On the banks of the Wang river in t

On the banks of the Wang river in the town of Lampang is the Wat Pongsanuk, a beautiful temple built in a mix of Lanna and Burmese Shan styles. The temple that is also called Wat Pongsanuk Tai was built in 1886 by wealthy Burmese immigrants employed in the teak logging industry.

Between the end of the 19th century and the early 20th century Lampang was a center of teak logging in North Thailand. During those years many Burmese came to the Lampang area, who built a number of Burmese style monasteries as an act of gaining merit.

The Southern part of the temple complex is built on top a small mound. A Naga staircase leads up to the large stuccoed arched entrance gate. Inside the walled area are a chedi and two viharns.

The Wat Pongsanuk’s most interesting building is an open, teak wood Burmese style viharn. The unique building named Viharn Phra Chao Phan Ong was carefully restored during a 4 year restoration project.

Viharn Phra Chao Phan Ong
The first viharn is a 19th century teak wood building, a unique structure that is a mix of Lanna and Burmese styles. The viharn named Viharn Phra Chao Phan Ong is open on all sides and has a cruciform floor plan; four large porches of equal length are protruding out of the structure.

Its tiled roof is a three tiered Burmese design, the ends decorated with golden stylized Naga serpents. It is topped with a hti, a multi tiered ornamental umbrella often found on top of Burmese temples. The roof is supported by very intricately decorated pillars.

The viharn’s interior is decorated with Lanna style floral motifs carved in teak wood. Also found in the interior are depictions of Hamsa, the mount of the Hindu God Brahma and depictions of several mythological creatures such as Kinnaree, a creature half human, half bird.

The viharn’s upper walls are lined with hundreds of votive Buddha tablets, of which there were originally over a thousand. Many have disappeared during World War II when Lampang was occupied by the Japanese army.

At the center of the viharn, set on a high pedestal are four seated Buddha images sitting back to back, facing all four directions. The images that were cast in the 16th century sit with their back to a metal Bodhi tree, the tree that sheltered the Buddha while meditating.

UNESCO award for conservation
When at the start of the 21th century the unique structure was in a bad state of repair, it was decided to restore the viharn instead of demolishing it and rebuilding new. A project started in 2004 to preserve this important and unique Thai historic structure, following its original design and using the original materials as much as possible. In 2008, the Wat Pongsanuk restoration project received the Award of Merit, a UNESCO award for cultural heritage conservation.

Detail of the viharn of the Wat Pongsanuk temple in Lampang
Detail of the viharn
Lanna style chedi of the Wat Pongsanuk
Lanna style Chedi
The chedi and other structures
Behind the Viharn Phra Chao Phan Ong is the second viharn on the mound. This viharn houses a large Reclining Buddha image, which symbolizes the passing of the Buddha into final Nirvana.

The Wat Pongsanuk’s chedi is completely covered with copper, glistering in the sun. The spiral Lanna style chedi is set on a square base, on top is an ornamental multi tiered umbrella.

A small museum exhibits hundreds of Buddha images, including seated, walking and reclining Buddhas in several mudras (hand gestures). Some of them are hundreds of years old. Also on display are ancient hand written scrolls that were found during the restoration works.

How to get to the Wat Pongsanuk
The temple is located in the Muang district in central Lampang town. It is found on Pongsanuk road, just North of the Wang river. The easiest way to get there is by songthaew or by horse drawn carriage.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของวัง แม่น้ำในเมืองลำปางเป็นวัด Pongsanuk วัดสวยงามสร้างขึ้นในผสมผสานสไตล์ล้านนาและพม่าฉาน วัดที่เรียกว่าไท Pongsanuk วัดถูกสร้างขึ้นในปี 1886 โดยผู้อพยพชาวพม่าร่ำรวยการจ้างงานในอุตสาหกรรมการบันทึกสักระหว่างจุดสิ้นสุด ของ ศตวรรษที่ 19 และต้น ศตวรรษที่ 20 ลำปางเป็นศูนย์กลางของไม้สักเข้าสู่ภาคเหนือ ในช่วงปีที่ผ่านมาพม่าหลายพื้นที่ลำปาง ใครสร้างจำนวนของพระราชวงศ์พม่าสไตล์ของบุญทางตอนใต้ของวัดถูกสร้างบนเนินดินเล็ก ๆ บันไดนาคนำไปสู่ประตูทางเข้าโค้งขนาดใหญ่ stuccoed ภายในกำแพงมีเจดีย์เป็นและสอง viharnsอาคารที่น่าสนใจที่สุดของ Pongsanuk วัดเป็นวิหารแบบพม่าไม้สัก เปิดตัว อาคารเฉพาะที่ชื่อว่าวิหารพระเจ้าพันองค์บูรณะในระหว่างโครงการฟื้นฟู 4 ปีวิหารพระเจ้าพันองค์วิหารแรกเป็นอาคารศตวรรษที่ 19 สักไม้ โครงสร้างเฉพาะที่ผสมผสานสไตล์ล้านนาและพม่า เปิดทุกด้าน และมีแผนชั้นโครง วิหารที่ชื่อว่าวิหารพระเจ้าพันองค์ สี่ขนาดใหญ่สัมผัสความยาวเท่ากันจะยื่นออกมาจากโครงสร้างกระเบื้องหลังคาเป็นสามฉัตรพม่าออกแบบ ปลายตกแต่ง ด้วยทองงูนาคสุกใส มันคือราด hti มีหลายฉัตรประดับร่มมักจะพบที่ด้านบนของวัดพม่า ตกแต่งประณีตเสารองรับหลังคาของวิหารตกแต่ง ด้วยล้านนาสไตล์ดอกไม้ลวดลายแกะสลักในไม้สัก พบภายในมีการแสดงภาพ Hamsa ภูเขาของพระเจ้าพรหมฮินดูและภาพของสัตว์ในตำนานต่าง ๆ เช่นกินรี สิ่งมีชีวิตครึ่งมนุษย์ ครึ่งนกผนังด้านบนของวิหารเรียงรายกันหลายร้อยเม็ดพระแก้บน ที่มีแต่เดิมกว่าพัน หลายคนหายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อลำปางกองทัพญี่ปุ่นศูนย์กลางของวิหาร ชุดบนฐานสูงสี่นั่งพระพุทธรูปนั่งติดต่อ หันหน้าสี่ทิศ รูปภาพที่ถูกโยนในศตวรรษที่ 16 ที่นั่งกับการกลับไปที่ต้นไม้โพธิ์โลหะ ต้นไม้ที่กำบังพระพุทธรูปสมาธิรางวัลยูเนสโกอนุรักษ์เมื่อเริ่มต้นของศตวรรษที่ 21 ความแตกต่างกันในสถานะของการซ่อมแซม ตัดสินใจคืนวิหารแทนที่จะรื้อ และสร้างใหม่ โครงการเริ่มต้นในปี 2004 การรักษาความสำคัญ และเอกลักษณ์ไทยประวัติศาสตร์โครงสร้างนี้ ต่อไปนี้ออกแบบเดิม และใช้วัสดุเดิมมากที่สุด ใน 2008 โครงการบูรณะวัด Pongsanuk ได้รับรางวัลบุญ รางวัลยูเนสโกการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมรายละเอียดของวิหารของวัด Pongsanuk วัดในลำปางรายละเอียดของตัววิหารPongsanuk วัดเจดีย์แบบล้านนาเจดีย์แบบล้านนาเจดีย์และโครงสร้างอื่น ๆหลังวิหารพระเจ้าพันองค์เป็นวิหารสองบนเนินดิน วิหารนี้บ้านใหญ่พระพุทธไสยาสน์รูป ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ผ่านมาของพระพุทธเจ้าเข้านิพพานขั้นสุดท้ายเจดีย์ของวัด Pongsanuk สมบูรณ์หุ้ม ด้วยทองแดง glistering ในดวงอาทิตย์ เจดีย์แบบล้านนาของเกลียวตั้งบนฐานสี่เหลี่ยม ด้านบนเป็นร่มฉัตรประดับหลายพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการร้อยพระพุทธรูป รวมทั้ง นั่งเดิน และนอนพระพุทธรูปใน mudras หลาย (รูปมือ) บางคนมีอายุหลายร้อยปี ยัง มีมือโบราณเขียนเลื่อนที่พบในระหว่างการบูรณะทางไป Pongsanuk วัดวัดนี้ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองในใจกลางเมืองลำปาง ตั้งอยู่บนถนน Pongsanuk ทางตอนเหนือของแม่น้ำวัง วิธีที่ง่ายที่สุดที่เป็นรถสองแถว หรือรถม้าลาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บนฝั่งของแม่น้ำวังในเมืองลำปางเป็นวัดปงสนุกเป็นวัดที่สวยงามสร้างขึ้นในรูปแบบการผสมผสานของล้านนาและพม่าฉาน พระวิหารซึ่งจะเรียกว่าวัดปงสนุกใต้ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1886 โดยผู้อพยพชาวพม่าที่ร่ำรวยการจ้างงานในอุตสาหกรรมการเข้าสู่ระบบไม้สัก

ระหว่างปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ลำปางเป็นศูนย์กลางของการเข้าสู่ระบบไม้สักในภาคเหนือของประเทศไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลายคนพม่าไปยังพื้นที่ลำปางที่สร้างจำนวนของพระราชวงศ์สไตล์พม่าว่าเป็นการกระทำของการดึงดูดทำบุญ

ทางตอนใต้ของวัดที่ซับซ้อนถูกสร้างขึ้นบนเนินดินขนาดเล็ก บันไดนาคนำขึ้นไปฉาบขนาดใหญ่ประตูทางเข้าโค้ง ภายในพื้นที่มีกำแพงล้อมรอบเป็นเจดีย์และสอง viharns

อาคารที่น่าสนใจที่สุดวัดปงสนุกเป็นเปิดวิหารไม้สักสไตล์พม่า อาคารที่ไม่ซ้ำกันตั้งชื่อวิหารพระเจ้าพานอ่องได้รับการบูรณะอย่างระมัดระวังในช่วงโครงการฟื้นฟู 4 ปี

วิหารพระเจ้าพานอ่อง
วิหารแรกคือศตวรรษที่ 19 อาคารไม้สักโครงสร้างที่ไม่ซ้ำกันที่มีส่วนผสมของล้านนาและรูปแบบพม่า วิหารที่มีชื่อวิหารพระเจ้าพานอ่องเปิดให้บริการในทุกด้านและมีแผนชั้นกางเขน; สี่ซุ้มขนาดใหญ่ความยาวเท่ากันจะยื่นออกมาของโครงสร้าง

หลังคากระเบื้องของมันคือการออกแบบที่พม่าสามฉัตรปลายตกแต่งด้วยสีทองสุกใสงูพญานาค มันถูกราดด้วย HTI เป็นหลายฉัตรร่มไม้ประดับมักจะพบว่าด้านบนของวัดพม่า หลังคาได้รับการสนับสนุนโดยเสามากตกแต่งอย่างประณีต

ภายในวิหารมีการตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้สไตล์ล้านนาแกะสลักไม้สัก นอกจากนี้ยังพบในการตกแต่งภายในที่มีการสอดแทรก Hamsa, ภูเขาของเทพเจ้าในศาสนาฮินดูพระพรหมและที่เด่นชัดของสิ่งมีชีวิตในตำนานหลายอย่างเช่นกินรี, สัตว์ครึ่งมนุษย์ครึ่งนก

ผนังบนวิหารของเรียงรายไปด้วยหลายร้อยเม็ดพระพุทธรูปพระพิมพ์ซึ่ง แต่เดิมมีมากกว่าหนึ่งพัน หลายคนได้หายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อลำปางถูกครอบครองโดยกองทัพญี่ปุ่น

ที่เป็นศูนย์กลางของวิหารที่ตั้งอยู่บนแท่นสูงสี่นั่งพระพุทธรูปนั่งกลับไปกลับหันหน้าไปทางทิศทั้งสี่ ภาพที่ถูกปลดในศตวรรษที่ 16 นั่งกับพวกเขากลับไปยังต้นโพธิ์โลหะต้นไม้ที่กำบังพระพุทธรูปในขณะที่การนั่งสมาธิ

ที่ได้รับรางวัลยูเนสโกเพื่อการอนุรักษ์
เมื่อช่วงเริ่มต้นของศตวรรษที่ 21 โครงสร้างที่ไม่ซ้ำกันอยู่ในสภาพที่ไม่ดีของการซ่อมแซมก็ตัดสินใจที่จะเรียกคืนวิหารแทนการรื้อถอนและสร้างใหม่ใหม่ โครงการเริ่มต้นในปี 2004 เพื่อรักษาโครงสร้างทางประวัติศาสตร์นี้มีความสำคัญและเป็นเอกลักษณ์ของไทยต่อไปนี้การออกแบบเดิมและใช้วัสดุที่เป็นต้นฉบับมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในปี 2008 โครงการบูรณะวัดปงสนุกได้รับรางวัลแห่งบุญรางวัลยูเนสโกเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม

รายละเอียดของวิหารของวัดปงสนุกในลำปาง
รายละเอียดของวิหาร
ล้านนาเจดีย์รูปแบบของวัดปงสนุก
สไตล์ล้านนาเจดีย์
เจดีย์และโครงสร้างอื่น ๆ
หลังวิหารพระเจ้าพานอ่องเป็นวิหารที่สองบนเนิน วิหารนี้บ้านภาพพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการผ่านไปของพระพุทธเจ้าเข้านิพพานสุดท้าย

เจดีย์วัดปงสนุกของการครอบคลุมด้วยทองแดงเหน่งในดวงอาทิตย์ เกลียวล้านนาสไตล์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมด้านบนเป็นไม้ประดับหลายร่มฉัตร

พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กการจัดแสดงนิทรรศการหลายร้อยภาพพระพุทธรูปรวมทั้งการนั่งเดินนอนพระพุทธรูปในหลาย Mudras (ท่าทางมือ) บางคนมีหลายร้อยปี นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเลื่อนมือเขียนโบราณที่พบในระหว่างการทำงานของการฟื้นฟู

วิธีการได้รับการวัดปงสนุก
วัดตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองในใจกลางเมืองลำปาง มันถูกพบบนถนนปงสนุกเหนือของแม่น้ำวัง วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะได้รับมีโดยสองแถวหรือโดยการวาดรถม้า