หากเราย้อนกลับไปนึกถึงในอดีต
ซึ่งก็คือเริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้นับย้อนลงไป
เราคงตั้งข้อสงสัยกันว่า คนเรานี่ก็แปลกเหมือนกัน
ทำไมเราถึงจดจำเรื่องบางเรื่อง จำวันบางวัน
ได้อย่างแม่นยำ ไม่เคยลืมเลือน
แม้เวลาอาจจะล่วงเลยผ่านมาเป็นปี
เป็นสิบปีหรืออาจเป็นสิบๆปีเลยก็ตาม
แต่เรากลับจดจำหรือนึกถึงวันๆนั้น
เรื่องราวๆหรือเหตุการณ์นั้นได้เป็นอย่างดี
แต่ในทางตรงกันข้าม ยังมีเหตุการณ์อีกมากมาย
ที่เรากลับไม่สามารถจดจำหรือนึกถึงได้เลย
หรืออาจจำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ว่ากันไป
ทั้งที่เรื่องนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเช่นกัน
………………..
หลายคนอาจบอกว่าไม่แปลกหรอกครับ
เพราะคนเรามักจะจดจำวันดีๆ เรื่องราวดีๆ
หรือจดจำเหตุการณ์ใหญ่ๆ เหตุการณ์สำคัญ
ได้อย่างแม่นยำ แต่ในขณะเดียวกันคนเรา
จะไม่พยายามจดจำหรือนึกถึงสิ่งไม่ดีสิ่งเลวร้าย
ทีเกิดขึ้นกับชีวิตของเรานั่นเอง
(แม้ว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่เป็นตรงกันข้าม
คือชอบจำในสิ่งที่ไม่ดี จำวันที่เลวร้าย)
ในการจดจำเรื่องราวต่างๆ วันสำคัญต่างๆนั้น
หลายคนอาจจำได้แต่เรื่องราวแต่จำวันเวลาไม่ได้
หลายคนอาจจำวันที่และเวลาได้อย่างแม่นยำ
แต่กลับจำเรื่องราวหรือเหตุการณ์ได้ลางเลือน
และอีกหลายต่อหลายคนที่สามารถจำได้ทั้ง
วันที่ เวลา และเหตุการณ์นั้นๆได้เป็นอย่างดี
จึงไม่แปลกที่เราจะจำวันที่เราเข้าเรียนวันแรก
วันปฐมนิเทศน์วันแรก, วันเริ่มงานวันแรก
วันที่เราได้เงินก้อนแรกในชีวิต
วันที่เรารู้สึกดีๆ รู้สึกพิเศษกับใครสักคนเป็นวันแรก
วันออกเดทครั้งแรก, วันหมั้น, วันแต่งงาน
วันออกรถวันแรก, วันซื้อบ้านวันแรก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามบางคนอาจจำวันที่สิ้นสุดได้เช่นกัน
วันทำงานวันสุดท้าย, วันที่ถูกไล่ออก,
วันที่เลิกรากับคนรัก, วันหย่า, วันแยกทาง
วันที่ล้มเหลว, วันที่ล้มละลาย อย่างนี้เป็นต้น
บนเส้นทางชีวิตของคนเราแต่ละคนนั้น
ต่างก็ต้องผ่านเรื่องราวต่างๆกันมามากมาย
ทั้งในเรื่องครอบครัว, การศึกษา, การงาน, การเงิน
เรื่องความรัก, การแต่งงาน, การหย่า
ซึ่งในแต่ละเรื่องราวแต่ละครั้งแต่ละเวลา
มีทั้งสุขสมหวังและเจ็บปวดทุกข์ทรมาน
รวมถึงอาจได้อะไรมาหรือต้องสูญเสียอะไรไป..
ชื่อแน่ว่า คนส่วนใหญ่ (รวมทั้งตัววันพุธด้วย)
ชอบหรือเลือกที่จะจดจำวันดีๆเรื่องราวดีๆ
มากกว่าที่จะจดจำวันที่ไม่ดี วันที่เลวร้าย
วันที่สิ้นสุดเรื่องราวต่างๆที่ไม่น่าจดจำ
อาจมีข้อยกเว้นอยู่บ้างในวันสิ้นสุดที่ดีๆ
เช่น วันสุดท้ายแห่งการเรียนในสถานศึกษานั้น
วันทำงานวันสุดท้ายในบริษัทหรือหน่วยงานนั้น
วันหย่า หรือวันเลิกรากันด้วยความเข้าใจ เป็นต้น
อาจมีคำถามว่า เราจะจดจำวันและเวลา
รวมถึงเรื่องราวต่างๆอย่างแม่นยำได้อย่างไร
ซึ่งคำตอบก็อาจแตกต่างกันไป
บางคนไม่ต้องจำเลยมันจำได้ของมันเอง
ส่วนบางคนต้องพยายามจำจึงจะจำได้
ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับความสำคัญของเหตุการณ์นั้น
ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจดจำของแต่ละบุคคล
หรือความใส่ใจของเขาต่อเรื่องราวใดก็เป็นได้
……………..
นี่แหละครับ เรื่องของวันดีๆเหตุการณ์ดีๆ
ที่เป็นวันที่น่าจดจำที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา
what is your most memorable thing and why
ลองคิดเล่นว่าใน 1 ปีมี 365 วัน
10 ปี ก็ 3,650 วัน มันคงมีสักวันหรือหลายวัน
ที่เป็นวันดีๆ เป็นวันสำคัญควรกับการจดจำ
ส่วนวันที่เลวร้ายก็ให้ลืมมันไป ไม่ต้องไปจำมัน
ซึ่งความแตกต่างระหว่างการจดจำวันดีๆกับวันที่ไม่ดี
ก็คงเป็นไปตามสัญชาตญาณของคนเรา
ที่มักเลือกจำแต่สิ่งที่ดีมากกว่าสิ่งที่ไม่ดีนั่นเอง
ส่วนที่หลายคนยังจำแต่เหตุการณ์ไม่ดี
จำวันที่เลวร้ายได้นั้น อาจเป็นเพราะ
เรายังยึดติดกับความสุขความสมหวังในอดีต
จนไม่อาจยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
หรืออาจจมอยู่กับความทุกข์ในอดีต
ความคับแค้นใจกับคนที่ทำร้ายเราก็เป็นได้
ให้อภัยเขา ยกโทษให้เขา ผ่านมาแล้วผ่านไป
ปล่อยวางให้ลง ปลงให้เป็น อย่าไปยึดติด
เริ่มต้นชีวิตใหม่และทำมันให้ดีขึ้นจะดีกว่า
เพียงเท่านี้เราก็จะมีวันที่น่าจดจำจริงๆ
มีเรื่องราวที่น่าจดจำจริงๆในชีวิตของเรา
ที่เมื่อเราย้อนกลับไปนึกคิดถึงวันๆนั้น
ย้อนกลับไปนึกคิดถึงเรื่องราวๆนั้น
จะทำให้เราอมยิ้มและรู้สึกสุขใจ
นับเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยเติมเต็มปัจจุบัน
และต่อยอดไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี
เพราะอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตในชีวิตเรา
ต่างก็สำคัญและมีความเชื่อมโยงกันนั่นเอง...ว่าไหมครับ
……วันพุธ……
หากเราย้อนกลับไปนึกถึงในอดีตซึ่งก็คือเริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้นับย้อนลงไปเราคงตั้งข้อสงสัยกันว่าคนเรานี่ก็แปลกเหมือนกันทำไมเราถึงจดจำเรื่องบางเรื่องจำวันบางวันได้อย่างแม่นยำไม่เคยลืมเลือนแม้เวลาอาจจะล่วงเลยผ่านมาเป็นปีเป็นสิบปีหรืออาจเป็นสิบๆปีเลยก็ตามแต่เรากลับจดจำหรือนึกถึงวันๆนั้นเรื่องราวๆหรือเหตุการณ์นั้นได้เป็นอย่างดีแต่ในทางตรงกันข้ามยังมีเหตุการณ์อีกมากมายที่เรากลับไม่สามารถจดจำหรือนึกถึงได้เลยหรืออาจจำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ว่ากันไปทั้งที่เรื่องนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเช่นกัน………………..หลายคนอาจบอกว่าไม่แปลกหรอกครับเพราะคนเรามักจะจดจำวันดี ๆ เรื่องราวดี ๆหรือจดจำเหตุการณ์ใหญ่ ๆ เหตุการณ์สำคัญได้อย่างแม่นยำแต่ในขณะเดียวกันคนเราจะไม่พยายามจดจำหรือนึกถึงสิ่งไม่ดีสิ่งเลวร้ายทีเกิดขึ้นกับชีวิตของเรานั่นเอง(แม้ว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่เป็นตรงกันข้ามคือชอบจำในสิ่งที่ไม่ดีจำวันที่เลวร้าย)ในการจดจำเรื่องราวต่าง ๆ วันสำคัญต่างๆนั้นหลายคนอาจจำได้แต่เรื่องราวแต่จำวันเวลาไม่ได้หลายคนอาจจำวันที่และเวลาได้อย่างแม่นยำแต่กลับจำเรื่องราวหรือเหตุการณ์ได้ลางเลือนและอีกหลายต่อหลายคนที่สามารถจำได้ทั้งวันที่เวลาและเหตุการณ์นั้นๆได้เป็นอย่างดีจึงไม่แปลกที่เราจะจำวันที่เราเข้าเรียนวันแรกวันปฐมนิเทศน์วันแรก วันเริ่มงานวันแรกวันที่เราได้เงินก้อนแรกในชีวิตวันที่เรารู้สึกดี ๆ รู้สึกพิเศษกับใครสักคนเป็นวันแรกวันออกเดทครั้งแรก วันหมั้น วันแต่งงานวันออกรถวันแรก วันซื้อบ้านวันแรกเป็นต้นอย่างไรก็ตามบางคนอาจจำวันที่สิ้นสุดได้เช่นกันวันทำงานวันสุดท้าย วันที่ถูกไล่ออกวันที่เลิกรากับคนรัก วันหย่า วันแยกทางวันที่ล้มเหลว วันที่ล้มละลายอย่างนี้เป็นต้น บนเส้นทางชีวิตของคนเราแต่ละคนนั้นต่างก็ต้องผ่านเรื่องราวต่างๆกันมามากมายทั้งในเรื่องครอบครัว, การศึกษา, การงาน, การเงินเรื่องความรัก, การแต่งงาน, การหย่าซึ่งในแต่ละเรื่องราวแต่ละครั้งแต่ละเวลามีทั้งสุขสมหวังและเจ็บปวดทุกข์ทรมานรวมถึงอาจได้อะไรมาหรือต้องสูญเสียอะไรไป..ชื่อแน่ว่า คนส่วนใหญ่ (รวมทั้งตัววันพุธด้วย)ชอบหรือเลือกที่จะจดจำวันดีๆเรื่องราวดีๆมากกว่าที่จะจดจำวันที่ไม่ดี วันที่เลวร้ายวันที่สิ้นสุดเรื่องราวต่างๆที่ไม่น่าจดจำอาจมีข้อยกเว้นอยู่บ้างในวันสิ้นสุดที่ดีๆเช่น วันสุดท้ายแห่งการเรียนในสถานศึกษานั้นวันทำงานวันสุดท้ายในบริษัทหรือหน่วยงานนั้นวันหย่า หรือวันเลิกรากันด้วยความเข้าใจ เป็นต้นอาจมีคำถามว่า เราจะจดจำวันและเวลารวมถึงเรื่องราวต่างๆอย่างแม่นยำได้อย่างไรซึ่งคำตอบก็อาจแตกต่างกันไปบางคนไม่ต้องจำเลยมันจำได้ของมันเองส่วนบางคนต้องพยายามจำจึงจะจำได้ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับความสำคัญของเหตุการณ์นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการจดจำของแต่ละบุคคลหรือความใส่ใจของเขาต่อเรื่องราวใดก็เป็นได้……………..นี่แหละครับ เรื่องของวันดีๆเหตุการณ์ดีๆที่เป็นวันที่น่าจดจำที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราสิ่งที่น่าจดจำที่สุดของคุณคืออะไร และทำไมลองคิดเล่นว่าใน 1 ปีมี 365 วัน10 ปีก็ 3,650 วันมันคงมีสักวันหรือหลายวันที่เป็นวันดี ๆ เป็นวันสำคัญควรกับการจดจำส่วนวันที่เลวร้ายก็ให้ลืมมันไปไม่ต้องไปจำมันซึ่งความแตกต่างระหว่างการจดจำวันดีๆกับวันที่ไม่ดีก็คงเป็นไปตามสัญชาตญาณของคนเราที่มักเลือกจำแต่สิ่งที่ดีมากกว่าสิ่งที่ไม่ดีนั่นเองส่วนที่หลายคนยังจำแต่เหตุการณ์ไม่ดีจำวันที่เลวร้ายได้นั้นอาจเป็นเพราะเรายังยึดติดกับความสุขความสมหวังในอดีตจนไม่อาจยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหรืออาจจมอยู่กับความทุกข์ในอดีตความคับแค้นใจกับคนที่ทำร้ายเราก็เป็นได้ให้อภัยเขายกโทษให้เขาผ่านมาแล้วผ่านไปปล่อยวางให้ลงปลงให้เป็นอย่าไปยึดติดเริ่มต้นชีวิตใหม่และทำมันให้ดีขึ้นจะดีกว่าเพียงเท่านี้เราก็จะมีวันที่น่าจดจำจริง ๆมีเรื่องราวที่น่าจดจำจริงๆในชีวิตของเราที่เมื่อเราย้อนกลับไปนึกคิดถึงวันๆนั้นย้อนกลับไปนึกคิดถึงเรื่องราวๆนั้นจะทำให้เราอมยิ้มและรู้สึกสุขใจนับเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยเติมเต็มปัจจุบันและต่อยอดไปในอนาคตได้เป็นอย่างดีเพราะอดีตปัจจุบันหรืออนาคตในชีวิตเราต่างก็สำคัญและมีความเชื่อมโยงกันนั่นเอง... ว่าไหมครับ…… วันพุธ...
การแปล กรุณารอสักครู่..
จำวันบางวันได้อย่างแม่นยำ เหตุการณ์สำคัญได้อย่างแม่นยำ เวลา วันหมั้น, วันแต่งงานวันออกรถวันแรก, วันซื้อบ้านวันแรก วันหย่า, วันแยกทางวันที่ล้มเหลว, วันที่ล้มละลาย การศึกษา, การงาน, การเงินเรื่องความรัก, การแต่งงาน, คนส่วนใหญ่ หรือวันเลิกรากันด้วยความเข้าใจเป็นต้นอาจมีคำถามว่าได้ เป็นสิ่งที่คุณประทับใจมากที่สุดและทำไมลองคิดเล่นว่าใน 1 ปีมี 365 วัน10 ปีก็ 3,650 วัน ยกโทษให้เขาผ่านมาแล้วผ่านไปปล่อยวางให้ลงปลงให้เป็น ปัจจุบัน
การแปล กรุณารอสักครู่..