Final ConsiderationsHeavy infestati

Final Considerations
Heavy infestations of mealybugs, especially on many plants, may require severe control methods using insecticides. On the extreme side if you have a plant showing signs of decline from infestation you may have to seriously consider destroying that plant, as the low likelihood of rejuvenating that plant may not justify the expense and effort of continued treatments. Too, destruction of a sick plant can be used to justify the purchase of a new and healthier plant! If you are battling mealybugs for long periods of time (e.g., longer than 9 months) and have been using the same insecticidal control method then you probably developed a resistant population. The best resolution to this is to change methods and chemicals occasionally; that is, do not use the same chemical mix more than 3-4 times sequentially. After isolating infested plants give them a thorough application of something different from what you have been using. For example, if you used insecticide then switch to an oil, soap, or different insecticide. Resistance is not generally a problem with growth regulators, such as kinoprene. Generally, never use an insecticide not labeled for ornamental plants. Whenever using oils, soaps, and insecticides, be thorough, change formulations frequently, and do not use less than the minimum concentration of mixture, or more than normally recommended. Too little of a chemical enhances resistance, while too high of a concentration may damage the plant. Unless you are a commercial grower rotating mixtures of chemicals do not use chemicals prophylactically, that is do not routinely use chemicals as a preventative as it is a waste of chemical (and money!) and such use allows resistant mealybugs to develop. Finally, keep up the manual removal of all mealybugs, if possible.

Mealybugs are an excellent example of pests that are easily transported and create tremendous problems. Although most orchid keepers in North America obtain their plants from conscientious growers in either Canada or the U.S., many persons do purchase plants while traveling, in exchange from friends, or from questionable sources. Everyone needs to be aware of the great potential of inadvertently dispersing species to new areas, particularly from international originations. There cannot be enough stress placed on the recommendation that all plants come from a reputable and quality grower, and are clean of pests.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การพิจารณารอบชิงชนะเลิศการระบาดของเพลี้ยแป้งหนักโดยเฉพาะในพืชหลายชนิดอาจต้องวิธีการควบคุมการใช้ยาฆ่าแมลงอย่างรุนแรง ที่ด้านข้างมากถ้าคุณมีโรงงานแสดงสัญญาณของการปรับตัวลดลงจากการรบกวนคุณอาจจะต้องพิจารณาอย่างจริงจังทำลายพืชที่เป็นความน่าจะเป็นที่ต่ำของการฟื้นฟูโรงงานที่ไม่อาจแสดงให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายและความพยายามในการรักษาอย่างต่อเนื่อง เกินไปทำลายพืชป่วยสามารถใช้ในการแสดงให้เห็นถึงการซื้อของโรงงานใหม่และมีสุขภาพดี! หากคุณกำลังต่อสู้กับเพลี้ยแป้งเป็นเวลานานของเวลา (เช่นนานกว่า 9 เดือน) และได้ใช้วิธีการควบคุมแมลงเดียวกันแล้วคุณอาจจะพัฒนาประชากรทน ความละเอียดที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คือการเปลี่ยนวิธีการและสารเคมีบางครั้ง; ว่ามีที่ไม่ได้ใช้สารเคมีผสมเดียวกันมากกว่า 3-4 ครั้งตามลำดับ หลังจากที่แยกพืชรบกวนให้พวกเขามีการประยุกต์ใช้อย่างละเอียดของสิ่งที่แตกต่างจากสิ่งที่คุณได้ใช้ ตัวอย่างเช่นถ้าคุณใช้ยาฆ่าแมลงจากนั้นสลับไปน้ำมันสบู่หรือยาฆ่าแมลงที่แตกต่างกัน ความต้านทานโดยทั่วไปไม่ได้มีปัญหากับการควบคุมการเจริญเติบโตเช่น kinoprene โดยทั่วไปไม่เคยใช้ยาฆ่าแมลงไม่ติดป้ายสำหรับไม้ประดับ เมื่อใดก็ตามที่ใช้น้ำมันสบู่และยาฆ่าแมลงเป็นอย่างเปลี่ยนสูตรบ่อยและไม่ได้ใช้ความเข้มข้นน้อยกว่าขั้นต่ำของส่วนผสมหรือมากกว่าปกติกว่าที่แนะนำ น้อยเกินไปของสารเคมีที่ช่วยเพิ่มความต้านทานในขณะที่สูงเกินไปของความเข้มข้นอาจเกิดความเสียหายพืช ถ้าคุณเป็นผู้ปลูกเชิงพาณิชย์หมุนผสมของสารเคมีที่ไม่ใช้สารเคมีและป้องกันที่เป็นประจำไม่ใช้สารเคมีป้องกันเป็นอย่างที่มันเป็นของเสียของสารเคมี (และเงิน!) และใช้งานดังกล่าวจะช่วยให้เพลี้ยแป้งทนต่อการพัฒนา สุดท้ายให้ทันการกำจัดคู่มือของเพลี้ยแป้งทั้งหมดถ้าเป็นไปได้. เพลี้ยแป้งเป็นตัวอย่างที่ดีของศัตรูพืชที่มีการขนส่งได้อย่างง่ายดายและสร้างปัญหาอย่างมาก แม้ว่าส่วนใหญ่เฝ้ากล้วยไม้ในทวีปอเมริกาเหนือได้รับโรงงานของพวกเขาจากผู้ปลูกที่ขยันขันแข็งทั้งในแคนาดาหรือสหรัฐอเมริกาคนจำนวนมากไม่ซื้อพืชในขณะที่เดินทางในการแลกเปลี่ยนจากเพื่อนหรือจากแหล่งที่น่าสงสัย ทุกคนต้องการที่จะตระหนักถึงศักยภาพที่ดีของสายพันธุ์ที่ไม่ได้ตั้งใจกระจายไปยังพื้นที่ใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก originations ระหว่างประเทศ มีไม่สามารถความเครียดพอที่วางอยู่บนข้อเสนอแนะว่าพืชทั้งหมดมาจากผู้ปลูกที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพและความสะอาดของศัตรูพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การพิจารณาขั้นสุดท้าย
หนัก infestations ของเพลี้ยแป้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพืชมาก อาจต้องใช้วิธีควบคุมรุนแรงโดยใช้ยาฆ่าแมลง ด้านมากถ้าคุณมีพืชแสดงอาการปฏิเสธ จากการรบกวนคุณอาจจะต้องพิจารณาอย่างจริงจังทำลายพืชที่เป็นโอกาสต่ำของการฟื้นฟูโรงงานที่อาจปรับค่าใช้จ่ายและความพยายามอย่างต่อเนื่องในการรักษา ด้วยทำลายพืชป่วยสามารถใช้ปรับการซื้อโรงงานใหม่และมีสุขภาพดี ! ถ้าคุณต่อสู้กับเพลี้ยแป้งสำหรับระยะเวลานานของเวลา ( เช่น นานกว่า 9 เดือน ) และมีการใช้วิธีควบคุมกำจัดแมลงเหมือนกัน แล้วคุณอาจจะพัฒนาประชากรทน ความละเอียดที่ดีที่สุดนี้จะเปลี่ยนวิธีและสารเคมี ในบางครั้ง นั่นคืออย่าใช้ผสมเคมีเดียวกันมากกว่า 3-4 ครั้ง ตามลำดับ . หลังจากการแยกรบกวนพืชให้โปรแกรมอย่างละเอียดของสิ่งที่แตกต่างจากสิ่งที่คุณได้ใช้ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณใช้ยาฆ่าแมลง แล้วใช้น้ำมัน สบู่ หรือแมลงต่าง ๆ ต้านทานไม่ได้โดยทั่วไปมีปัญหากับการเจริญเติบโต เช่น kinoprene . โดยทั่วไปไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ไม่ติดป้ายสำหรับไม้ประดับ เมื่อใดก็ตามที่การใช้น้ำมัน soaps และแมลงได้อย่างละเอียด เปลี่ยนสูตรบ่อย และไม่ได้ใช้น้อยกว่าความเข้มข้นต่ำสุดของส่วนผสม หรือมากกว่าปกติ แนะนำ น้อยเกินไปของสารเคมีที่ช่วยเพิ่มความต้านทานในขณะที่สูงเกินไปของความเข้มข้นอาจเกิดความเสียหายพืชเว้นแต่คุณจะปลูกในเชิงพาณิชย์หมุนผสมสารเคมี ไม่ใช้สารเคมี prophylactically ที่ไม่ตรวจใช้สารเคมีป้องกันมันเปลืองเคมี ( และเงิน ) ใช้เช่นช่วยให้ป้องกันเพลี้ยแป้ง เพื่อพัฒนา สุดท้าย ให้เอาคู่มือของเพลี้ยแป้ง ถ้าเป็นไปได้

เพลี้ยแป้งเป็นตัวอย่างที่ดีของศัตรูพืชที่สามารถขนส่ง และสร้างปัญหาอย่างมาก แม้ว่าเฝ้ากล้วยไม้มากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือได้รับการปลูกพืชของพวกเขาจากมโนธรรมในแคนาดาหรืออเมริกา หลายคนซื้อพืชขณะเดินทาง ในการแลกเปลี่ยน จากเพื่อน หรือจากแหล่งที่น่าสงสัย