Scientists have long understood tha

Scientists have long understood that mother's milk provides immune protection against some infectious agents through the transfer of antibodies, a process referred to as "passive immunity." A research team at the University of California, Riverside now shows that mother's milk also contributes to the development of the baby's own immune system by a process the team calls "maternal educational immunity."

Specific maternal immune cells in the milk cross the wall of the baby's intestine to enter an immune organ called the thymus. Once there, they "educate" developing cells to attack the same infectious organisms to which the mother has been exposed.

The research, which used mouse foster nursing models, has important implications for vaccinating newborn babies. The researchers show that you can vaccinate the mother and this results in vaccination of the baby through this process.

"It's another way moms provide immune information to their babies," said Ameae Walker, a professor of biomedical sciences in the UC Riverside School of Medicine, who led the research. "It's as though the mother is saying, 'Look what I have seen in the environment that you need to be immune to as well.' The replicas -- the copies of the maternal immune cells that the baby makes -- will provide immunity to the baby for life."

Research results appear in the Sept. 15 issue of the Journal of Immunology

"Some vaccines are not safe to give a newborn baby and others just don't work very well in newborns," Walker said. "If we can instead vaccinate mom or boost her vaccination shortly before she becomes pregnant, transferred immune cells during breast feeding will ensure that the baby is protected early on. While our work has used mouse models because we can study the process in detail this way, we do know that milk cells cross into human babies as well."

One of the infectious agents the research team studied was the organism that causes tuberculosis (TB) -- a disease that is a huge problem in many countries of the world and getting worse because of the development of antibiotic-resistant strains. Generally, babies directly vaccinated against TB do not have a very good response: while the vaccination prevents some of the worst complications, it does not prevent the respiratory part of the disease -- what was once called consumption.

"We hope that by vaccinating the mother, who will eventually nurse the baby, we will improve infant immunity against TB," Walker said. "It's like vaccinating the baby without actually vaccinating the baby. In some instances, our work has shown that immunity against TB is far more effective if acquired through the milk than if acquired through direct vaccination of the baby. Of course, clinical trials will need to be conducted to test whether this is the case in humans."

How many cells get passed from mother to child depends a lot on how exposed the mother was to an infection. If she gets repeatedly exposed to an infection, her immune response would be boosted, and more cells would be passed on to the baby.

According to Walker, the passing of both antibodies and cells through the milk of wet nurses likely contributed to the survival of royal babies in times past.

"Wet nurses were usually from a lower social echelon," she explained, "and were likely exposed to more infectious agents. They had to have very robust immune systems to survive, and transfer of antibodies and cells through their milk probably contributed greatly to the survival of royal babies. What the research is telling us is that a baby would likely gain from nursing by multiple women with different immune backgrounds. Not too long ago in most cultures, if a baby cried a woman would pick it up and nurse it; most women were pregnant or lactating. Now, socially, we would think that rather peculiar -- to nurse someone else's baby. But is the change in how society thinks about this issue the best for the baby's health?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิทยาศาสตร์ได้นานทำความเข้าใจว่า นมแม่มีภูมิคุ้มกันป้องกันบางเชื้อผ่านทางการโอนย้ายของแอนติบอดี กระบวนการที่เรียกว่า "passive ภูมิคุ้มกัน" ทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ริเวอร์ไซด์ตอนนี้แสดงว่า น้ำนมแม่ยังก่อให้เกิดการพัฒนาของระบบภูมิคุ้มกันของทารกกระบวนการทีมเรียก "มารดาการศึกษาภูมิคุ้มกัน"เฉพาะมารดาเซลล์ภูมิคุ้มกันในนมข้ามผนังของลำไส้ของทารกการป้อนอวัยวะภูมิคุ้มกันเรียกว่าต่อมไทมัส เมื่อมี พวกเขา "รู้" พัฒนาเซลล์จะโจมตีสิ่งมีชีวิตติดเชื้อเดียวกันที่ที่แม่ได้รับการสัมผัสวิจัย ซึ่งใช้เมาส์พยาบาลรุ่นอุปถัมภ์ มีผลกระทบสำคัญช่วยทารกแรกเกิด นักวิจัยแสดงว่า คุณสามารถปลูกฝีแม่ และส่งผลให้ฉีดวัคซีนของเด็กผ่านขั้นตอนนี้"มันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่คุณแม่ให้ข้อมูลภูมิคุ้มกันแก่ทารกของพวกเขา Ameae Walker อาจารย์วิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ใน UC Riverside โรงเรียนของแพทย์ ผู้นำการวิจัยกล่าว "แต่แม่ไม่ว่า 'มอง อะไรฉันได้ เห็นในสภาพแวดล้อมที่คุณต้องการเป็นภูมิคุ้มกันเช่น' -สำเนาของเซลล์ภูมิคุ้มกันของมารดาที่ทารก - แบบจำลองจะให้ภูมิคุ้มกันทารกสำหรับชีวิต"ผลการวิจัยปรากฏในปัญหา 15 ก.ย.ของสมุดรายวันภูมิคุ้มกัน"วัคซีนบางไม่ปลอดภัยในการทำให้ทารกเพียงไม่ทำงานดีในทารกแรกเกิด Walker กล่าว "หากเราสามารถปลูกฝีแม่ หรือกระตุ้นวัคซีนของเธอไม่นานก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์แทน โอนย้ายเซลล์ภูมิคุ้มกันในนมจะให้แน่ใจว่า ทารกได้รับการป้องกันในช่วงต้น ในขณะที่งานของเราได้ใช้เมาส์รุ่นเนื่องจากเราสามารถศึกษากระบวนการในรายละเอียดวิธีนี้ เรารู้ว่า เซลล์นมข้ามเป็นลูกมนุษย์เช่น"หนึ่งในทีมวิจัยศึกษาคือ สิ่งมีชีวิตที่ทำให้เกิดวัณโรค (TB) - โรคที่ เป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศของโลกและแย่ลงเนื่องจากการพัฒนาสายพันธุ์ที่ต้านทานยาปฏิชีวนะเชื้อ โดยทั่วไป ทารกวัคซีน TB โดยตรงไม่มีการตอบสนองที่ดี: ในขณะที่วัคซีนป้องกันของภาวะแทรกซ้อนที่เลวร้ายที่สุด มันไม่ป้องกันส่วนของการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจอะไรเมื่อเรียกใช้"เราหวังว่า ด้วยการช่วยแม่ ที่ในที่สุดจะพยาบาลทารก เราจะปรับปรุงภูมิคุ้มกันทารกกับ TB วอล์กเกอร์กล่าวว่า "มันเป็นเช่นช่วยเด็กไม่จริง ช่วยทารก ในบางกรณี เราทำงานได้แสดงว่า ภูมิคุ้มกันกับ TB มีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าซื้อผ่านนมกว่าหากได้รับผ่านการฉีดวัคซีนของทารกโดยตรง แน่นอน การทดลองทางคลินิกจะต้องดำเนินการเพื่อทดสอบว่าเป็นกรณีนี้ในมนุษย์"จำนวนเซลล์ได้ผ่านจากแม่ไปลูกมากขึ้นอยู่กับวิธีสัมผัสแม่ได้การติดเชื้อ ถ้าเธอได้รับการสัมผัสซ้ำ ๆ กับการติดเชื้อ การตอบสนองภูมิคุ้มกันของเธอที่จะโปรโมท และเซลล์เพิ่มเติมจะถูกส่งผ่านในทารกตามวอล์คเกอร์ ผ่านทั้งแอนติบอดีและเซลล์ผ่านทางน้ำนมของเปียกพยาบาลมีแนวโน้มสนับสนุนเพื่อความอยู่รอดของทารกรอยัลในอดีต"พยาบาลเปียกปกติจากระดับสังคมต่ำกว่า, " เธออธิบาย, "และได้มีโอกาสสัมผัสกับเชื้อมากขึ้น พวกเขาต้องมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งมากเพื่อความอยู่รอด และโอนของแอนติบอดีและเซลล์ถึงนมของพวกเขาอาจจะส่วนมากเพื่อความอยู่รอดของทารกรอยัล การวิจัยจะบอกเราได้ว่า ทารกจะมีโอกาสกำไรจากพยาบาลโดยผู้หญิงหลายกับภูมิคุ้มกัน ไม่นานที่ผ่านมาในวัฒนธรรมส่วนใหญ่ ถ้าทารกร้องไห้ ผู้หญิงจะรับมัน และพยาบาลมัน ผู้หญิงส่วนใหญ่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ตอนนี้ สังคม เราคิดว่า ค่อนข้างแปลกตา - พยาบาลทารกของผู้อื่น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงในวิธีสังคมคิดว่า เกี่ยวกับปัญหานี้ที่ดีสุดสำหรับสุขภาพของทารก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิทยาศาสตร์มีความเข้าใจมานานแล้วว่านมแม่ให้การป้องกันภูมิคุ้มกันการติดเชื้อบางอย่างการถ่ายโอนของแอนติบอดีผ่านกระบวนการที่เรียกว่า "การสร้างภูมิคุ้มกันเรื่อย ๆ ." ทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียริเวอร์ไซด์ในขณะนี้แสดงให้เห็นว่านมแม่ยังก่อให้เกิดการพัฒนาของระบบภูมิคุ้มกันของทารกเองโดยกระบวนการทีมเรียกว่า "มารดาภูมิคุ้มกันการศึกษา."

โดยเฉพาะเซลล์ภูมิคุ้มกันของมารดาในนมข้ามกำแพงของ ลำไส้ของทารกที่จะเข้าสู่อวัยวะที่เรียกว่าภูมิคุ้มกันไธมัส เมื่อมีพวกเขา "ความรู้" การพัฒนาเซลล์ที่จะโจมตีติดเชื้อมีชีวิตเดียวที่แม่ได้รับการสัมผัส.

การวิจัยซึ่งใช้รูปแบบการพยาบาลเมาส์อุปถัมภ์มีนัยสำคัญสำหรับการฉีดวัคซีนเด็กทารกแรกเกิด นักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถฉีดวัคซีนแม่และนี้จะส่งผลในการฉีดวัคซีนของทารกผ่านขั้นตอนนี้.

"มันเป็นวิธีที่คุณแม่ให้ข้อมูลภูมิคุ้มกันให้ทารกของพวกเขาอีก" Ameae วอล์คเกอร์, ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ในริเวอร์ไซด์โรงเรียน UC การแพทย์กล่าวว่า ที่นำการวิจัย "มันเหมือนกับว่าแม่จะพูดว่า 'ดูสิ่งที่ฉันได้เห็นในสภาพแวดล้อมที่คุณจะต้องมีภูมิคุ้มกันเช่นกัน.' แบบจำลอง - สำเนาของเซลล์ภูมิคุ้มกันของมารดาทารกที่ทำ - จะให้ภูมิคุ้มกันให้กับทารกเพื่อชีวิต ".

ผลการวิจัยปรากฏในฉบับ 15 กันยายนของวารสารวิทยาภูมิคุ้มกัน

" วัคซีนบางคนมีความไม่ปลอดภัยที่จะให้ ทารกแรกเกิดและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้เป็นอย่างดีในทารกแรกเกิด "วอล์คเกอร์กล่าวว่า "ถ้าเราสามารถแทนฉีดวัคซีนแม่หรือเพิ่มการฉีดวัคซีนของเธอไม่นานก่อนที่เธอจะกลายเป็นตั้งครรภ์โอนเซลล์ภูมิคุ้มกันในระหว่างให้นมบุตรจะให้แน่ใจว่าลูกได้รับการคุ้มครองในช่วงต้น. ในขณะที่การทำงานของเราได้ใช้รูปแบบเมาส์เพราะเราสามารถศึกษากระบวนการในรายละเอียดด้วยวิธีนี้ เราจะรู้ว่าเซลล์นมข้ามไปสู่ทารกของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ".

หนึ่งในตัวแทนติดเชื้อทีมวิจัยศึกษาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นสาเหตุของวัณโรค (TB) - โรคที่เป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศทั่วโลกและได้รับการ แย่ลงเพราะการพัฒนาสายพันธุ์ที่ทนต่อยาปฏิชีวนะ โดยทั่วไปเด็กทารกฉีดวัคซีนโดยตรงกับวัณโรคไม่ได้มีการตอบรับที่ดีมากในขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันไม่ให้บางส่วนของภาวะแทรกซ้อนที่เลวร้ายที่สุดก็ไม่ได้ป้องกันไม่ให้มีส่วนร่วมทางเดินหายใจของโรค - สิ่งที่เคยเรียกว่าการบริโภค.

"เราหวังว่าด้วยการฉีดวัคซีน แม่ซึ่งท้ายที่สุดก็จะพยาบาลทารกเราจะปรับปรุงภูมิต้านทานของทารกกับวัณโรค "วอล์คเกอร์กล่าวว่า "มันก็เหมือนกับการฉีดวัคซีนทารกจริงโดยไม่ต้องฉีดวัคซีนทารก. ในบางกรณีการทำงานของเราได้แสดงให้เห็นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อวัณโรคที่อยู่ห่างไกลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าได้มาผ่านทางน้ำนมกว่าถ้าได้มาจากการฉีดวัคซีนโดยตรงของทารก. ของหลักสูตรการทดลองทางคลินิกจะต้อง จะต้องดำเนินการเพื่อทดสอบว่าเป็นกรณีในมนุษย์นี้. "

วิธีการหลายเซลล์ที่ได้รับการส่งผ่านจากแม่ไปสู่ลูกขึ้นอยู่มากเกี่ยวกับวิธีการสัมผัสของแม่คือการการติดเชื้อ ถ้าเธอได้รับสัมผัสซ้ำ ๆ เพื่อการติดเชื้อ, การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของเธอจะถูกผลักดันและเซลล์มากขึ้นจะถูกส่งผ่านไปยังทารก.

ตามที่วอล์คเกอร์ผ่านของทั้งแอนติบอดีและเซลล์ผ่านทางน้ำนมของพยาบาลเปียกมีโอกาสมีส่วนร่วมเพื่อความอยู่รอดของ ทารกในพระราชครั้งที่ผ่านมา.

"พยาบาลเปียกก็มักจะมาจากระดับล่างของสังคม" เธออธิบาย "และมีแนวโน้มที่ได้สัมผัสกับการติดเชื้อมากขึ้น. พวกเขาจะต้องมีระบบที่แข็งแกร่งมากภูมิคุ้มกันเพื่อความอยู่รอดและการถ่ายโอนของแอนติบอดีและเซลล์ผ่านของพวกเขา นมอาจจะมีส่วนอย่างมากต่อการอยู่รอดของทารกที่รอยัล. สิ่งที่งานวิจัยจะบอกเราว่าทารกที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับจากการพยาบาลโดยผู้หญิงหลายที่มีภูมิหลังของระบบภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน. ไม่นานที่ผ่านมาในวัฒนธรรมส่วนใหญ่ถ้าทารกร้องไห้ผู้หญิงคนหนึ่งจะเลือก มันขึ้นมาและพยาบาลมันผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรตอนนี้สังคมเราจะคิดว่าค่อนข้างแปลก - พยาบาลทารกคนอื่น แต่คือการเปลี่ยนแปลงในวิธีการที่สังคมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีที่สุดสำหรับสุขภาพของทารก..?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิทยาศาสตร์ได้นาน เข้าใจ ว่า นมแม่ช่วยป้องกันภูมิคุ้มกันต่อต้านการติดเชื้อบางอย่างผ่านการถ่ายโอนของแอนติบอดี , กระบวนการที่เรียกว่า " ภูมิคุ้มกันเรื่อยๆ " ทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียแล้ว พบว่า นมแม่ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาของทารกระบบภูมิคุ้มกันเองโดยกระบวนการทีม เรียก " ภูมิคุ้มกัน การศึกษาของมารดา "เฉพาะเซลล์ภูมิคุ้มกันในนมแม่ข้ามกำแพงของทารกลำไส้เข้าสู่อวัยวะที่ภูมิคุ้มกันเรียกว่าต่อมไทมัส . เมื่อมี " ความรู้ " การพัฒนาเซลล์โจมตีเหมือนกัน ( สิ่งมีชีวิตที่แม่ได้รับการเปิดเผยการวิจัยที่ใช้เมาส์รุ่น Foster พยาบาล มีผลกระทบที่สำคัญสำหรับวัคซีนแรกเกิดทารก นักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถฉีดวัคซีนให้แม่ และผลลัพธ์ในการฉีดวัคซีนของเด็กที่ผ่านกระบวนการนี้" มันเป็นอีกวิธีที่แม่ให้ข้อมูลภูมิคุ้มกันให้ทารกของพวกเขา , " กล่าวว่า ameae วอล์คเกอร์ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ใน UC Riverside โรงเรียนแพทย์ที่นำการวิจัย " . มันเหมือนว่าแม่บอกว่า " ดูสิ่งที่ฉันได้เห็นในสภาพแวดล้อมที่คุณจะต้องมีภูมิคุ้มกันดี ของแบบจําลอง - สำเนาของมารดาภูมิคุ้มกันเด็กทำให้ -- จะให้ภูมิคุ้มกันของเด็กเพื่อชีวิต " .ผลการวิจัยปรากฏใน 15 กันยายนปัญหาของวารสารวิทยาภูมิคุ้มกัน" วัคซีนจะไม่ปลอดภัยที่จะให้ทารกแรกเกิด และคนอื่น ๆเพียงแค่ไม่ได้ทำงานได้ดีมากในทารกแรกเกิด " วอล์คเกอร์กล่าวว่า . " ถ้าเราสามารถแทนการเพิ่มวัคซีนหรือแม่ของเธอไม่นานก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์ , การโอนย้ายระหว่างการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะช่วยให้เซลล์ภูมิคุ้มกันที่ลูกได้รับการป้องกันบนก่อน ในขณะที่งานของเราได้ใช้แบบจำลองเมาส์เพราะเราสามารถศึกษากระบวนการในรายละเอียดแบบนี้ เรารู้ว่านมเซลล์เข้าไปในทารกมนุษย์เช่นกัน "หนึ่งในตัวแทนติดเชื้อ ทีมวิจัยที่ใช้ในการศึกษา คือ สิ่งมีชีวิตที่เป็นสาเหตุของวัณโรค ( TB ) -- โรคที่เป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศของโลก และแย่ลง เพราะการพัฒนาของสายพันธุ์ที่ต้านทานยาปฏิชีวนะ โดยทั่วไปทารกโดยตรงได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรค ไม่ได้มีการตอบสนองที่ดีมาก ขณะที่วัคซีนป้องกันบางส่วนของภาวะแทรกซ้อนที่เลวร้ายที่สุด มันไม่ได้ป้องกัน ส่วนการหายใจของโรค -- อะไรคือเมื่อเรียกใช้ ." เราหวังว่าโดยฉีดวัคซีนแม่ผู้ซึ่งในที่สุดจะพยาบาลเด็ก เราจะปรับปรุงภูมิคุ้มกันทารกต่อต้านวัณโรค " วอล์คเกอร์กล่าวว่า . " เหมือนฉีดวัคซีนเด็กโดยไม่ต้องฉีดวัคซีนเด็ก ในบางกรณี งานของเราได้แสดงว่าภูมิคุ้มกันต่อวัณโรคอยู่ไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าได้รับผ่านนมกว่าถ้าได้รับผ่านการฉีดวัคซีนโดยตรงของเด็ก แน่นอน , การทดลองทางคลินิกจะต้องดำเนินการเพื่อทดสอบว่าเป็นกรณีนี้ในมนุษย์”จำนวนเซลล์ที่ได้รับการส่งต่อจากแม่สู่ลูก ขึ้นอยู่มากในวิธีที่ถูกแม่ คือ การติดเชื้อ ถ้าเธอได้รับซ้ำ ๆสัมผัสกับการติดเชื้อระบบภูมิคุ้มกันของเธอก็จะเพิ่มขึ้น และเซลล์มากขึ้นจะถูกส่งผ่านไปยังทารกจากวอล์คเกอร์ ผ่านทั้งแอนติบอดีและเซลล์ผ่านนมพยาบาลเปียกอาจส่งผลต่อการอยู่รอดของทารกในฯ ครั้งที่ผ่านมา" พยาบาลเปียกปกติจากสังคมระดับล่าง " เธออธิบาย " และมีแนวโน้มเปิดรับตัวแทนติดเชื้อมากขึ้น พวกเขาต้องมีเสถียรภาพมาก ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อความอยู่รอดและการถ่ายโอนของแอนติบอดีและเซลล์ผ่านนมของพวกเขาอาจมีส่วนร่วมอย่างมากเพื่อความอยู่รอดของราชวงศ์ทารก อะไรคือการวิจัยบอกเราว่า ทารกอาจได้รับจากการพยาบาลโดยผู้หญิงหลายที่มีภูมิหลังภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกัน เมื่อไม่นานมานี้ในวัฒนธรรมส่วนใหญ่ ถ้าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งร้องจะหยิบมันขึ้นมา และพยาบาลนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร . ตอนนี้ สังคม เราก็คิดว่าค่อนข้างแปลก . . พยาบาลเด็กคนอื่น แต่การเปลี่ยนแปลงในวิธีการที่สังคมคิดเกี่ยวกับปัญหานี้ที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพของเด็ก