองานที่ทำซ้ำตัวเองเป็นครั้งคราว