Developed by Robert Kaplan and Davi

Developed by Robert Kaplan and David Norton in 1992, the Balanced Scorecard approach to management has gained popularity worldwide since the 1996 release of their text, The Balanced Scorecard: Translating Strategy into Action. In 2001, the Gartner Group estimated that at least 40% of all Fortune 1000 companies were using Balanced Scorecard; however, it can be complex to implement, so it is likely that the format of its usage varies widely across firms.

The Balanced Scorecard is a framework designed to translate an organization’s mission and vision statements and overall business strategy into specific, quantifiable goals and objectives and to monitor the organization’s performance in terms of achieving these goals. Among other criticisms of MBO, one was that it seemed disconnected from a firm’s strategy, and one of Balanced Scorecard’s innovations is explicit attention to vision and strategy in setting goals and objectives. Stemming from the idea that assessing performance through financial returns only provides information about how well the organization did prior to the assessment, the Balanced Scorecard is a comprehensive approach that analyzes an organization’s overall performance in four ways, so that future performance can be predicted and proper actions taken to create the desired future.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พัฒนาโดยโรเบิร์ตแคปแลนและเดวิดนอร์ตันในปี 1992 วิธีการประเมินผลเชิงดุลยภาพในการบริหารจัดการได้รับความนิยมทั่วโลกตั้งแต่รุ่น 1996 ข้อความของพวกเขาจดแต้ม: แปลกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ ในปี 2001 กลุ่ม บริษัท Gartner คาดว่าอย่างน้อย 40% ของ Fortune 1000 บริษัท ได้ใช้ระบบ Balanced Scorecard; แต่ก็อาจมีความซับซ้อนในการดำเนินการดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่ารูปแบบของการใช้งานที่แตกต่างกันไปอย่างกว้างขวางทั่วทั้ง บริษัท .

จดแต้มเป็นกรอบที่ออกแบบมาเพื่อแปลขององค์กรพันธกิจและวิสัยทัศน์งบและกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยรวมลงในที่เฉพาะเจาะจงเป้าหมายเชิงปริมาณและวัตถุประสงค์ และการตรวจสอบประสิทธิภาพขององค์กรในแง่ของการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์อื่น ๆ ของ MBO หนึ่งก็คือว่ามันดูเหมือนจะตัดการเชื่อมต่อจากกลยุทธ์ของ บริษัท และเป็นหนึ่งในนวัตกรรม Scorecard สมดุลความสนใจอย่างชัดเจนกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการตั้งค่าเป้าหมายและวัตถุประสงค์ อันเนื่องมาจากความคิดที่ว่าผลการดำเนินงานการประเมินผ่านผลตอบแทนทางการเงินเพียง แต่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่ดีขององค์กรไม่ก่อนที่จะมีการประเมินผลการประเมินผลเชิงดุลยภาพเป็นวิธีการที่ครอบคลุมที่ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กรในสี่วิธีเพื่อให้ผลการดำเนินงานในอนาคตสามารถคาดการณ์และเหมาะสม การดำเนินการในการสร้างอนาคตที่ต้องการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พัฒนาโดย Robert Kaplan และเดวิด นอร์ตัน ในปี 1965 เพื่อการจัดการที่ได้รับความนิยมทั่วโลกตั้งแต่ปี 1996 รุ่นของข้อความของพวกเขา , ดุลยภาพ : การแปลกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ ในปี 2001 กลุ่ม Gartner ประมาณการว่าอย่างน้อยร้อยละ 40 ของ Fortune 1000 บริษัทใช้สมดุล อย่างไรก็ตาม มันสามารถที่ซับซ้อนในการใช้ ดังนั้น มีแนวโน้มว่า รูปแบบการใช้ที่แตกต่างกันไปอย่างกว้างขวางทั่วทั้งบริษัทดัชนีชี้วัดความสมดุลเป็นกรอบที่ออกแบบมาเพื่อแปลองค์กรวิสัยทัศน์และพันธกิจงบ และกลยุทธ์ในธุรกิจโดยเฉพาะ เป้าหมายเชิงปริมาณและวัตถุประสงค์และเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพขององค์กรในแง่ของการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ของ MBO , หนึ่งที่ดูเหมือนจะตัดขาดจากกลยุทธ์ของ บริษัท และหนึ่งในนวัตกรรมของดุลยภาพที่มีความสนใจกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ อันเนื่องมาจากความคิดที่ผ่านการประเมินประสิทธิภาพผลตอบแทนทางการเงินเพียง แต่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่องค์กรทำก่อนการประเมิน , ดุลยภาพเป็นครอบคลุมวิธีการวิเคราะห์ประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร ใน 4 แนวทาง เพื่อให้งานสามารถทำนายอนาคตและการกระทำที่เหมาะสมนำไปสร้างที่ต้องการในอนาคต