Based on statistical analysis, the

Based on statistical analysis, the punicalagin content was significantly (p ⩽ 0.05) affected by the single effect of time and interaction effect of time and intensity level; while the single effect of intensity level and duty cycle depicted insignificant (p > 0.05) effects on the punicalagin content (Table 1). A high R2 value (0.986) represented that the final reduced model could accurately predict the changes of punicalagin content as a function of ultrasound variables (Table 2). Fig. 3b shows the positive interaction effect of extraction time and ultrasonic wave intensity on the content of punicalagin. The punicalagin content was gradually increased with increasing of intensity level at a fixed extraction time; while the punicalagin content was greatly increased by extending the extraction time at a fixed intensity level. For instance, the increment in punicalagin content was 6 mg/g (from ∼140 to 146) when the intensity level was increased from 52.5 W/cm2 to 105 W/cm2 during 10 min of extraction period. However, extending the extraction time from 2 to 10 min at intensity level of 105 W/cm2 led to a 16 mg/g increment in the punicalagin content (from ∼130 to 146 mg/g). Numerical optimization also represented higher positive effect of extraction time than intensity level on the punicalagin content (Fig. 3c).

Optimization of the extraction process, in order to obtain the highest content of ellagic acid from pomegranate peel, is an important contribution to the food and pharmaceutical industries. The result of this study also indicated that ellagic acid content varied from 10.12 to 22.53 mg/g at different PUAE conditions. The lowest ellagic acid content (10.12 mg/g) was quantified after 2 min extraction, whereas the highest content was obtained when the extraction was carried out for 10 min. The ellagic acid content obtained under optimum PUAE condition in this study was considerably higher compared to Çam and Hışıl (2010) who obtained 1.25 mg/g ellagic acid in the extract of pomegranate peel which was prepared by applying pressurized water extraction for 10 min. The quantified value of ellagic acid in this study was also higher than the previous findings of Masci et al. (2016), who reported that 11.85 mg/g of ellagic acid in Israeli pomegranate peel extract was obtained by stirring in ethanol for 24 h. The variation in ellagic acid contents could be due to different extraction methods and conditions as well as different varieties of pomegranates used in these studies.

As displayed in Fig. 3d, the ellagic acid content was increased by prolonging the extraction process. The single effect of extraction time was the only significant (p ⩽ 0.05) factor affecting the content of ellagic acid in pomegranate peel extract (Table 1). In fact, the extraction of ellagic acid was noticeably time dependent (F-ratio = 71.84). This observation was in agreement with the findings reported by Jerman, Trebše, and Mozetič Vodopivec (2010). These researchers reported that the higher content of phenolic compounds from olive fruit was obtained by prolonging the duration of ultrasound extraction.

In this study, a very low content of gallic acid was quantified in pomegranate peel extract. In fact, the highest content of gallic acid in the extract was 0.051 mg/g which was much lower than the punicalagin and ellagic acid contents. Elfalleh et al. (2011) quantified gallic acid content in 6 different types of Tunisian pomegranate peel after extraction by stirring in methanol overnight. They reported that the gallic acid contents were between 1.09 and 1.31 mg/g and this was extremely higher than the gallic acid content (0.051 mg/g) determined in the current study. Table 1 showed that the interaction effect of extraction time and intensity level significantly (p ⩽ 0.05) influenced the gallic acid content; while the other terms did not noticeably affect the gallic acid content. The final reduced model showed high R2 value (0.926) when it was fitted based on gallic acid content (Table 2). Accordingly, about 92% of the variation in the gallic acid content could be explained as a function of significant PUAE variables. In order to visualize the interaction effect of time and intensity level on gallic acid content, a response surface plot was constructed (Fig. 3e).

The results illustrated that the gallic acid content was substantially increased by simultaneously extending the extraction time and increasing the intensity level. The maximum gallic acid content (0.051 mg/g) was obtained when the highest intensity level (105 W/cm2) and longest time (10 min) were applied for extraction (Fig. 3e). Fig. 3f showed that time had a more positive significant effect than intensity level on the recovery of gallic acid. The punicalagin and gallic acid contents were considerably affected by interaction effect of extraction time and intensity level. The most probable reason might be attributed to the application of ultrasound energy. In fact, the appl

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อิงจากการวิเคราะห์ทางสถิติ punicalagin เนื้อหาได้รับอย่างมีนัยสำคัญ (p ⩽ 0.05) ผลจากผลเดี่ยวผลเวลาและปฏิสัมพันธ์ของระดับความเข้มและเวลา; ในขณะที่ผลของความเข้มระดับและหน้าที่รอบเดียวแสดงผลไม่มีนัยสำคัญ (p > 0.05) เนื้อหา punicalagin (ตาราง 1) R2 ค่าสูง (0.986) แสดงว่าแบบจำลองลดลงสุดท้ายสามารถทำนายการเปลี่ยนแปลงของเนื้อหา punicalagin เป็นฟังก์ชันของตัวแปรอัลตร้าซาวด์ (ตารางที่ 2) รูป 3b แสดงผลโต้ตอบในเชิงบวกของเวลาสกัดและความเข้มของคลื่นบนเนื้อหาของ punicalagin เนื้อหา punicalagin ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มระดับความเข้มในเวลาสกัดถาวร ในขณะที่เนื้อหา punicalagin มากเพิ่มขึ้น โดยขยายเวลาสกัดในระดับความเข้มคงที่ เช่น การเพิ่มขึ้นในเนื้อหา punicalagin ถูก 6 mg/g (จาก ∼140 ไป 146) เมื่อระดับความเข้มเพิ่มจาก 52.5 W/cm2 เป็น 105 W/cm2 ระหว่าง 10 นาทีระยะเวลาสกัด อย่างไรก็ตาม ขยายเวลาสกัดจาก 2 ถึง 10 นาทีที่ระดับความเข้มของ 105 W/cm2 นำไปสู่การเพิ่ม 16 mg/g ในเนื้อหา punicalagin (จาก ∼130 ไป 146 mg/g) เพิ่มประสิทธิภาพตัวเลขยังแสดงสูงกว่าผลดีเวลาสกัดกว่าระดับความเข้มเนื้อหา punicalagin (มะเดื่อ. 3 c)เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการสกัด เพื่อให้ได้เนื้อหาที่สูงของกรด ellagic จากเปลือกทับทิม เป็นผลงานสำคัญเพื่อการอุตสาหกรรมอาหารและยา ผลการศึกษานี้ยังระบุว่า กรด ellagic เนื้อหาแตกต่างจาก 10.12 22.53 มิลลิกรัม/กรัมที่ PUAE เงื่อนไข เนื้อหากรด ellagic ต่ำสุด (10.12 mg/g) คือวัดหลังจาก 2 นาทีสกัด ในขณะที่เนื้อหาที่สูงที่สุดได้รับเมื่อแยกดำเนินการ 10 นาที เนื้อหากรด ellagic ได้สภาวะที่เหมาะสม PUAE ในการศึกษานี้ถูกสูงมากเมื่อเทียบกับ Çam และ Hışıl (2010) ที่ได้รับกรด ellagic 1.25 mg/g ในสารสกัดจากเปลือกทับทิมที่ถูกเตรียมไว้ โดยใช้การแยกแรงดันน้ำ 10 นาที ค่าปริมาณของกรด ellagic ในการศึกษานี้ก็ยังสูงกว่าผลการวิจัยก่อนหน้านี้ของสรอ. et al. (2016), ที่รายงานว่า 11.85 mg/g กรด ellagic ในอิสราเอลทับทิมเปลือกสารสกัด ได้รับ โดยกวนในเอทานอลใน 24 ชม การเปลี่ยนแปลงในกรด ellagic เนื้อหาอาจเป็น เพราะวิธีการสกัดที่แตกต่างกัน และเงื่อนไขเช่นเดียว กับพันธุ์ที่แตกต่างของทับทิมที่ใช้ในการศึกษาเหล่านี้ตามที่แสดงในรูป 3 มิติ ปริมาณกรด ellagic เพิ่มยืดกระบวนการสกัด ผลเดี่ยวเวลาสกัดเป็นสำคัญเท่านั้น (p ⩽ 0.05) (ตาราง 1) แยกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเนื้อหาของกรด ellagic ในเปลือกทับทิม ในความเป็นจริง การสกัดกรด ellagic แก้ไขอย่างเห็นได้ชัดเวลาขึ้น (อัตราส่วน F = 71.84) ข้อสังเกตนี้เป็นข้อตกลงผลการวิจัยที่รายงาน โดย Jerman, Trebše และ Mozetič Vodopivec (2010) นักวิจัยเหล่านี้รายงานว่า ได้รับเนื้อหาที่สูงของสารฟีนอจากผลไม้มะกอก โดยยืดระยะเวลาการสกัดเครื่องอัลตราซาวด์ในการศึกษานี้ เป็นวัดเนื้อหาต่ำมากของกรด gallic ในสารสกัดจากเปลือกทับทิม ในความเป็นจริง เนื้อหาสูงที่สุดของกรด gallic ในสารสกัดถูก 0.051 mg/g ซึ่งต่ำกว่าเนื้อหา punicalagin และกรด ellagic กรด gallic Elfalleh et al. (2011) วัดเนื้อหาใน 6 ประเภทของตูนิเซียทับทิมเปลือกหลังจากสกัดโดยกวนในเมทานอค้างคืน พวกเขารายงานว่า กรด gallic ที่เนื้อหาถูกระหว่าง 1.09 และ 1.31 mg/g และนี้ไม่มากสูงกว่าปริมาณกรด gallic (0.051 mg/g) ที่กำหนดไว้ในการศึกษาปัจจุบัน ตารางที่ 1 พบว่าผลการปฏิสัมพันธ์ของระดับความเข้มและเวลา สกัด อย่างมีนัยสำคัญ (p ⩽ 0.05) อิทธิพลปริมาณกรด gallic ในขณะที่เงื่อนไขการไม่ชัดผลปริมาณกรด gallic แบบลดสุดท้ายพบค่า R2 สูง (0.926) เมื่อมีการติดตั้งตามเนื้อหากรด gallic (ตารางที่ 2) ตามลำดับ ประมาณ 92% ของการเปลี่ยนแปลงในกรด gallic เนื้อหาอาจจะอธิบายเป็นฟังก์ชันของตัวแปร PUAE ที่สำคัญ เพื่อให้เห็นภาพผลการโต้ตอบของเวลาและความเข้มระดับปริมาณกรด gallic พล็อตพื้นผิวตอบสนองถูกสร้าง (3e มะเดื่อ)ผลลัพธ์แสดงว่า ปริมาณกรด gallic มากขึ้น ด้วยพร้อมขยายเวลาสกัด และเพิ่มระดับความเข้ม เนื้อหากรด gallic สูงสุด (0.051 mg/g) ได้รับเมื่อระดับความเข้มสูง (105 W/cm2) และยาวนานที่สุด (10 นาที) ใช้สำหรับสกัด (มะเดื่อ 3e) รูปที่ 3f แสดงให้เห็นว่าเวลาที่มีผลต่อสำคัญบวกมากขึ้นกว่าระดับความเข้มในการกู้คืนของกรด gallic เนื้อหา punicalagin และกรด gallic ได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยผลปฏิสัมพันธ์ของระดับความเข้มและเวลาดูด สาเหตุน่าจะมากที่สุดอาจนำมาประกอบกับแอพลิเคชันของอัลตร้าซาวด์พลังงาน ในความเป็นจริง การ appl

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางสถิติเนื้อหา punicalagin อย่างมีนัยสำคัญ (P ⩽ 0.05) ผลกระทบจากผลเดียวของเวลาและปฏิสัมพันธ์ของเวลาและระดับความเข้ม; ในขณะที่ผลกระทบเดียวของระดับความรุนแรงและรอบหน้าที่ภาพที่ไม่มีนัยสำคัญ (p> 0.05) ผลกระทบต่อเนื้อหา punicalagin (ตารางที่ 1) ค่า R2 สูง (0.986) แสดงว่าลดลงรุ่นสุดท้ายอย่างถูกต้องสามารถทำนายการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา punicalagin เป็นหน้าที่ของตัวแปรอัลตราซาวด์ (ตารางที่ 2) มะเดื่อ. 3b แสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวกของการสกัดเวลาและความรุนแรงของคลื่นอัลตราโซนิกกับเนื้อหาของ punicalagin เนื้อหา punicalagin ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มขึ้นของระดับความเข้มในเวลาสกัดคงที่; ในขณะที่เนื้อหา punicalagin ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากโดยขยายเวลาการสกัดที่ระดับความเข้มของการแก้ไข ยกตัวอย่างเช่นการเพิ่มขึ้นในเนื้อหา punicalagin เป็น 6 mg / g (จาก ~140 146) เมื่อระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นจาก 52.5 W / cm2 ถึง 105 W / cm2 ในช่วง 10 นาทีระยะเวลาในการสกัด อย่างไรก็ตามการขยายเวลาการสกัด 2-10 นาทีในระดับความเข้มของ 105 W / cm2 นำไปสู่ ​​16 มิลลิกรัม / กรัมเพิ่มขึ้นในเนื้อหา punicalagin (ตั้งแต่ ~130 146 mg / g) การเพิ่มประสิทธิภาพเชิงตัวเลขยังเป็นตัวแทนของผลบวกที่สูงขึ้นของเวลาการสกัดกว่าระดับความเข้มในเนื้อหา punicalagin (รูป. 3C).

การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการสกัดเพื่อให้ได้เนื้อหาที่สูงสุดของกรด ellagic จากเปลือกทับทิมเป็นบทบาทสำคัญในการอาหาร และอุตสาหกรรมยา ผลการศึกษาครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นว่าปริมาณกรด ellagic แตกต่างกัน 10.12-22.53 mg / g ที่สภาวะ PUAE ที่แตกต่างกัน ต่ำสุดปริมาณกรด ellagic (10.12 mg / g) คือปริมาณการสกัดหลังจาก 2 นาทีในขณะที่เนื้อหาสูงสุดที่ได้รับเมื่อสกัดได้ดำเนินการเป็นเวลา 10 นาที ปริมาณกรด ellagic ได้ภายใต้เงื่อนไข PUAE ที่เหมาะสมในการศึกษานี้ได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับ CAM และHışıl (2010) ที่ได้รับ 1.25 mg / กรด ellagic กรัมสารสกัดจากเปลือกทับทิมซึ่งถูกจัดทำโดยการใช้แรงดันน้ำสกัดเป็นเวลา 10 นาที ค่าปริมาณของกรด ellagic ในการศึกษาครั้งนี้ก็ยังสูงกว่าผลการวิจัยก่อนหน้านี้ Masci et al, (2016) ที่รายงานว่า 11.85 mg / g ของกรด ellagic ในสารสกัดจากทับทิมเปลือกอิสราเอลได้มาจากการกวนในเอทานอลเป็นเวลา 24 ชั่วโมง การเปลี่ยนแปลงในปริมาณกรด ellagic อาจเป็นเพราะวิธีการสกัดที่แตกต่างกันและเงื่อนไขเช่นเดียวกับสายพันธุ์ที่แตกต่างกันของทับทิมที่ใช้ในการศึกษาเหล่านี้.

ตามที่แสดงในรูป 3d, ปริมาณกรด ellagic เพิ่มขึ้นโดยยืดระยะเวลากระบวนการสกัด ผลเดียวของเวลาการสกัดเป็นเพียงคนเดียวอย่างมีนัยสำคัญ (P ⩽ 0.05) ปัจจัยที่มีผลต่อเนื้อหาของกรด ellagic ในสารสกัดจากทับทิมเปลือก (ตารางที่ 1) ในความเป็นจริงการสกัดกรด ellagic เป็นเวลาอย่างเห็นได้ชัดขึ้น (F-อัตราส่วน = 71.84) ข้อสังเกตนี้อยู่ในข้อตกลงกับผลการวิจัยที่รายงานโดย Jerman, TrebšeและMozetič Vodopivec (2010) นักวิจัยเหล่านี้รายงานว่าเนื้อหาที่สูงขึ้นของสารประกอบฟีนอจากผลไม้มะกอกได้มาจากการยืดระยะเวลาของการสกัดอัลตราซาวนด์.

ในการศึกษานี้มีปริมาณที่ต่ำมากของกรดแกลลิถูกวัดในสารสกัดจากเปลือกทับทิม ในความเป็นจริงเนื้อหาสูงสุดของฝรั่งเศสกรดในสารสกัดจากเป็น 0.051 mg / g ซึ่งต่ำกว่า punicalagin และปริมาณกรด ellagic Elfalleh et al, (2011) วัดปริมาณกรดฝรั่งเศสใน 6 ประเภทที่แตกต่างกันของเปลือกทับทิมตูนิเซียหลังจากการสกัดโดยกวนในเมทานอลในชั่วข้ามคืน พวกเขาได้รายงานว่าปริมาณกรดฝรั่งเศสอยู่ระหว่าง 1.09 และ 1.31 mg / g และนี่คือที่สูงขึ้นมากกว่าปริมาณกรดแกลลิ (0.051 mg / g) ที่กำหนดไว้ในการศึกษาในปัจจุบัน ตารางที่ 1 แสดงให้เห็นว่าผลกระทบที่เกิดปฏิสัมพันธ์ของเวลาสกัดและระดับความรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ (P ⩽ 0.05) มีอิทธิพลต่อปริมาณกรดแกลลิ; ในขณะที่เงื่อนไขอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณกรดฝรั่งเศส สุดท้ายลดลงแสดงให้เห็นรูปแบบคุ้มค่า R2 สูง (0.926) เมื่อมันถูกติดตั้งอยู่บนพื้นฐานของปริมาณกรดแกลลิ (ตารางที่ 2) ดังนั้นประมาณ 92% ของการเปลี่ยนแปลงในปริมาณกรดฝรั่งเศสอาจจะอธิบายได้ว่าเป็นฟังก์ชั่นของตัวแปร PUAE อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้เห็นภาพผลการทำงานร่วมกันของเวลาและระดับความเข้มในปริมาณกรด Gallic, พล็อตพื้นผิวตอบสนองถูกสร้างขึ้น (รูป. 3E).

ผลแสดงให้เห็นว่าปริมาณกรดฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยพร้อมกันขยายเวลาการสกัดและเพิ่มความเข้ม ชั้น สูงสุดปริมาณกรดแกลลิ (0.051 mg / g) ที่ได้รับเมื่อระดับสูงสุดเข้ม (105 W / cm2) และเวลาที่ยาวที่สุด (10 นาที) ถูกนำไปใช้ในการสกัด (รูป. 3E) มะเดื่อ. 3F แสดงให้เห็นว่าเวลาที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในเชิงบวกมากขึ้นกว่าระดับความเข้มในการกู้คืนของกรดแกลลิ punicalagin และกรดแกลลิเนื้อหาได้รับผลกระทบอย่างมากจากผลการทำงานร่วมกันของเวลาสกัดและระดับความเข้ม เหตุผลน่าจะเป็นที่สุดอาจจะนำมาประกอบกับการประยุกต์ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์ ในความเป็นจริง Appl

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากการวิเคราะห์ทางสถิติ , punicalagin เนื้อหาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P ⩽ 0.05 ) ได้รับผลกระทบจากผลเดียวของเวลาและปฏิสัมพันธ์ของเวลาและระดับความเข้ม ในขณะที่ผลเดียวของระดับความเข้มและหน้าที่ของวงจรภาพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 0.05 ) ผลต่อ punicalagin เนื้อหา ( ตารางที่ 1 ) ค่า R2 สูง ( 0.986 ) แสดงว่าสุดท้ายลดแบบจะถูกต้องทำนายการเปลี่ยนแปลงของ punicalagin เนื้อหาเป็นฟังก์ชันของตัวแปร ) ( ตารางที่ 2 ) รูปที่ 3B แสดงบวกปฏิสัมพันธ์เวลาการสกัดและความเข้มของคลื่นอัลตราโซนิกในเนื้อหาของ punicalagin . การ punicalagin เนื้อหาเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มระดับความเข้มในการสกัดเวลาคงที่ ในขณะที่ punicalagin เนื้อหาเพิ่มมากขึ้น โดยขยายเวลาการสกัดที่คงความเข้มระดับ เช่น การเพิ่ม punicalagin เนื้อหา 6 มิลลิกรัมต่อลิตร ( จาก∼ 140 146 ) เมื่อระดับความเข้มเพิ่มขึ้นจาก 0.8 w / cm2 105 W / cm2 ช่วง 10 นาทีของระยะเวลาในการสกัด อย่างไรก็ตาม การขยายเวลาการสกัดจาก 2 เป็น 10 นาที ที่ระดับความเข้มของ 105 W / cm2 ) 16 / กรัม เพิ่มเนื้อหาใน punicalagin มิลลิกรัม ( จาก∼ 130 มิลลิกรัม / 146 กรัม ) การเพิ่มประสิทธิภาพสูงบวกเลขแสดงผลของเวลาในการสกัดกว่าระดับความเข้มใน punicalagin เนื้อหา ( รูปที่ 3 )การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการสกัดเพื่อให้ได้ปริมาณสูงสุดของลาจิก กรดจากเปลือกทับทิม เป็นประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมอาหารและยา ผลการศึกษาครั้งนี้พบว่าปริมาณกรดที่แตกต่างกันจากการลาจิกตามสภาพ puae 22.53 มิลลิกรัม / กรัม ที่แตกต่างกัน กรดลาจิกต่ำสุด ( มิลลิกรัม / 10.2 กรัม ) มีปริมาณการสกัดหลังจาก 2 นาที ส่วนเนื้อหาสูงสุดได้ เมื่อสกัดออกมา 10 นาทีลาจิกกรดเนื้อหาได้ภายใต้สภาวะที่เหมาะสมในการศึกษาครั้งนี้ คือ puae สูงมากเมื่อเทียบกับÇและ H ışı L ( 2010 ) ที่ได้ 1.25 มิลลิกรัมต่อลิตร กรัมลาจิกกรดใน สารสกัดจากเปลือกผลทับทิมที่เตรียมโดยใช้การสกัดน้ำแรงดันสูง 10 นาทีวัดคุณค่าของลาจิกกรดในการศึกษาสูงกว่าการศึกษาก่อนหน้านี้ของ มอก. et al . ( 2016 ) ที่รายงานว่า 11.85 มก. / กรัมลาจิกกรดสกัดเปลือกผลทับทิมในอิสราเอลได้เร้าใจในเอทานอลเป็นเวลา 24 ชั่วโมง การเปลี่ยนแปลงในเนื้อหากรดลาจิก อาจเนื่องจากการสกัดด้วยวิธีที่แตกต่างกันและเงื่อนไข รวมทั้งพันธุ์ที่แตกต่างกันของทับทิมใช้ในการศึกษาเหล่านี้ตามที่แสดงในรูปที่ 3 มิติ , กรดลาจิกเพิ่มขึ้นกลุ่มกระบวนการสกัด ผลของการสกัดเป็นเพียงเวลาเดียวอย่างมีนัยสำคัญ ( p ⩽ 0.05 ) ปัจจัยที่มีผลต่อเนื้อหาของลาจิกกรดในสารสกัดจากเปลือกผลทับทิม ( ตารางที่ 1 ) ในความเป็นจริง , การสกัดลาจิกและกรดอย่างเห็นได้ชัดขึ้นอยู่กับเวลา ( สาขา = 71.84 ) การสังเกตนี้มีความสอดคล้องกับผลรายงานจากประเทศเยอรมัน , Treb š E และ mozeti č vodopivec ( 2010 ) นักวิจัยเหล่านี้รายงานว่าสูงกว่าปริมาณของสารประกอบฟีนอลจากผลมะกอกโดยนำยื้อระยะเวลาของการอัลตราซาวด์ในการศึกษานี้ เนื้อหาน้อยมาก คือ ปริมาณเพิ่มขึ้นในการสกัดสารสกัดจากเปลือกทับทิม ในความเป็นจริง เนื้อหาสูงสุดของเพิ่มขึ้นในการแยกเป็น 0.051 มิลลิกรัม / กรัมซึ่งน้อยกว่า punicalagin และปริมาณกรดลาจิก . elfalleh et al . ( 2011 ) ปริมาณเนื้อหาที่เพิ่มขึ้นใน 6 ชนิดที่แตกต่างกันของตูนิเซีย หลังจากสกัดเปลือกผลทับทิมในเมทานอล โดยกวนทั้งคืน พวกเขารายงานว่าปริมาณกรดแกลลิคอยู่ระหว่าง 1.09 และ 1.31 mg / g และค่อนข้างสูงกว่ากรดแกลลิค ( มิลลิกรัม / 0.051 กรัม ) มุ่งมั่นในการศึกษาปัจจุบัน ตารางที่ 1 พบว่า ปฏิสัมพันธ์ของเวลาและระดับความเข้มในการสกัดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p ⩽ 0.05 ) มีอิทธิพลกรดแกลลิค ในขณะที่ด้านอื่น ๆไม่ชัด มีผลต่อกรดแกลลิค . สุดท้ายลดแบบ พบค่า R2 สูง ( 0.926 ) เมื่อมันถูกติดตั้งตามเนื้อหาที่เพิ่มขึ้น ( ตารางที่ 2 ) ตาม ประมาณ 92 % ของการเปลี่ยนแปลงในเนื้อหากรดแกลลิคสามารถอธิบายเป็นฟังก์ชันของตัวแปร puae อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้เห็นภาพการปฏิสัมพันธ์ของเวลาและระดับความเข้มในเนื้อหาเพิ่มขึ้น และพื้นผิวตอบสนอง ( รูปแปลงสร้าง 3E )ผลการวิจัยพบว่า กรดแกลลิคก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยพร้อมกัน ขยายเวลาการสกัดและการเพิ่มระดับความเข้ม สูงสุดเพิ่มขึ้นเนื้อหา ( มิลลิกรัม / 0.051 กรัม ) ได้เมื่อระดับความเข้มสูง ( 105 W / cm2 ) และเวลาที่ยาวที่สุด ( 10 นาที ) ใช้สำหรับการสกัด ( รูป 3E ) รูปที่ 3 เอฟ พบว่า เวลามีมากขึ้นบวกผลกว่าระดับความเข้มในการกู้เพิ่มขึ้น . การ punicalagin ปริมาณกรดแกลลิคและถูกมากผลกระทบจากปฏิสัมพันธ์ของเวลาที่ใช้ และระดับความเข้ม เหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด อาจจะเกิดจากการใช้อัลตราซาวด์พลังงาน ในความเป็นจริง , อับ