3. Hypothesis developmentWe begin o

3. Hypothesis development
We begin our analysis by examining the incentives states have to understate their pension funding gaps. Watts and
Zimmerman (1978) suggest that in the for-profit sector there are a variety of different motivations (like debt, compensation
contracts, and political forces) that influence the accounting choices made by firms. In the accounting literature, there are
significantly fewer theoretical underpinnings for the factors affecting the accounting choices made by governmental
entities. In the political science literature, Stiglitz (2002) highlights the tension underlying a government's incentives to be
transparent, arguing that “Democratic societies have a strong presumption in favor of transparency and openness in
government. But there has also long been recognition that on their own, governments and their leaders do not have the
incentives to disclose, let alone disseminate, information that is contrary to their interests.”
Consistent with this idea, we suggest that elected officials will have the strongest motivation to obfuscate the true
size of their pension funding gaps during periods in which they face fiscal stress. By understating their pension funding
gap during periods of fiscal stress, states reduce their Annual Required Contributions to the pension fund, and thus can
reduce their expenditures on pension obligations.16 Virtually every state has some form of balanced budget restriction,
which requires a balancing of expenditures and revenues. Thus, in periods when revenues fall below expenditures, or in
periods when there are relatively fewer funds available to meet budget shortfalls, states have incentives to use accounting
discretion to reduce their pension obligations and thus reduce required contributions to pension trusts. Thus our first
hypothesis is:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. การพัฒนาสมมติฐาน
เราเริ่มต้นการวิเคราะห์ของเราโดยการตรวจสอบรัฐมีแรงจูงใจที่จะต้องความจริงช่องว่างการระดมทุนของเงินบำนาญของพวกเขา วัตต์และ
Zimmerman (1978) ชี้ให้เห็นว่าในภาคที่มีความหลากหลายของแรงจูงใจที่แตกต่างกันเพื่อผลกำไร (เช่นหนี้ค่าชดเชย
สัญญาและกองกำลังทางการเมือง) ที่มีอิทธิพลต่อทางเลือกบัญชีที่ทำโดย บริษัท ในวรรณคดีบัญชีที่มี
อย่างมีนัยสำคัญน้อยหนุนหลังทฤษฎีปัจจัยที่มีผลต่อทางเลือกบัญชีที่ทำโดยหน่วยงานของรัฐ
หน่วยงาน ในวรรณคดีรัฐศาสตร์, สติกลิตซ์ (2002) เน้นความตึงเครียดภายใต้แรงจูงใจของรัฐบาลที่จะต้อง
โปร่งใสเถียงว่า "สังคมประชาธิปไตยมีข้อสันนิษฐานที่แข็งแกร่งในความโปรดปรานของความโปร่งใสและการเปิดกว้างใน
รัฐบาล แต่มียังได้รับการยอมรับมานานแล้วว่าตัวเองรัฐบาลและผู้นำของพวกเขาไม่ได้มี
แรงจูงใจที่จะเปิดเผยให้คนเดียวเผยแพร่ข้อมูลที่ขัดต่อผลประโยชน์ของพวกเขา. "
สอดคล้องกับความคิดนี้เราขอแนะนำให้มาจากการเลือกตั้งจะมี แรงจูงใจที่แข็งแกร่งที่จะทำให้งงงวยจริง
ขนาดของช่องว่างการระดมทุนของเงินบำนาญของพวกเขาในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องเผชิญกับความเครียดทางการคลัง โดยการระดมทุนของพวกเขา understating บำนาญ
ช่องว่างในช่วงระยะเวลาของความเครียดการคลังรัฐลดเงินสมทบประจำปีของพวกเขาต้องใช้กองทุนบำเหน็จบำนาญและทำให้สามารถ
ลดค่าใช้จ่ายของพวกเขาในเงินบำนาญ obligations.16 แทบทุกรัฐมีรูปแบบของข้อ จำกัด งบประมาณสมดุลบางอย่าง
ซึ่งจะต้องมีความสมดุลของ ค่าใช้จ่ายและรายได้ ดังนั้นในช่วงเวลาที่มีรายได้ลดลงต่ำกว่าค่าใช้จ่ายหรือใน
ช่วงเวลาที่มีเงินทุนที่ค่อนข้างน้อยพร้อมที่จะตอบสนองไขงบประมาณรัฐมีแรงจูงใจที่จะใช้บัญชี
ดุลยพินิจที่จะลดภาระหน้าที่ของเงินบำนาญของพวกเขาและทำให้ลดการมีส่วนร่วมที่จำเป็นในการลงทุนเงินบำนาญ ดังนั้นครั้งแรกของเรา
สมมติฐานคือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . สมมุติฐานการพัฒนา
เราเริ่มต้นการวิเคราะห์ของเราโดยการตรวจสอบบริเวณรัฐมีการกล่าวถึงอย่างไม่เต็มที่ช่องว่างเงินบำนาญเงินทุนของพวกเขา วัตต์และ
ซิมเมอร์แมน ( 1978 ) ได้แนะนำว่า เพื่อประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมมีความหลากหลายของแรงจูงใจที่แตกต่างกัน ( เช่นหนี้ชดเชย
สัญญา และกำลังทางการเมือง ) มีผลต่อบัญชีตัวเลือก ทำโดย บริษัท ในวรรณคดีมี
บัญชีน้อยลงอย่างมีนัยสําคัญทางทฤษฎี underpinnings สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อบัญชีตัวเลือกที่ทำโดยหน่วยงานของรัฐ

ในรัฐศาสตร์วรรณกรรม สติกลิตส์ ( 2002 ) เน้นแรงต้นแบบของรัฐบาลยังคงเป็น
โปร่งใสเถียงว่า " สังคมประชาธิปไตยมีข้อสันนิษฐานที่แข็งแกร่งในความโปรดปรานของความโปร่งใสและการเปิดกว้างใน
รัฐบาลแต่ก็ยังได้รับการยอมรับว่าตนเอง รัฐบาลและผู้นำของพวกเขาไม่ได้มีแรงจูงใจที่จะเปิดเผย
อย่าว่าแต่เผยแพร่ข้อมูลที่ขัดต่อผลประโยชน์ของพวกเขา . "
สอดคล้องกับความคิดนี้ เราแนะนำว่า การเลือกตั้งจะได้มีแรงจูงใจที่แข็งแกร่งที่จะทำให้สับสนจริง
ขนาดช่องว่างของเงินบำนาญเงินทุนของพวกเขาในช่วงที่พวกเขาเผชิญความเครียดทางการเงิน โดยรวมของพวกเขาบำนาญเดิม
ช่องว่างในระหว่างรอบระยะเวลาของความเครียดทางการเงิน , รัฐลดประจำปีของพวกเขาต้องบริจาคให้กองทุนบำนาญและดังนั้นจึงสามารถลดค่าใช้จ่ายของพวกเขาในเพน obligations.16
แทบทุกรัฐมีรูปแบบบางส่วนของข้อ จำกัด งบประมาณสมดุล
ซึ่งจะต้องมีความสมดุลของค่าใช้จ่ายและรายได้ ดังนั้น ในช่วงที่รายได้ต่ำกว่ารายจ่าย หรือในช่วงเวลาที่ค่อนข้างน้อยลง
เมื่อมีทุนพร้อมที่จะตอบสนอง shortfalls งบประมาณรัฐมีแรงจูงใจที่จะใช้ดุลพินิจการบัญชี
ลดภาระผูกพันบำนาญของพวกเขา และดังนั้นจึง ต้องลดเงินสมทบกองทุนรวมเงินบำนาญ ดังนั้นสมมติฐานแรก
ของเราคือ :