The most important Buddhist merit-m

The most important Buddhist merit-making festival for Southern Thai people is the annual Tenth Month Festival, Sart Duan Sib, traditionally held towards the end of the 10th month of Thai lunar calendar (September/October).

Buddhist Thais believe that spirits of their ancestors, particularly ones that have not yet reincarnated, and the suffering spirits with no relative called ‘Prate’ (hungry ghosts) will be released from the underworld, from the 1st to the 15th day of the waning moon in the 10th lunar month.

This belief is fundamental to the practice of ancestors worship. During the 15 days, Thai family members and friends show their loyalty, gratitude, and respects to their ancestors by preparing sumptuous feast and making trips to nearby Thai temples to present ritual merit-making offerings.

Highlight of the offerings are 'Duan Sib' snacks, particularly make during this time of the year to offer to the spirits. Each snack represents different meaning and symbol.Good merits are then dedicated to their loved ones who have passed on to the spiritual realm, as well as to the visiting 'Prates' hungry ghosts.

Following to food offerings to monks, the people then give alms to Prates. Foods and snacks are put on a high post outdoor, so that Prates with very thin and tall body can reach them. Then the monks pray to call for the ghosts. After the ceremony, poor villagers or children will rush to snatch the foods and snacks, commonly known as ‘Shing Prate’.

Once the rituals and ceremonies have ended, it’s time for celebrations, song and dance. Folk art and culture takes centre stage. Temple grounds are transformed into the staging areas for a colorful fair with a traditional open-air market, folk music and dance, various forms of traditional folk entertainment as well as food stalls.

Activities staged are designed to strengthen community spirit.The temple setting provides a convincing backdrop for a journey back in time and provides a glimpse of rarely seen traditions and Thai way of life.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทศกาลทำบุญพุทธสำคัญสำหรับคนไทยภาคใต้เป็นเทศกาลประจำปี สิบ เดือน Sart เดือนสิบ ประเพณีที่จัดขึ้นในตอนท้ายของเดือน 10 ของปฏิทินจันทรคติไทย (กันยายน/ตุลาคม) คนไทยพุทธเชื่อว่าวิญญาณของบรรพบุรุษของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีไม่ได้กระบี่ไร้เทียมทาน และวิญญาณทุกข์กับญาติไม่เรียกว่า 'Prate' (ผีหิว) จะออกจากยมโลก จาก 1 ข้างวัน 15 ค่ำเดือน 10 ในการ ความเชื่อนี้เป็นรากฐานของการปฏิบัติบูชาบรรพบุรุษ ในระหว่างวันที่ 15 เพื่อนและสมาชิกในครอบครัวไทยแสดงสมาชิกของพวกเขา ความกตัญญู และประการเพื่อบรรพบุรุษ โดยเตรียมงานเลี้ยงที่หรูหรา และการเดินทางให้ใกล้เคียงกับวัดไทยจะนำเสนอพิธีบุญเสนอ จุดเด่นของการเป็น 'เดือนสิบ' อาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำให้ในช่วงเวลานี้ของปีให้อาน ขนมแต่ละแทนความหมายต่าง ๆ และสัญลักษณ์ บุญดีแล้วทุ่มเทเพื่อความรักที่ผ่านทดสอบใน การวิญญาณ และเยี่ยมชม 'Prates' หิวผีต่อไปนี้การถวายอาหารให้พระสงฆ์ คนแล้วให้ยาย Prates อาหารและขนมที่ใส่ในโพสต์สูงกลางแจ้ง เพื่อให้ Prates กับร่างบาง และสูงสามารถเข้าถึงพวกเขา จากนั้น พระสงฆ์สวดมนต์จะเรียกผี หลังจากพิธี ชาวบ้านที่ยากจน หรือเด็กจะรีบฉวยอาหารและอาหารว่าง โดยทั่วไปเรียกว่า 'ชิง Prate' เมื่อพิธีกรรมและพิธีสิ้นสุด ถึงเวลาฉลอง เพลงและเต้นรำ ศิลปะพื้นบ้านและวัฒนธรรมขึ้นเวทีกลาง บริเวณวัดจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่จัดเตรียมสำหรับงานมีสีสันมีตลาดกลางแจ้งแบบดั้งเดิม เพลงพื้นบ้าน และเต้น รำ แบบฟอร์มต่าง ๆ การละเล่นดั้งเดิมรวมทั้งร้านอาหาร กิจกรรมแบ่งระยะออกแบบเพื่อเสริมสร้างจิตวิญญาณของชุมชน ตั้งค่าวัดฉากน่าเชื่อถือสำหรับการเดินทางกลับในเวลา และช่วยให้มองเห็นภาพไม่ค่อยเห็นประเพณีและวิถีชีวิตไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่สำคัญที่สุดของชาวพุทธทำบุญเทศกาลของคนไทยภาคใต้เป็นสิบประจำปีเดือนเทศกาลสารทเดือนสิบที่จัดขึ้นเป็นประเพณีในช่วงปลายเดือนที่ 10 ของปฏิทินจันทรคติไทย (กันยายน / ตุลาคม). คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธเชื่อว่าวิญญาณของบรรพบุรุษของพวกเขา คนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ยังไม่ได้กลับชาติมาเกิดและวิญญาณของความทุกข์ทรมานกับญาติเรียกว่า 'พูดเพ้อเจ้อ (ผีหิว) จะไม่ได้รับการปล่อยตัวจากนรกจากวันที่ 1 ถึงวันที่ 15 ของดวงจันทร์แรมในวันเพ็ญเดือน 10. ความเชื่อนี้ เป็นพื้นฐานในการปฏิบัติของการเคารพบูชาบรรพบุรุษ ในช่วง 15 วันที่สมาชิกในครอบครัวและเพื่อน ๆ ของไทยแสดงความจงรักภักดีของพวกเขากตัญญูและความเคารพบรรพบุรุษของพวกเขาโดยการเตรียมรสชาติความอร่อยและทำให้การเดินทางไปยังวัดไทยอยู่บริเวณใกล้เคียงที่จะนำเสนอพิธีกรรมทำบุญการให้บริการ. ไฮไลท์ของการให้บริการที่มี 'ด้วน Sib' อาหารว่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำให้ช่วงเวลาของปีนี้เพื่อนำเสนอให้กับวิญญาณ อาหารว่างแต่ละความหมายแตกต่างกันและคุณธรรม symbol.Good แล้วจะทุ่มเทเพื่อคนที่รักของพวกเขาที่มีการส่งผ่านไปยังดินแดนทางจิตวิญญาณเช่นเดียวกับการไปเยือน 'Prates' ผีหิว. ต่อไปนี้การที่จะถวายอาหารแก่พระสงฆ์คนแล้วให้ทาน เพื่อ Prates อาหารและของว่างจะถูกวางบนกลางแจ้งโพสต์ที่สูงเพื่อให้ Prates กับร่างกายบางมากและสูงสามารถเข้าถึงพวกเขา จากนั้นพระสงฆ์สวดมนต์เพื่อเรียกร้องให้ผี หลังจากพิธีชาวบ้านที่ยากจนหรือเด็กจะวิ่งไปฉกอาหารและขนมที่เรียกกันว่า 'ชิงพูดเรื่อยเปื่อย'. เมื่อพิธีกรรมและพิธีจบลงก็ถึงเวลาสำหรับการเฉลิมฉลอง, เพลงและการเต้นรำ ศิลปะและวัฒนธรรมพื้นบ้านใช้เวทีกลาง บริเวณวัดจะกลายเป็นพื้นที่การแสดงละครเพื่อความยุติธรรมที่มีสีสันกับตลาดที่เปิดโล่งแบบดั้งเดิมดนตรีพื้นบ้านและการเต้นรำรูปแบบต่าง ๆ ของความบันเทิงพื้นบ้านดั้งเดิมเช่นเดียวกับแผงขายอาหาร. กิจกรรมฉากถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนวัด spirit.The การตั้งค่าให้ ฉากหลังที่น่าเชื่อถือสำหรับการเดินทางกลับในเวลาและให้เหลือบของประเพณีไม่ค่อยเห็นและวิถีชีวิตของคนไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำคัญทางพุทธทำบุญเทศกาล สำหรับภาคใต้ คนเดือนสิบประจำปีเทศกาลสารทเดื ซิบ ผ้าที่จัดขึ้นในตอนท้ายของเดือน 10 ของปฏิทินจันทรคติ ( กันยายน / ตุลาคม )

พ่อค้าเชื่อว่าวิญญาณของบรรพบุรุษของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมาได้และความทรมานวิญญาณไม่มีญาติ เรียกว่า ' ' เปรต ( เปรต ) จะถูกปล่อยออกมาจากนรก จาก 1 ถึงวันที่ 15 ของข้างแรมในวันเพ็ญเดือน 10

ความเชื่อนี้เป็นพื้นฐานในการปฏิบัติบูชาบรรพบุรุษ ในช่วง 15 วัน และสมาชิกในครอบครัวและเพื่อน ๆแสดงให้เห็นความจงรักภักดีของความกตัญญูและเคารพในบรรพบุรุษ ด้วยการเตรียมงานเลี้ยงหรูหรา และทำให้การเดินทางไปยังวัดใกล้เคียงไทยปัจจุบันพิธีกรรมทำบุญบูชา

เน้นเสนอ ' ด้วนซิบ ' ขนมโดยเฉพาะ ทำให้ในช่วงเวลานี้ของปี เพื่อให้วิญญาณ แต่ละขนมแทนความหมายแตกต่างกันและสัญลักษณ์ดี บุญจะทุ่มเทเพื่อคนที่รักของพวกเขาที่เสียชีวิตไปถึงจิตวิญญาณ ตลอดจนการเยี่ยมชม ' ' prates หิวผี

ต่อไปนี้เพื่อถวายอาหารแด่พระสงฆ์ ประชาชน แล้วให้ทาน เพื่อ prates . อาหารและของว่างใส่หลังสระสูง ดังนั้น prates มาก ผอมและสูงร่างกายสามารถเข้าถึงพวกเขา จากนั้นพระสงฆ์สวดเรียกผี หลังพิธีการชาวบ้านที่ยากจน หรือ เด็กจะวิ่งมาแย่งอาหาร และขนม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ' ชิงเปรต '

เมื่อพิธีกรรมและพิธีจบก็ถึงเวลาสำหรับการเฉลิมฉลองของเพลงและการเต้น ศิลปะและวัฒนธรรม ที่ใช้เวทีกลาง บริเวณวัดจะกลายเป็นพื้นที่แสดง ในงานสีสันกับตลาดกลางแจ้งแบบดั้งเดิม , ดนตรีพื้นบ้านและการเต้นรำรูปแบบต่างๆของความบันเทิงพื้นบ้าน ตลอดจนร้านอาหาร

กิจกรรมฉากถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างจิตวิญญาณของชุมชน วัด การตั้งค่าให้ฉากหลังที่น่าเชื่อถือสำหรับการเดินทางกลับในเวลาและให้เหลือบมองไม่ค่อยเห็น ประเพณี และวิถีชีวิตของคนไทย