When disease problems were first id

When disease problems were first identified they were treated with antibiotics, then antibiotics were used to keep the diseases away until eventually the bacteria became resistant to the antibiotics. The world responded by banning antibiotics in animal feed too late and now we need an alternative.
In Figure 1 we can see high levels of antibiotic resistance in pigs and significant resistance in poultry but low levels in feed. This confirms that feed is not the source of infection. There are more bacterial cells in the intestine of a healthy animal than there are cells in the animal. It therefore means that you need a microbiological solution to keep the animals healthy.

What are the alternatives?
Probiotics are a source of healthy lactic acid producing bacteria, such as the Lactic Acid Bacteria (LAB), and can compete with potential pathogens to physically or chemically exclude the enteropathogens. However, probiotics are not always 100% effective. In poultry the stomach or crop/proventriculus has a low pH, which is used as a natural defence mechanism, and this area is colonised by acid tolerant probiotics, but at a low density. However, the enteropathogens that we need to control do not normally colonise this area of the intestine. In monogastrics the more neutral large intestine, colon and rectum are more suited to potential enteropathogen colonisation.
Probiotics require an acid pH for optimum colonisation. Under disease situations or high calcium diets like lactation or layer/breeder rations the pH will not support acid-loving bacteria and probiotics will not be fully effective.It is important to remember that all bacteria require four things to grow:
• Temperature - The body temperature of pigs and chickens are ideal.
• Nutrients - The gut of any commercial animal is full of nutrients.
• Water - All animals drink.
• pH - The pH of the small intestine is perfect for E. coli.
The pH of the hindgut is ideal for salmonella. High calcium rations result in a high pH, about 8.0 – ideal for salmonella.Therefore, probiotics will not work in the large intestine, colon or rectum of pigs without some assistance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อระบุปัญหาโรคแรก พวกเขาได้รับการรักษา ด้วยยาปฏิชีวนะ แล้วใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคไปจนในที่สุดแบคทีเรียกลายเป็นทนกับยาปฏิชีวนะ โลกตอบสนอง โดยห้ามยาปฏิชีวนะในสัตว์เลี้ยงสายเกินไป และตอนนี้ เราต้องการให้ทางเลือก ในรูปที่ 1 เราสามารถดูระดับสูงความต้านทานยาปฏิชีวนะในสุกรและความต้านทานที่สำคัญในสัตว์ปีกแต่ระดับต่ำในอาหาร ยืนยันว่า อาหารไม่ใช่แหล่งที่มาของเชื้อ มีเซลล์เพิ่มเติมแบคทีเรียในลำไส้ของสัตว์มีสุขภาพดีกว่าเซลล์ในสัตว์ ดังนั้นจึงหมายความ ว่า คุณต้องการแก้ไขปัญหาทางจุลชีววิทยาเพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดีทางเลือกคืออะไรProbiotics เป็นแหล่งของแบคทีเรียกรดแลกติกสุขภาพ producing เช่นกรดแลกติกแบคทีเรีย (ห้องปฏิบัติ), และสามารถแข่งขันกับโรคที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกาย หรือสารเคมีไม่รวม enteropathogens อย่างไรก็ตาม probiotics มีประสิทธิภาพ 100% ในสัตว์ปีก พืช/proventriculus หรือกระเพาะอาหารมี pH ต่ำ ซึ่งถูกใช้เป็นกลไกป้องกันตามธรรมชาติ และนี้เป็น colonised ด้วย probiotics ทนกับกรด แต่ ที่ความหนาแน่นต่ำ อย่างไรก็ตาม enteropathogens ที่เราต้องควบคุมไม่ปกติ colonise ลำไส้บริเวณนี้ ในลำไส้ใหญ่ขึ้นกลาง monogastrics ลำไส้ใหญ่และรูตูดได้มากเหมาะกับเป็น enteropathogen อาณานิคม Probiotics ต้องมีค่า pH เป็นกรดในอาณานิคมที่เหมาะสม ภายใต้โรค สถานการณ์หรืออาหารแคลเซียมสูงเช่นด้านการให้นมหรือชั้น/พันธุ์นี้ pH จะได้แบคทีเรียกรดรัก และ probiotics จะไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงควรจำว่า แบคทีเรียทั้งหมดต้องการเติบโตสี่ต่อไปนี้:•อุณหภูมิ - อุณหภูมิร่างกายของสุกรและไก่เหมาะ•สารอาหาร - ลำไส้ของสัตว์เพื่อการค้าใด ๆ จะเต็มไปด้วยสารอาหาร•น้ำ - ดื่มสัตว์ทั้งหมด• pH - pH ของลำไส้เล็กเหมาะสำหรับ E. coliPH ของ hindgut เหมาะสำหรับสาย แคลเซียมสูงนี้ผล pH สูง ประมาณ 8.0 – เหมาะสำหรับสาย ดังนั้น probiotics จะไม่ทำงานในลำไส้ใหญ่ ลำไส้ใหญ่ หรือรูตูดของสุกรโดยความช่วยเหลือบางอย่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อมีปัญหาโรคถูกระบุว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ, ยาปฏิชีวนะแล้วถูกนำมาใช้เพื่อให้เกิดโรคออกไปจนในที่สุดกลายเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ โลกตอบสนองโดยการห้ามการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์สายเกินไปและตอนนี้เราต้องการทางเลือก.
ในรูปที่ 1 เราสามารถมองเห็นระดับสูงของความต้านทานยาปฏิชีวนะในสุกรและความต้านทานอย่างมีนัยสำคัญในสัตว์ปีก แต่ระดับต่ำในอาหาร นี้ยืนยันว่าฟีดไม่ได้เป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อ มีเซลล์ของแบคทีเรียมากขึ้นในลำไส้ของสัตว์มีสุขภาพดีกว่าที่มีเซลล์ในสัตว์ที่มีอยู่ ดังนั้นจึงหมายความว่าคุณต้องแก้ปัญหาทางจุลชีววิทยาเพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดี. อะไรคือทางเลือก? โปรไบโอติกเป็นแหล่งของกรดแลคติกแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพเช่นแบคทีเรียกรดแลคติก (LAB) และสามารถแข่งขันกับเชื้อโรคที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายหรือ สารเคมีที่ไม่รวม enteropathogens อย่างไรก็ตามโปรไบโอติกที่ไม่เคยมีประสิทธิภาพ 100% ในสัตว์ปีกในกระเพาะอาหารหรือพืช / proventriculus มีค่า pH ต่ำซึ่งจะใช้เป็นกลไกการป้องกันธรรมชาติและพื้นที่นี้เป็นอาณานิคมโดยโปรไบโอติกกรดใจกว้าง แต่ในความหนาแน่นต่ำ อย่างไรก็ตาม enteropathogens ที่เราจำเป็นต้องควบคุมไม่ปกติตั้งรกรากในพื้นที่ของลำไส้นี้ ใน monogastrics ลำไส้ใหญ่ที่เป็นกลางมากขึ้นลำไส้ใหญ่และทวารหนักมีความเหมาะสมกับการล่าอาณานิคมที่มีศักยภาพ enteropathogen. โปรไบโอติกจำเป็นต้องมีค่า pH กรดสำหรับการล่าอาณานิคมที่เหมาะสม ภายใต้สถานการณ์การเกิดโรคหรืออาหารที่มีแคลเซียมสูงเช่นนมบุตรหรือชั้น / พันธุ์ปันส่วนค่า pH จะไม่สนับสนุนแบคทีเรียกรดรักและโปรไบโอติกจะไม่ effective.It อย่างเต็มที่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าแบคทีเรียทั้งหมดต้องสี่สิ่งที่จะเติบโต: •อุณหภูมิ - ร่างกาย อุณหภูมิของสุกรและไก่เหมาะ. •สารอาหาร - ลำไส้ของสัตว์เชิงพาณิชย์ใด ๆ ที่เต็มไปด้วยสารอาหาร. •น้ำ - สัตว์ทั้งหมดดื่ม. •ค่า pH - ด่างของลำไส้เล็กเหมาะสำหรับเชื้อ E. coli. ค่า pH ของ hindgut เหมาะสำหรับเชื้อ Salmonella อาหารที่มีแคลเซียมสูงส่งผลให้มีค่าความเป็นกรดสูงประมาณ 8.0 - เหมาะสำหรับ salmonella.Therefore โปรไบโอติกจะไม่ทำงานในลำไส้ใหญ่ลำไส้ใหญ่หรือทวารหนักของสุกรโดยไม่มีความช่วยเหลือบางส่วน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อปัญหาของโรคครั้งแรกที่ระบุพวกเขาเป็นรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ , ยาปฏิชีวนะใช้รักษาโรคออกไป จนกระทั่งในที่สุดแบคทีเรียกลายเป็นทนต่อยาปฏิชีวนะ โลกตอบโดยห้ามใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์สายเกินไปและตอนนี้เราต้องการทางเลือก
ในรูปที่ 1 เราสามารถดูระดับของความต้านทานยาปฏิชีวนะในสุกรและสัตว์ปีก แต่ระดับความต้านทานในระดับต่ำในอาหาร ยืนยันว่าอาหารไม่ได้เป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อ มีมากกว่าเซลล์แบคทีเรียในลำไส้ของสัตว์ที่แข็งแรงกว่า มีเซลล์ในสัตว์ ดังนั้นจึงหมายความว่าคุณต้องการโซลูชั่นทางจุลชีววิทยา เพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดี

อะไรคือทางเลือก ?
Probiotics เป็นแหล่งที่มีแบคทีเรียผลิตกรดแลคติก เช่น แบคทีเรียแลกติก ) และสามารถแข่งขันกับศักยภาพทางกายภาพหรือทางเคมีแยกโรคได้แก่ . อย่างไรก็ตาม โปรไบโอติกจะไม่ 100% มีประสิทธิภาพ ในสัตว์ปีก ท้อง หรือ proventriculus พืช / มี pH ต่ำ ซึ่งจะถูกใช้เป็นกลไกป้องกันตามธรรมชาติ ,และบริเวณนี้เป็นอาณานิคมโดยกรดใจกว้างโปรไบโอติก , แต่ที่ความหนาแน่นต่ำ อย่างไรก็ตาม ได้แก่ ที่เราต้องควบคุมไม่ปกติ colonise บริเวณลำไส้ ใน monogastrics ลำไส้ใหญ่ที่เป็นกลางมากขึ้น ลําไส้ใหญ่ และทวารหนักมีความเหมาะสมกับศักยภาพ enteropathogen อาณานิคม .
โปรไบโอติกต้องใช้กรดพีเอชที่เหมาะสมอาณานิคม .ภายใต้สถานการณ์โรค หรืออาหาร เช่น นม หรือ อาหารแคลเซียมสูงชั้น / พันธุ์อ จะไม่สนับสนุน และโปรไบโอติกแบคทีเรียกรดรักจะไม่เต็มประสิทธิภาพ มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าแบคทีเรียทั้งหมดต้องใช้สี่สิ่งที่จะเติบโต :
- อุณหภูมิ อุณหภูมิในร่างกายของสุกรและไก่เหมาะ .
- รัง - อุทร สัตว์เชิงพาณิชย์ใด ๆ ที่เต็มไปด้วยสารอาหาร
- น้ำ - สัตว์ทั้งหมดดื่ม .
- M - pH ของลําไส้เล็กเหมาะสำหรับเชื้อ E . coli .
pH ของ hindgut เหมาะสำหรับเชื้อ Salmonella . อาหารแคลเซียมสูง ส่งผลให้พีเอชประมาณ 8.0 –เหมาะสำหรับเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้น โปรไบโอติกจะไม่ทำงานในลำไส้ใหญ่ ลำไส้ใหญ่หรือทวารหนักของสุกรโดยปราศจากความช่วยเหลือ