ประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์มังรายพงศาวดารโยนกว่า พญามังรายสร้างขึ้น ณ ที่ การแปล - ประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์มังรายพงศาวดารโยนกว่า พญามังรายสร้างขึ้น ณ ที่ ไทย วิธีการพูด

ประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์มังรายพงศาว

ประวัติศาสตร์
สมัยราชวงศ์มังราย
พงศาวดารโยนกว่า พญามังรายสร้างขึ้น ณ ที่ซึ่งเดิมเป็นเวียงไชยนารายณ์ เมื่อ พ.ศ. 1805 และครองราชสมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงรายจนถึง พ.ศ. 1839 จึงไปสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในท้องที่ระหว่างดอยสุเทพกับแม่น้ำปิง และครองราชสมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงใหม่จนถึง พ.ศ. 1860 ส่วนตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ระบุว่า พญามังรายทรงเสด็จตามช้างมาทางทิศตะวันออกแล้วเห็นชัยภูมิเหมาะแก่การสร้างเมืองริมฝั่งแม่น้ำกก จึงสร้างเป็นเวียงล้อมรอบดอยจอมทองไว้ในปี พ.ศ. 1805 [6]

สำหรับเมืองเชียงรายนั้น เมื่อพญามังรายย้ายไปครองราชสมบัติที่เมืองเชียงใหม่แล้ว พระราชโอรสคือ ขุนคราม หรืออีกชื่อหนึ่งว่าพญาไชยสงคราม ก็ได้ครองราชสมบัติสืบต่อมา นับแต่นั้นเมืองเชียงรายก็ขึ้นต่อเมืองเชียงใหม่

สมัยล้านนาภายใต้การปกครองของพม่า
ครั้นต่อมาเมื่อล้านนาตกไปอยู่ในปกครองของพม่า ในปี พ.ศ. 2101 พม่าได้ตั้งขุนนางปกครองเมืองเชียงรายเรื่อยมา หลังจากนั้น พ.ศ. 2317 เจ้ากาวิละแห่งลำปางได้สวามิภักดิ์ต่อกรุงเทพฯ ทำให้หัวเมืองล้านนาฝ่ายใต้ตกเป็นประเทศราชของสยาม ขณะที่เชียงรายและหัวเมืองล้านนาฝ่านเหนืออื่น ๆ ยังคงอยู่ใต้อำนาจพม่า ล้านนากลายเป็นพื้นที่แย่งชิงอำนาจระหว่างสยามกับพม่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเมืองเชียงรายเริ่มร้างผู้คน ประชาชนอพยพหนีภัยสงครามไปอยู่เมืองอื่น บ้างก็ถูกกวาดต้อนลงไปทางใต้ พ.ศ. 2247 เมืองเชียงแสนฐานที่มั่นสุดท้ายของพม่า ถูกกองทัพเชียงใหม่ ลำปาง และน่าน ตีแตก เมืองเชียงรายจึงกลายสภาพเป็นเมืองร้างตามเมืองเชียงแสน

สมัยล้านนาภายใต้การปกครองของสยาม
ในปี พ.ศ. 2386 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟื้นฟูเชียงรายขึ้นใหม่ ภายหลังเมืองเชียงรายได้เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลพายัพ กระทั่งปี พ.ศ. 2453 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีประกาศกระทรวงมหาดไทย ยกฐานะเมืองเชียงรายเป็นเมืองจัตวามณฑลพายัพ ในปี พ.ศ. 2453 เมืองเชียงแสน เมืองเชียงราย เมืองฝาง เวียงป่าเป้า เมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอดอกคำใต้ อำเภอแม่สรวย อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงของ ตั้งเป็นเมืองจัตวาเรียกว่าเมืองเชียงราย อยู่ในมณฑลพายัพ และจัดแบ่งการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ คือ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเมืองเชียงแสน อำเภอเมืองฝาง อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอเมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอดอกคำใต้ อำเภอแม่สรวย อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงของ เหมือนอย่างหัวเมืองชั้นในที่ขึ้นกับกรุงเทพมหานครทั้งปวง [7] ภายหลังเมืองเชียงรายได้เปลี่ยนเป็นจังหวัดเชียงราย[8]

การเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด
ตั้งแต่มีการตั้งจังหวัดเชียงราย อาณาเขตของจังหวัดเชียงรายมีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นลำดับ โดยมีการโอนพื้นที่บางส่วน ไปขึ้นกับจังหวัดข้างเคียง และโอนพื้นที่จังหวัดข้างเคียง เข้ามารวมกับจังหวัดเชียงราย รวมถึงการแบ่งพื้นที่บางส่วน ตั้งเป็นจังหวัดใหม่ ดังนี้

การโอนอำเภอเมืองฝาง ไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่
มีประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง โอนอำเภอเมืองฝาง จังหวัดเชียงรายไปขึ้นจังหวัดเชียงใหม่[9] ในปี พ.ศ. 2468 เนื่องจากความลำบากในการเดินทางติดต่อราชการ ปัจจุบันคือ อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่

การโอนหมู่ 7 ตำบลป่าตึง อำเภอเชียงแสน ไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่
พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด พุทธศักราช 2479 ได้มีการโอนพื้นที่เหนือลำน้ำแม่งามในเขตตำบลป่าตึง อำเภอเชียงแสนในขณะนั้น (อำเภอแม่จันในปัจจุบัน)ไปขึ้นตำบลแม่อาย อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันอยู่ในเขต ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่[10]

การโอนอำเภอปง จังหวัดน่าน มาขึ้นกับจังหวัดเชียงราย
ตามพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย และจังหวัดแพร่ พ.ศ. 2495 ได้มีการโอนอำเภอปง จังหวัดน่าน ยกเว้น ตำบลสวด (อำเภอบ้านหลวง ในปัจจุบัน) มาขึ้นกับจังหวัดเชียงราย (สีเขียว) และโอนตำบลสะเอียบ (สีส้ม) อำเภอปง ไปขึ้นกับอำเภอสอง จังหวัดแพร่[11]

การแบ่งพื้นที่บางส่วนตั้งเป็นจังหวัดพะเยา
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ได้แบ่งแยกพื้นที่บางส่วนทางตอนใต้ของจังหวัดจัดตั้งขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา12
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์มังรายพงศาวดารโยนกว่าพญามังรายสร้างขึ้นณที่ซึ่งเดิมเป็นเวียงไชยนารายณ์เมื่อพ.ศ. 1805 และครองราชสมบัติอยู่ณเมืองเชียงรายจนถึงพ.ศ. 1839 จึงไปสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในท้องที่ระหว่างดอยสุเทพกับแม่น้ำปิงและครองราชสมบัติอยู่ณเมืองเชียงใหม่จนถึงพ.ศ. 1860 ส่วนตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ระบุว่าพญามังรายทรงเสด็จตามช้างมาทางทิศตะวันออกแล้วเห็นชัยภูมิเหมาะแก่การสร้างเมืองริมฝั่งแม่น้ำกกจึงสร้างเป็นเวียงล้อมรอบดอยจอมทองไว้ในปีพ.ศ. 1805 [6]สำหรับเมืองเชียงรายนั้นเมื่อพญามังรายย้ายไปครองราชสมบัติที่เมืองเชียงใหม่แล้วพระราชโอรสคือขุนครามหรืออีกชื่อหนึ่งว่าพญาไชยสงครามก็ได้ครองราชสมบัติสืบต่อมานับแต่นั้นเมืองเชียงรายก็ขึ้นต่อเมืองเชียงใหม่สมัยล้านนาภายใต้การปกครองของพม่าครั้นต่อมาเมื่อล้านนาตกไปอยู่ในปกครองของพม่าในปีพ.ศ. 2101 พม่าได้ตั้งขุนนางปกครองเมืองเชียงรายเรื่อยมาหลังจากนั้นพ.ศ. 2317 เจ้ากาวิละแห่งลำปางได้สวามิภักดิ์ต่อกรุงเทพฯ ทำให้หัวเมืองล้านนาฝ่ายใต้ตกเป็นประเทศราชของสยามขณะที่เชียงรายและหัวเมืองล้านนาฝ่านเหนืออื่นๆ ยังคงอยู่ใต้อำนาจพม่าล้านนากลายเป็นพื้นที่แย่งชิงอำนาจระหว่างสยามกับพม่าในช่วงเวลาดังกล่าวเมืองเชียงรายเริ่มร้างผู้คนประชาชนอพยพหนีภัยสงครามไปอยู่เมืองอื่นบ้างก็ถูกกวาดต้อนลงไปทางใต้พ.ศ. 2247 เมืองเชียงแสนฐานที่มั่นสุดท้ายของพม่าถูกกองทัพเชียงใหม่ลำปางและน่านตีแตกเมืองเชียงรายจึงกลายสภาพเป็นเมืองร้างตามเมืองเชียงแสนสมัยล้านนาภายใต้การปกครองของสยามในปีพ.ศ. 2386 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟื้นฟูเชียงรายขึ้นใหม่ภายหลังเมืองเชียงรายได้เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลพายัพกระทั่งปีพ.ศ. 2453 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกฐานะเมืองเชียงรายเป็นเมืองจัตวามณฑลพายัพในปีพ.ศ. 2453 เมืองเชียงแสนเมืองเชียงรายเมืองฝางเวียงป่าเป้าเมืองพะเยาอำเภอแม่ใจอำเภอดอกคำใต้อำเภอแม่สรวยอำเภอเชียงคำอำเภอเชียงของตั้งเป็นเมืองจัตวาเรียกว่าเมืองเชียงรายอยู่ในมณฑลพายัพและจัดแบ่งการปกครองออกเป็น 10 ตำบลคืออำเภอเมืองเชียงรายอำเภอเมืองเชียงแสนอำเภอเมืองฝางอำเภอเวียงป่าเป้าอำเภอเมืองพะเยาอำเภอแม่ใจอำเภอดอกคำใต้อำเภอแม่สรวยอำเภอเชียงคำอำเภอเชียงของเหมือนอย่างหัวเมืองชั้นในที่ขึ้นกับกรุงเทพมหานครทั้งปวง [7] ภายหลังเมืองเชียงรายได้เปลี่ยนเป็นจังหวัดเชียงราย [8]การเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดตั้งแต่มีการตั้งจังหวัดเชียงรายอาณาเขตของจังหวัดเชียงรายมีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นลำดับโดยมีการโอนพื้นที่บางส่วนไปขึ้นกับจังหวัดข้างเคียงและโอนพื้นที่จังหวัดข้างเคียงเข้ามารวมกับจังหวัดเชียงรายรวมถึงการแบ่งพื้นที่บางส่วนตั้งเป็นจังหวัดใหม่ดังนี้การโอนอำเภอเมืองฝางไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่มีประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องโอนอำเภอเมืองฝางจังหวัดเชียงรายไปขึ้นจังหวัดเชียงใหม่ [9] ในปีพ.ศ. 2468 เนื่องจากความลำบากในการเดินทางติดต่อราชการปัจจุบันคืออำเภอฝางอำเภอแม่อายและอำเภอไชยปราการจังหวัดเชียงใหม่ไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่อำเภอเชียงแสนตำบลป่าตึงการโอนหมู่ 7พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดพุทธศักราช 2479 ได้มีการโอนพื้นที่เหนือลำน้ำแม่งามในเขตตำบลป่าตึงอำเภอเชียงแสนในขณะนั้น (อำเภอแม่จันในปัจจุบัน) ไปขึ้นตำบลแม่อายอำเภอฝางจังหวัดเชียงใหม่ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลท่าตอนอำเภอแม่อายจังหวัดเชียงใหม่ [10]การโอนอำเภอปงจังหวัดน่านมาขึ้นกับจังหวัดเชียงรายตามพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดน่านจังหวัดเชียงรายและจังหวัดแพร่พ.ศ. 2495 ได้มีการโอนอำเภอปงจังหวัดน่านยกเว้นตำบลสวด (อำเภอบ้านหลวงในปัจจุบัน) มาขึ้นกับจังหวัดเชียงราย (สีเขียว) และโอนตำบลสะเอียบ (สีส้ม) อำเภอปงไปขึ้นกับอำเภอสองจังหวัดแพร่ [11]การแบ่งพื้นที่บางส่วนตั้งเป็นจังหวัดพะเยาเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมพ.ศ. 2520 ได้แบ่งแยกพื้นที่บางส่วนทางตอนใต้ของจังหวัดจัดตั้งขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา12
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
พญามังรายสร้างขึ้น ณ ที่ซึ่งเดิมเป็นเวียงไชยนารายณ์เมื่อ พ.ศ. 1805 และครองราชสมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงรายจนถึง พ.ศ. 1839 และครองราชสมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงใหม่จนถึง พ.ศ. 1860 พ.ศ. 1805 [6] สำหรับเมืองเชียงรายนั้น พระราชโอรสคือขุนครามหรืออีกชื่อหนึ่งว่าพญาไชยสงครามก็ได้ครองราชสมบัติสืบต่อมา ในปี พ.ศ. 2101 หลังจากนั้น พ.ศ. 2317 ๆ ยังคงอยู่ใต้อำนาจพม่า บ้างก็ถูกกวาดต้อนลงไปทางใต้ พ.ศ. 2247 ถูกกองทัพเชียงใหม่ลำปางและน่านตีแตก พ.ศ. 2386 กระทั่งปี พ.ศ. 2453 ในปี พ.ศ. 2453 เมืองเชียงแสนเมืองเชียงรายเมืองฝางเวียงป่าเป้าเมืองพะเยาอำเภอแม่ใจอำเภอดอกคำใต้อำเภอแม่สรวยอำเภอเชียงคำอำเภอเชียงของ อยู่ในมณฑลพายัพและจัดแบ่งการปกครองออกเป็น 10 อำเภอคืออำเภอเมืองเชียงรายอำเภอเมืองเชียงแสนอำเภอเมืองฝางอำเภอเวียงป่าเป้าอำเภอเมืองพะเยาอำเภอแม่ใจอำเภอดอกคำใต้อำเภอแม่สรวยอำเภอเชียงคำอำเภอเชียงของ [7] โดยมีการโอนพื้นที่บางส่วนไปขึ้นกับจังหวัดข้างเคียงและโอนพื้นที่จังหวัดข้างเคียงเข้ามารวมกับจังหวัดเชียงรายรวมถึงการแบ่งพื้นที่บางส่วนตั้งเป็นจังหวัดใหม่ดังนี้การโอนอำเภอเมืองฝาง เรื่องโอนอำเภอเมืองฝาง ในปี พ.ศ. 2468 ปัจจุบันคืออำเภอฝางอำเภอแม่อายและอำเภอไชยปราการจังหวัดเชียงใหม่การโอนหมู่ 7 ตำบลป่าตึงอำเภอเชียงแสน พุทธศักราช 2479 อำเภอเชียงแสนในขณะนั้น อำเภอฝางจังหวัดเชียงใหม่ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลท่าตอนอำเภอแม่อายจังหวัดเชียงใหม่ [10] การโอนอำเภอปงจังหวัดน่าน จังหวัดเชียงรายและจังหวัดแพร่ พ.ศ. 2495 ได้มีการโอนอำเภอปงจังหวัดน่านยกเว้นตำบลสวด (อำเภอบ้านหลวงในปัจจุบัน) มาขึ้นกับจังหวัดเชียงราย (สีเขียว) และโอนตำบลสะเอียบ (สีส้ม) อำเภอปงไปขึ้นกับอำเภอสอง 28 สิงหาคม พ.ศ. 2520
























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติศาสตร์

พงศาวดารโยนกว่าสมัยราชวงศ์มังรายพญามังรายสร้างขึ้นณที่ซึ่งเดิมเป็นเวียงไชยนารายณ์เมื่อพ . ศ . 0 และครองราชสมบัติอยู่ณเมืองเชียงรายจนถึงพ . ศ .1839 จึงไปสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในท้องที่ระหว่างดอยสุเทพกับแม่น้ำปิงและครองราชสมบัติอยู่ณเมืองเชียงใหม่จนถึงพ . ศ .1860 ส่วนตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ระบุว่าพญามังรายทรงเสด็จตามช้างมาทางทิศตะวันออกแล้วเห็นชัยภูมิเหมาะแก่การสร้างเมืองริมฝั่งแม่น้ำกกจึงสร้างเป็นเวียงล้อมรอบดอยจอมทองไว้ในปีพ . ศ . 0 [ 6 ]

สำหรับเมืองเชียงรายนั้นเมื่อพญามังรายย้ายไปครองราชสมบัติที่เมืองเชียงใหม่แล้วพระราชโอรสคือขุนครามหรืออีกชื่อหนึ่งว่าพญาไชยสงครามก็ได้ครองราชสมบัติสืบต่อมา

สมัยล้านนาภายใต้การปกครองของพม่าครั้นต่อมาเมื่อล้านนาตกไปอยู่ในปกครองของพม่าสามารถพ . ศ . 2101 พม่าได้ตั้งขุนนางปกครองเมืองเชียงรายเรื่อยมาหลังจากนั้นพ . ศ .1660 เจ้ากาวิละแห่งลำปางได้สวามิภักดิ์ต่อกรุงเทพฯทำให้หัวเมืองล้านนาฝ่ายใต้ตกเป็นประเทศราชของสยามขณะที่เชียงรายและหัวเมืองล้านนาฝ่านเหนืออื่นจะยังคงอยู่ใต้อำนาจพม่าในช่วงเวลาดังกล่าวเมืองเชียงรายเริ่มร้างผู้คนประชาชนอพยพหนีภัยสงครามไปอยู่เมืองอื่นบ้างก็ถูกกวาดต้อนลงไปทางใต้พ .ศ . คุณเมืองเชียงแสนฐานที่มั่นสุดท้ายของพม่าถูกกองทัพเชียงใหม่ลำปางและน่านตีแตกเมืองเชียงรายจึงกลายสภาพเป็นเมืองร้างตามเมืองเชียงแสน

สมัยล้านนาภายใต้การปกครองของสยาม
สามารถพ . ศ .1238 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟื้นฟูเชียงรายขึ้นใหม่ภายหลังเมืองเชียงรายได้เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลพายัพกระทั่งปีพ . ศ .2543 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกฐานะเมืองเชียงรายเป็นเมืองจัตวามณฑลพายัพสามารถพ . ศ .2543 เมืองเชียงแสนเมืองเชียงรายเมืองฝางเวียงป่าเป้าเมืองพะเยาอำเภอแม่ใจอำเภอดอกคำใต้อำเภอแม่สรวยอำเภอเชียงคำอำเภอเชียงของตั้งเป็นเมืองจัตวาเรียกว่าเมืองเชียงรายอยู่ในมณฑลพายัพ10 อำเภอความอำเภอเมืองเชียงรายอำเภอเมืองเชียงแสนอำเภอเมืองฝางอำเภอเวียงป่าเป้าอำเภอเมืองพะเยาอำเภอแม่ใจอำเภอดอกคำใต้อำเภอแม่สรวยอำเภอเชียงคำอำเภอเชียงของ[ 7 ] [ 8 ]
ภายหลังเมืองเชียงรายได้เปลี่ยนเป็นจังหวัดเชียงราย

การเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดตั้งแต่มีการตั้งจังหวัดเชียงรายอาณาเขตของจังหวัดเชียงรายมีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นลำดับโดยมีการโอนพื้นที่บางส่วนไปขึ้นกับจังหวัดข้างเคียงและโอนพื้นที่จังหวัดข้างเคียงเข้ามารวมกับจังหวัดเชียงรายตั้งเป็นจังหวัดใหม่ดังนี้


การโอนอำเภอเมืองฝางไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่มีประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องโอนอำเภอเมืองฝางจังหวัดเชียงรายไปขึ้นจังหวัดเชียงใหม่ [ 9 ] สามารถพ . ศ .2468 เนื่องจากความลำบากในการเดินทางติดต่อราชการปัจจุบันคืออำเภอฝางอำเภอแม่อายและอำเภอไชยปราการ Thanawat Thongtan

การโอนหมู่ 7 ตำบลป่าตึงอำเภอเชียงแสนไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่
พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดพุทธศักราช 2479 ได้มีการโอนพื้นที่เหนือลำน้ำแม่งามในเขตตำบลป่าตึงอำเภอเชียงแสนในขณะนั้น ( อำเภอแม่จันในปัจจุบัน ) ไปขึ้นตำบลแม่อายอำเภอฝาง Thanawat Thongtanตำบลท่าตอน [ 10 ]
อำเภอแม่อาย Thanawat Thongtan

การโอนอำเภอปงจังหวัดน่านมาขึ้นกับจังหวัดเชียงรายตามพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดน่านจังหวัดเชียงรายและจังหวัดแพร่พ . ศ .และได้มีการโอนอำเภอปงจังหวัดน่านยกเว้นตำบลสวด ( อำเภอบ้านหลวงในปัจจุบัน ) มาขึ้นกับจังหวัดเชียงราย ( สีเขียว ) และโอนตำบลสะเอียบ ( สีส้ม ) อำเภอปงไปขึ้นกับอำเภอสองจังหวัดแพร่ [ 11 ]

การแบ่งพื้นที่บางส่วนตั้งเป็นจังหวัดพะเยา
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคมพ . ศ . ได้แบ่งแยกพื้นที่บางส่วนทางตอนใต้ของจังหวัดจัดตั้งขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา 12 เชียงใหม่
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: