In January 2005 P&G announced an ac

In January 2005 P&G announced an acquisition of Gillette, forming the largest consumer goods company and placing Unilever into second place. This added brands such as Gillette razors, Duracell, Braun, and Oral-B to their stable. The acquisition was approved by the European Union and the Federal Trade Commission, with conditions to a spinoff of certain overlapping brands. P&G agreed to sell its SpinBrush battery-operated electric toothbrush business to Church & Dwight. It also divested Gillette's oral-care toothpaste line, Rembrandt toothpaste. The deodorant brands Right Guard, Soft and Dri, and Dry Idea were sold to Dial Corporation.[6] The companies officially merged on October 1, 2005. Liquid Paper, and Gillette's stationery division, Paper Mate were sold to Newell Rubbermaid. In 2008, P&G branched into the record business with its sponsorship of Tag Records, as an endorsement for TAG Body Spray.[7]

P&G's dominance in many categories of consumer products makes its brand management decisions worthy of study.[8] For example, P&G's corporate strategists must account for the likelihood of one of their products cannibalizing the sales of another.[9]

On August 25, 2009, the Ireland-based pharmaceutical company Warner Chilcott announced they had bought P&G's prescription-drug business for $3.1 billion.[10]

P&G exited the food business in 2012 when it sold its Pringles snack food business to Kellogg's for $2.75bn after the $2.35bn deal with former suitor Diamond Foods fell short.[11] The company had previously sold Jif peanut butter and Folgers coffee in separate transactions to Smucker's

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในเดือน 2005 มกราคม P&G ประกาศซื้อของกิลเลตต์ ขึ้นรูปบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุด และวางยูนิลีเวอร์เป็นสถานที่ที่สอง นี้เพิ่มแบรนด์กิลเลตต์เหมาะสม Duracell, Braun และออรัล-บีเข้าคอกของพวกเขา ซื้อที่ได้รับการอนุมัติจากสหภาพยุโรปและสหพันธ์ค้านาย มีเงื่อนไขเป็น spinoff ของบางแบรนด์ที่ทับซ้อนกัน P&G ตกลงขายกิจการดำเนินการแบตเตอรี่แปรงสีฟันไฟฟ้า SpinBrush โบสถ์&ไวท์ นอกจากนี้มันยัง divested บรรทัดของกิลเลตต์ดูแลช่องปากยาสีฟัน ยาสีฟันแรมแบรนดท์ แบรนด์ระงับกลิ่นกาย ยามขวา นุ่ม และ Dri และ คิดแห้งถูกขายให้ บริษัทโทรศัพท์[6] ทางบริษัทการผสานบน 1 ตุลาคม 2005 กระดาษ และของกิลเลตต์สเตชันเนอรี ส่วน คู่กระดาษถูกขาย Newell อุปกรณ์ทำความสะอาด ใน 2008, P&G branched ธุรกิจบันทึกด้วยความสนับสนุนของแท็ก เป็นการสลักหลังสำหรับสเปรย์ตัวแท็ก[7]

ครอบงำของ P&G ในสินค้าอุปโภคบริโภคหลายประเภททำให้แบรนด์ของตัดสินใจจัดการศึกษาน่า[8] ตัวอย่าง P&G ของบริษัท strategists ต้องมีความเป็นไปได้ของผลิตภัณฑ์ cannibalizing ขายของอีก[9]

เมื่อ 25 สิงหาคม 2552 ไอร์แลนด์ใช้ยาบริษัทวอร์เนอร์ Chilcott ประกาศเขาได้ซื้อธุรกิจของ P&G-ยาสำหรับ 3.1 พันล้านเหรียญ[10]

P&G ออกจากธุรกิจอาหารในปี 2012 เมื่อนั้นขายเลี่ยงกระป๋องขนมอาหารธุรกิจของบี. $ 275bn หลังจาก.35bn $2 เรื่องอาหารเพชร suitor อดีตตกสั้น[11] บริษัทมีก่อนหน้านี้ขาย Jif ถั่วลิสงเนยและกาแฟ Folgers ในธุรกรรมที่แยกต่างหากของ Smucker

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มกราคม 2005 ในพีแอนด์จีประกาศซื้อกิจการของยิลเลตต์รูปที่ใหญ่ที่สุดของ บริษัท สินค้าอุปโภคบริโภคและการวางยูนิลีเวอร์เป็นสถานที่ที่สอง นี้แบรนด์เพิ่มเช่นยิลเลตต์มีดโกน, Duracell, Braun และช่องปาก-B เพื่อความมั่นคงของพวกเขา การเข้าซื้อกิจการได้รับอนุมัติจากสหภาพยุโรปและคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางที่มีเงื่อนไขที่จะเป็นมะเร็งของแบรนด์ที่ทับซ้อนกันบางอย่าง พีแอนด์จีตกลงที่จะขายธุรกิจแปรงสีฟันไฟฟ้าของ SpinBrush แบตเตอรี่ทำงานกับโบสถ์และดไวต์ นอกจากนี้ยังเบือนดูแลช่องปากสายยาสีฟันยิลเลตต์เรมยาสีฟัน แบรนด์ระงับกลิ่นกายยามขวา, ซอฟท์และ Dri และความคิดที่แห้งถูกนำไปขายเพื่อโทร Corporation. ที่ [6] บริษัท อย่างเป็นทางการรวมในวันที่ 1 ตุลาคม 2005 สภาพคล่องกระดาษและหมวดเครื่องเขียนของยิลเลตต์, กระดาษ Mate ถูกขายให้กับนีเวลล์รับเบอร์ ในปี 2008 พีแอนด์จีแยกเข้าสู่ธุรกิจการบันทึกด้วยการสนับสนุนของแท็กประวัติว่าเป็นการรับรองสำหรับสเปรย์ TAG ร่างกาย. [7] พีแอนด์จีปกครองในหลายประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคทำให้การตัดสินใจการจัดการตราสินค้าที่คุ้มค่าของการศึกษา. [8] ตัวอย่างเช่น พีแอนด์จียุทธศาสตร์องค์กรต้องบัญชีสำหรับความน่าจะเป็นของหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของตน cannibalizing ขายของผู้อื่นได้. [9] ที่ 25 สิงหาคม 2009, บริษัท ยาไอร์แลนด์ตามวอร์เนอร์ Chilcott ประกาศว่าพวกเขาได้ซื้อธุรกิจตามใบสั่งยาของ P & G สำหรับ $ 3100000000. [ 10] พีแอนด์จีเดินออกมาจากธุรกิจอาหารในปี 2012 เมื่อมันขายธุรกิจขนมขบเคี้ยวที่ Pringles ที่เคลล็อกราคา $ 2.75bn หลังจากที่ข้อตกลงกับอดีตแฟนเพชรฟู้ดส์ $ 2.35bn สั้นลง. [11] บริษัท ได้ขายก่อนหน้านี้ Jif เนยถั่วลิสงและกาแฟ Folgers ใน การทำธุรกรรมที่แยกต่างหากเพื่อ Smucker ของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในเดือนมกราคมปี 2005 P & G ประกาศเข้าซื้อกิจการของยิลเลตต์ เป็นสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทยูนิลิเวอร์ และการเข้าไปในสถานที่ที่สอง นี้เป็นแบรนด์เช่นยิลเลตต์มีดโกน , Duracell 2547 และการไปของพวกเขามั่นคง ซึ่งได้รับอนุมัติจากสหภาพยุโรปและคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางที่มีเงื่อนไขให้ลูกเล่นบางอย่างที่ทับซ้อนกันของยี่ห้อP &ก. ตกลงขาย spinbrush แปรงสีฟันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ที่ดำเนินการธุรกิจ โบสถ์ &ดไวท์ มันยังขึ้นดังกล่าวของการดูแลช่องปากยาสีฟันบรรทัดแรมบรังด์ยาสีฟัน ที่ระงับกลิ่นกายยี่ห้อถูกยาม , นุ่มและ DRI และคิดบริการถูกขายต่อ บริษัท . [ 6 ] บริษัทผสานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2548 กระดาษของเหลว และยิลเลตต์ของสเตชันเนอรีดิวิชั่นเปเปอร์เมท ถูกขายให้กับ NEWELL RUBBERMAID . ใน 2008 , P &กรัมเดย์เข้าสู่ธุรกิจบันทึกด้วยการสนับสนุนของระเบียนแท็กเป็นโฆษณาสำหรับพ่นตามร่างกาย [ 7 ]

p & G ของการปกครองใน หลายประเภทของผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค ทำให้แบรนด์ของการจัดการการตัดสินใจที่น่าศึกษา [ 8 ] ตัวอย่างเช่นP & G ยุทธศาสตร์ขององค์กรจะต้องพิจารณาความเป็นไปได้ของหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของตน มายุ่ง กับการขายของอื่น . [ 9 ]

ที่สิงหาคม 25 , 2009 , ไอร์แลนด์ตามบริษัทยา วอร์เนอร์ chilcott ประกาศว่าพวกเขาได้ซื้อ P & G ยาธุรกิจ $ 3.1 พันล้าน [ 10 ]

p &กรัม ออกจากอาหาร ธุรกิจ ใน 2012 เมื่อมันขายเป็นผ้าขนขนมอาหารธุรกิจ Kellogg ของ $ 275bn หลังจาก $ 2.35bn จัดการกับอดีตคู่ครอง เพชรอาหารสั้นลง [ 11 ] บริษัทเคยขายถั่วลิสงเนยและกาแฟโฟลเกอร์สจิฟในรายการแยกต่างหากเพื่อ smucker คือ