ANNEXDefinition of externalitiesThe

ANNEX
Definition of externalities
The term "externalities" usually refers to the phenomenon whereby an individual’s well-being, or
the conditions of production of a firm, are affected by the action of an economic agent who does not bear the
consequences of that action; more importantly, the action does not give rise to a monetary transfer. Transport
noise, for instance, may disturb local residents and reduce productivity. Consequently, the cost of transport
to the community as a whole, or "social cost", covers not only the private cost borne by the operator but also
external costs, the sum of which can be written as follows:
Social costs = Private costs + External costs.
However, this does not tell us much about the type of costs involved. Private costs can be divided
into average cost, marginal cost, and incremental cost. For the purposes of pricing, other methods of
calculating costs, such as the Shapley value, can be used. Costs can be calculated using a cost function which
relates overall expenditure to the volume of each class of traffic. But it is also necessary to determine whether
expenditure is adequate to cover costs; when it is not (usually because of market failure) shadow prices may
have to be set for some goods. This can arise in particular with capital costs.
The same complications arise when measuring externalities, since external costs can be defined
precisely only with reference to a specific problem (the internalisation of costs through taxes, for instance; it
can also be useful to measure external effects prior to making an investment or to taking action in many other
areas). It is also important to specify the model that is being used (in the case of internalisation, prices can be
calculated using a Ramsey-Boiteux budget equilibrium constraint model, or the Shapley value). Every
problem and every policy response will place a different value on social cost.
Thus, external costs are not absolute values, but will vary according to the purpose of the
calculations. This report defines social costs for the purposes of macroeconomic comparison, but they would
have to be defined differently, and the figures would not be the same, if the aim were to calculate optimal
taxes.
Lastly, externalities need to be distinguished from rent. Rent is the profit that the owner of an asset
that is in fixed supply derives from a rise in its price. A property owner, for instance, makes a capital gain on
a piece of land when its market value rises as a result of the construction of new infrastructure in the vicinity.
Similarly, a hairdresser’s income can rise not because his productivity has risen but because that of other
workers has increased, thereby pushing up average wages. These examples are (sometimes wrongly) called
pecuniary externalities.
It is also somewhat inaccurate to speak of externalities in respect of a good that can be purchased at
a price that is not the "normal" price (i.e. the price that would be charged if the market was clearing
normally). This is usually the case for goods whose prices are controlled to some degree (e.g. goods
supplied by a subsidised government monopoly). Before concluding that the difference between the actual
and the "normal" price should be corrected, the reasons for the difference should first be ascertained.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แอนเน็กซ์คำจำกัดความของ externalitiesคำว่า "externalities" มักจะหมายถึงปรากฏการณ์โดยของแต่ละ หรือเงื่อนไขการผลิตของบริษัท ที่ได้รับผลกระทบ โดยการกระทำของตัวแทนทางเศรษฐกิจที่แบกผลของการกระทำนั้น สำคัญ การดำเนินการที่ไม่ก่อให้เกิดการโอนเงิน ขนส่งเสียง เช่น อาจรบกวนประชาชนในท้องถิ่น และลดประสิทธิภาพการ ดังนั้น ต้นทุนการขนส่งชุมชนทั้งหมด หรือ "ทุนสังคม" ครอบคลุมไม่เพียงแต่ทุนส่วนตัวแบกรับ โดยตัวดำเนินการแต่ยังภายนอกต้นทุน ผลรวมซึ่งสามารถเขียนได้ดังนี้:ต้นทุนทางสังคม =ต้นทุนเอกชน + ต้นทุนภายนอกอย่างไรก็ตาม นี้ไม่บอกมากเกี่ยวกับชนิดของต้นทุนที่เกี่ยวข้อง สามารถแบ่งต้นทุนส่วนตัวเป็นการเฉลี่ยต้นทุน ต้นทุนกำไร และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น สำหรับวัตถุประสงค์ของการกำหนดราคา การวิธีการอื่น ๆการคำนวณต้นทุน เช่นค่า Shapley สามารถใช้ สามารถคำนวณต้นทุนโดยใช้ต้นทุนการทำงานซึ่งค่าใช้จ่ายโดยรวมกับระดับเสียงของแต่ละระดับของการจราจร แต่ยังจำเป็นต้องกำหนดว่ารายจ่ายจะพอคุ้มทุน เมื่อมันไม่เงาราคาอาจ (ปกติเนื่องจากความล้มเหลวของตลาด)ต้องกำหนดให้สินค้าบางอย่าง นี้สามารถเกิดขึ้นโดยเฉพาะกับต้นทุนเงินทุนภาวะแทรกซ้อนกันเกิดขึ้นเมื่อวัด externalities เนื่องจากสามารถกำหนดต้นทุนภายนอกแม่นยำโปร่ง (ที่ internalisation ต้นทุนทางภาษี ตัวอย่าง มันมีปัญหาเฉพาะเท่านั้นยังเป็นประโยชน์สำหรับการประเมินผลภายนอก ก่อนทำการลงทุน หรือกระทำการในอื่น ๆพื้นที่) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อระบุรูปแบบที่จะใช้ในกรณีของ internalisation ราคากันคำนวณโดยใช้โมเดลข้อจำกัดงบประมาณสมดุล Boiteux หอประชุมรัฐสภา หรือค่า Shapley) ทุกปัญหาและตอบสนองนโยบายทุกจะใส่ค่าต่าง ๆ ในต้นทุนทางสังคมดังนั้น ต้นทุนภายนอกไม่ใช่ค่าสัมบูรณ์ แต่จะแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ของการคำนวณ รายงานนี้กำหนดต้นทุนทางสังคมเพื่อการเปรียบเทียบของเศรษฐกิจมหภาค แต่พวกเขาจะมีการกำหนดแตกต่างกัน และตัวเลขจะไม่เหมือนกัน ถ้าจุดมุ่งหมายในการ คำนวณสูงสุดภาษีสุดท้ายนี้ externalities จำเป็นต้องแตกต่างจากการเช่า เช่าเป็นกำไรที่เจ้าของสินทรัพย์กล่าวคือในการจัดหาวัสดุถาวรมาจากการเพิ่มขึ้นของราคา เจ้าทรัพย์ เช่น ทำกำไรทุนทางจากผืนดินเมื่อค่าการตลาดเพิ่มขึ้นจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ในบริเวณใกล้เคียง ในทำนองเดียวกัน รายได้ของช่างตัดผมสามารถขึ้นไม่ได้ เพราะเขาผลิตได้เพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากที่อื่น ๆแรงงานได้เพิ่มขึ้น จึงผลักดันค่าจ้างเฉลี่ย ตัวอย่างเหล่านี้จะเรียกว่า (ผิดบางครั้ง)externalities เงินก็ยังไม่ถูกต้องค่อนข้างพูดของ externalities ผิดดีที่สามารถซื้อได้ที่ราคาที่ไม่ใช่ราคา "ปกติ" (เช่นราคาที่จะคิดค่าธรรมเนียมหาก มีการล้างตลาดปกติ) เป็นปกติสำหรับสินค้าควบคุมบางระดับ (เช่นสินค้าที่มีราคาจัดทำ โดยผูกขาดรัฐบาล subsidised) ก่อนจบที่ความแตกต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงและราคาที่ "ปกติ" ควรได้รับการแก้ไข สาเหตุของความแตกต่างก่อนควรจะ ascertained

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาคผนวกความหมายของผลกระทบภายนอกคำว่า"ภายนอก" มักจะหมายถึงปรากฏการณ์โดยบุคคลเป็นอยู่ที่ดีหรือเงื่อนไขของการผลิตของบริษัท ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวแทนทางเศรษฐกิจที่ไม่ได้แบกที่ผลของการกระทำที่มิ ที่สำคัญกว่าการกระทำที่ไม่ก่อให้เกิดการถ่ายโอนทางการเงิน ขนส่งเสียงเช่นอาจรบกวนประชาชนในท้องถิ่นและลดการผลิต ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการขนส่งให้กับชุมชนโดยรวมหรือ "ค่าใช้จ่ายทางสังคม" ครอบคลุมไม่เพียง แต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวตกเป็นภาระของผู้ประกอบการ แต่ยังมีค่าใช้จ่ายภายนอกผลรวมของการที่สามารถเขียนได้ดังนี้ค่าใช้จ่ายในสังคม= ค่าใช้จ่ายภาคเอกชน + ค่าใช้จ่ายภายนอก. แต่นี้ไม่ได้บอกเรามากเกี่ยวกับประเภทของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวสามารถแบ่งออกเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น สำหรับวัตถุประสงค์ของการกำหนดราคาวิธีการอื่น ๆ ของค่าใช้จ่ายในการคำนวณเช่นค่าแชปลีย์สามารถนำมาใช้ ค่าใช้จ่ายที่สามารถคำนวณโดยใช้ฟังก์ชั่นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายโดยรวมปริมาณการจราจรในชั้นเรียนของแต่ละคน แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายเพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่าย; เมื่อมันไม่ได้ (โดยปกติเนื่องจากความล้มเหลวของตลาด) ราคาเงาอาจจะต้องมีการตั้งค่าสำหรับสินค้าบางอย่าง นี้สามารถเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีค่าใช้จ่ายทุน. ภาวะแทรกซ้อนเดียวกันเกิดขึ้นเมื่อวัดภายนอกเนื่องจากค่าใช้จ่ายภายนอกสามารถกำหนดได้อย่างแม่นยำเท่านั้นที่มีการอ้างอิงถึงปัญหาที่เฉพาะเจาะจง (internalisation ของค่าใช้จ่ายผ่านทางภาษีเช่นนั้นมันยังสามารถเป็นประโยชน์ในการวัดภายนอกผลกระทบก่อนที่จะทำให้การลงทุนหรือการดำเนินการอื่น ๆ อีกมากมายในพื้นที่) นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะระบุรูปแบบที่จะถูกใช้ (ในกรณีของ internalisation ราคาสามารถคำนวณโดยใช้แรมซีย์-Boiteux งบประมาณสมดุลรูปแบบ จำกัด หรือค่าแชปลีย์) ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นและการตอบสนองนโยบายของทุกคนจะวางค่าที่แตกต่างกันในค่าใช้จ่ายทางสังคม. ดังนั้นค่าใช้จ่ายภายนอกไม่ได้ค่าแน่นอน แต่จะแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ของการคำนวณ รายงานนี้จะกำหนดค่าใช้จ่ายทางสังคมสำหรับวัตถุประสงค์ของการเปรียบเทียบทางเศรษฐกิจมหภาค แต่พวกเขาจะต้องมีการกำหนดไว้แตกต่างกันและตัวเลขจะไม่เหมือนกันถ้ามีจุดมุ่งหมายที่ดีที่สุดในการคำนวณภาษี. สุดท้ายภายนอกจะต้องมีความโดดเด่นจากการให้เช่า ให้เช่าเป็นผลกำไรที่เจ้าของสินทรัพย์ที่ที่อยู่ในอุปทานคงมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาของมัน เจ้าของสถานที่ให้บริการเช่นที่ทำให้ได้รับทุนในชิ้นส่วนของที่ดินเมื่อมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ในบริเวณใกล้เคียง. ในทำนองเดียวกันรายได้ช่างทำผมที่สามารถขึ้นไม่ได้เพราะผลผลิตของเขาได้เพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากว่า อื่น ๆ ของคนงานได้เพิ่มขึ้นซึ่งจะช่วยผลักดันขึ้นค่าจ้างเฉลี่ย ตัวอย่างเหล่านี้จะถูก (บางครั้งผิด) ที่เรียกว่าสภาพแวดล้อมทางการเงิน. นอกจากนี้ยังค่อนข้างไม่ถูกต้องที่จะพูดถึงผลกระทบภายนอกในแง่ของการที่ดีที่สามารถหาซื้อได้ในราคาที่ไม่ได้เป็น "ปกติ" ราคา (คือราคาที่จะถูกเรียกเก็บในกรณีที่ ตลาดได้รับการล้างตามปกติ) ซึ่งมักจะเป็นกรณีที่สินค้ามีราคาถูกควบคุมในระดับหนึ่ง (เช่นสินค้าที่จัดทำโดยการผูกขาดของรัฐบาลอุดหนุน) ก่อนที่จะสรุปว่าความแตกต่างระหว่างที่เกิดขึ้นจริงและ "ปกติ" ราคาที่ควรจะได้รับการแก้ไขสาเหตุของการที่แตกต่างกันควรมีการตรวจสอบครั้งแรก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาคผนวก

ความหมายของผลกระทบภายนอก คำว่า " ผลกระทบภายนอก " มักจะหมายถึงปรากฏการณ์ด้านความเป็นอยู่ของแต่ละบุคคลหรือ
เงื่อนไขของการผลิตของ บริษัท ได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวแทนทางเศรษฐกิจที่ไม่แบก
ผลของการกระทำที่ ; ที่สำคัญคือ การไม่ก่อให้เกิดการโอน การเงิน การขนส่ง
เสียงตัวอย่างอาจจะรบกวนชาวบ้าน และลดการผลิต ดังนั้น ต้นทุนของการขนส่ง
เพื่อชุมชนโดยรวม หรือ ต้นทุนทางสังคม ครอบคลุมไม่เพียง แต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่เกิดจากผู้ประกอบการ แต่ยัง
ต้นทุนภายนอก , ผลรวมของซึ่งสามารถเขียนได้ดังนี้
ต้นทุนทางสังคมค่าใช้จ่ายส่วนตัว = ต้นทุนภายนอก .
แต่นี้ไม่ได้บอกมาก เกี่ยวกับประเภทของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลสามารถแบ่ง
ในต้นทุน ต้นทุนเฉลี่ย และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น . สำหรับวัตถุประสงค์ของการกำหนดราคา วิธีการอื่น ๆของ
คำนวณค่าใช้จ่าย เช่น ค่าแชปลีย์ สามารถใช้ ค่าใช้จ่ายสามารถคำนวณได้โดยใช้ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายโดยรวม
ให้ระดับเสียงของแต่ละชั้นของการจราจร แต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายที่เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่าย
;เมื่อมันไม่ได้ ( มักจะเป็นเพราะความล้มเหลวของตลาด ) ราคาเงาอาจ
ต้องตั้งค่าสำหรับบางสินค้า นี้สามารถเกิดขึ้นโดยเฉพาะกับต้นทุนเงินทุน .
ภาวะเดียวกันเกิดขึ้นเมื่อสภาพภายนอกวัด เนื่องจากต้นทุนภายนอกสามารถกำหนด
แน่นอนเท่านั้นที่มีการอ้างอิงถึงปัญหาที่เฉพาะเจาะจง ( internalisation ต้นทุนทางภาษี เช่น มัน
ยังสามารถเป็นประโยชน์ในการวัดผลภายนอก ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนหรือดําเนินการในพื้นที่อื่น
มากมาย ) ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะระบุรูปแบบซึ่งถูกใช้ ( ในกรณีของ internalisation ราคาที่สามารถ คำนวณ ใช้ แรมซี่ย์ boiteux
งบประมาณสมดุลข้อจำกัดรูปแบบหรือค่าแชปลีย์ ) ทุก
ปัญหาและนโยบายทุกการตอบสนองจะให้คุณค่าที่แตกต่างกันในต้นทุนทางสังคม .
ดังนั้นต้นทุนภายนอกไม่ใช่ค่าแน่นอน แต่จะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของ
การคำนวณ รายงานฉบับนี้กำหนดต้นทุนทางสังคมเพื่อวัตถุประสงค์ของการเปรียบเทียบเศรษฐกิจมหภาค แต่พวกเขาจะ
ต้องมีเหตุผลต่างกันไป และตัวเลขจะไม่เหมือนกัน ถ้าเป้าหมายคือการคํานวณภาษีที่เหมาะสม

ท้ายนี้ สภาพภายนอกต้องแตกต่างจากค่าเช่า เช่า เป็น กำไร ที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์
ที่ถาวรจัดหามาจากการเพิ่มขึ้นของราคาของ คุณสมบัติของเจ้าของ เช่น ทำให้ได้รับทุนใน
ที่ดินเมื่อมูลค่าของตลาดที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ในบริเวณใกล้เคียง .
ในทํานองเดียวกันรายได้ของช่างตัดผมสามารถลุกขึ้นไม่ได้ เพราะผลงานของเขาได้เพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากคนงานอื่น
มีเพิ่มขึ้น จึงกดดันขึ้นค่าจ้างเฉลี่ย ตัวอย่างเหล่านี้เป็น ( บางครั้งเรียกผิด )
ขนถ่ายสินค้าผลกระทบภายนอก .
มันยังไม่ถูกต้องค่อนข้างที่จะพูดของผลกระทบภายนอกในส่วนของที่ดีที่สามารถซื้อได้ที่
ราคาที่ไม่ได้เป็น " ปกติ " ราคา ( เช่นราคานั้นจะคิดค่าบริการหากตลาดล้าง
ปกติ ) นี้มักจะเป็นกรณีสำหรับสินค้าที่มีราคาจะควบคุมได้ในระดับหนึ่ง ( เช่นสินค้า
จัดโดยเงินอุดหนุนรัฐบาลผูกขาด ) ก่อนที่จะสรุปว่าความแตกต่างระหว่างจริง
และ " ปกติ " ราคาที่ควรได้รับการแก้ไข เหตุผลความแตกต่างแรกควรจะตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน