Krungthai Bank (KTB) hopes to secur

Krungthai Bank (KTB) hopes to secure the third place of banks that make the highest operating profit before reserve this year even the lending growth might be flat and the rising NPLs from SME sector, its president Vorapak Tanyawong said.
In the first five months, KTB’ loan witnessed a drop of 2.4 per cent, which Vorapak said that even the customers have demand in credit, their debt service ratio is failed to access lending. While, the bank wants to control quality of customers, which the NPLs of retail customers so far this year have become stable after surging much in the year before.
Year to date, the NPL rose by Bt20 billion, making the overall of NPL at KTB still in the upward trend because SMEs especially enterprises with annual turnover of Bt500 million have turned to NPLs, which most of those are in steel, auto part and seafood businesses.
“KTB should not aggressive in this time due we have to focus on risk management to control the NPLs,” he said.
KTB is in the well place to receive benefit from the government investment and the latter should be the key of loan growth to the state run commercial bank, which Vorapak hopes that if the government can go on its projects as schedule, the second half should better than the first half. Yet, in his views, KTB should set conservative style by increasing reserves as the buffer to lessen the debt default and offer help to borrowers who are going to the bad debt rather than make the aggressive style to chase lending.
Vorapak recently has receives "Financier of the Year 2016" award from Money & Banking Magazine, said that the bank is able to make profit from the lower funding cost, the interest income from the existing customers and the non interest income from fees.
“We still believe the profit before reserve is in the well place and we could rank the third of banks that have highest profit before reserve for two years consecutively,” he said.
Last year, KTB had profit before reserve of Bt65.68 billion, while the second – Kasikornban reported Bt80.86 billion and Siam Commercial Bank at of Bt88.46 billion.
He said that KTB has non-interest income only 30 per cent, lower than the major banks, making it has smaller impact from the PromptPay. If compare to the cash management, the bank will also reduce this cost as well, he added.
Under the PromptPay, fee charge will be exempted to the sender who will transfer money in amount of no more than Bt5,000.
Yet, the implement of PromptPay will be started in November, which Vorapak said that such of impact from the PromptPay will be seen in 2017.
KTB will seek for transactional fee from cash management to the private companies and the government sector, which the bank branch will be the payment channel to motorists who pay the traffic fine ticket, he added.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ธนาคารกรุงไทย (กรุงไทย) หวังความปลอดภัยสถานที่สามของธนาคารที่ทำกำไรสูงสุดก่อนสำรองปีนี้สินเชื่อในการเติบโตอาจจะ แบนและเพิ่มขึ้น Npl จากภาค SME, Vorapak Tanyawong ประธานบริษัทกล่าวว่าในเดือนห้าแรก กรุงไทย ' กู้เห็นหล่นของ 2.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง Vorapak กล่าวว่า แม้ลูกค้ามีความต้องการในเครดิต อัตราหนี้บริการจะไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อ ในขณะที่ ธนาคารที่ต้องการควบคุมคุณภาพของลูกค้า ซึ่ง Npl ของลูกค้าขายปลีกจนปีนี้ได้กลายเป็นมีเสถียรภาพจากพล่านมากในปีก่อนปีในวัน NPL กุหลาบ โดย 20 บาทหนึ่งแสนล้าน ทำโดยรวมของ NPL ที่กรุงไทยยังคงอยู่ในแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากเอสเอ็มอีโดยเฉพาะองค์กรที่ มีการหมุนเวียนประจำปีของ Bt500 ล้านได้หันไป Npl ส่วนใหญ่ของผู้ที่อยู่ในเหล็ก อัตโนมัติทะเลและส่วนธุรกิจ"กรุงไทยควรไม่ก้าวร้าวในขณะนี้ครบกำหนดที่เราจะต้องมุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยงเพื่อควบคุม Npl, " เขากล่าวว่ากรุงไทยที่อยู่ในสถานดีจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนของรัฐบาล และหลังควรสำคัญของการเติบโตสินเชื่อไปยังสถานะที่ทำงานธนาคารพาณิชย์ ซึ่ง Vorapak หวังว่า ถ้ารัฐบาลสามารถไปโครงการเป็นตาราง ครึ่งควรดีกว่าครึ่งแรก ยัง ในมุมมองของเขา กรุงไทยควรตั้งสไตล์ โดยการเพิ่มเงินสำรองเป็นบัฟเฟอร์การลดหนี้ค่าเริ่มต้น และให้ความช่วยเหลือให้ผู้กู้ที่จะได้หนี้เสีย มากกว่าที่ทำให้สไตล์ดุดันไล่ให้ยืมVorapak เพิ่งได้รับรางวัล "นักการเงินแห่งปี 2016" จากเงิน และ วารสารการเงินธนาคาร กล่าวว่า ธนาคารสามารถทำกำไรจากเงินทุนต่ำกว่าต้นทุน ดอกเบี้ยรับจากลูกค้าที่มีอยู่ และไม่ใช่เงินจากค่าธรรมเนียมเขากล่าวว่า "เรายังคงเชื่อกำไรก่อนสำรองในสถานที่ที่ดี และเราได้จัดอันดับที่สามของธนาคารที่มีกำไรสูงสุดก่อนสำรองสำหรับสองปีติดต่อกัน ปี กรุงไทยมีกำไรก่อนสำรองของ Bt65.68 พันล้าน ในขณะที่สอง – Kasikornban รายงาน Bt80.86 พันล้านและไทยพาณิชย์เวลาของ Bt88.46 พันล้านเขากล่าวว่า กรุงไทยมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 30 ต่ำกว่าธนาคารสำคัญ ทำให้มีผลกระทบต่อขนาดเล็กจากการ PromptPay ถ้า เปรียบเทียบการบริหารเงินสด ธนาคารจะยังลดต้นทุนเช่นนี้ เขาเพิ่มภายใต้ PromptPay ค่าธรรมเนียมจะเว้นไปยังผู้ส่งที่จะโอนเงินจำนวนไม่เกิน Bt5, 000ยัง ใช้ของ PromptPay จะเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่ง Vorapak กล่าวว่า ผลกระทบจาก PromptPay การดังกล่าวจะเห็นได้ในปี 2560กรุงไทยจะหาค่าธรรมเนียมจัดการเงินสดจากบริษัทเอกชนและภาครัฐบาล ซึ่งสาขาธนาคารจะชำระให้ผู้ขับขี่ที่จ่ายค่าตั๋วดีจราจร เขาเพิ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ธนาคารกรุงไทย (KTB) หวังที่จะรักษาความปลอดภัยสถานที่ที่สามของธนาคารที่ทำให้ผลการดำเนินงานที่สูงที่สุดก่อนที่จะสำรองในปีนี้แม้สินเชื่ออาจจะแบนและสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นจากภาคธุรกิจ SME ประธานวรภัคธันยาวงษ์กล่าวว่า.
ในช่วงห้าเดือนแรกของปี เงินกู้ธนาคารกรุงไทย 'ร่วมเป็นสักขีพยานการลดลงร้อยละ 2.4 ซึ่งวรกล่าวว่าแม้ลูกค้ามีความต้องการในเครดิตอัตราส่วนการชำระหนี้ของพวกเขาจะล้มเหลวในการเข้าถึงการให้กู้ยืมเงิน ในขณะที่ธนาคารต้องการที่จะควบคุมคุณภาพของลูกค้าซึ่งสินเชื่อด้อยคุณภาพของลูกค้ารายย่อยเพื่อให้ห่างไกลในปีนี้ได้กลายเป็นมีเสถียรภาพหลังจากที่เพิ่มขึ้นมากในปีก่อนหน้า.
ปีในวันที่ NPL เพิ่มขึ้น 20 พันล้านทำให้โดยรวมของ NPL ที่ธนาคารกรุงไทย ยังคงอยู่ในแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่มีผลประกอบการประจำปีของ 500 ล้านบาทได้หันไปให้สินเชื่อด้อยคุณภาพซึ่งส่วนใหญ่ของผู้ที่อยู่ในเหล็ก, ชิ้นส่วนยานยนต์และธุรกิจอาหารทะเล.
"ธนาคารกรุงไทยไม่ควรก้าวร้าวในเวลานี้เนื่องจากเราจะต้องมุ่งเน้นไปที่การบริหารความเสี่ยง ในการควบคุมสินเชื่อด้อยคุณภาพ "เขากล่าว.
ธนาคารกรุงไทยอยู่ในสถานที่ที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐและหลังควรจะเป็นกุญแจสำคัญของการเติบโตของเงินให้กู้ยืมแก่รัฐทำงานธนาคารพาณิชย์ซึ่งวรหวังว่าถ้ารัฐบาลสามารถอยู่ต่อไปของมัน โครงการกำหนดการในช่วงครึ่งหลังควรจะดีกว่าครึ่งปีแรก แต่ในมุมมองของเขา, ธนาคารกรุงไทยควรกำหนดรูปแบบอนุรักษ์นิยมโดยการเพิ่มสำรองเป็นกันชนที่จะช่วยลดผิดนัดชำระหนี้และการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้กู้ที่กำลังจะไปหนี้ที่ไม่ดีมากกว่าที่ทำให้รูปแบบเชิงรุกในการไล่ล่าการให้กู้ยืมเงิน.
วรเพิ่งได้รับ "เงินทุน แห่งปี 2016 "รางวัลจากวารสารการเงินธนาคารกล่าวว่าธนาคารมีความสามารถในการทำกำไรจากต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่ารายได้ดอกเบี้ยจากลูกค้าที่มีอยู่และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม.
" เรายังคงเชื่อว่ากำไรก่อนสำรองดังกล่าว อยู่ในสถานที่ดีและเราจะได้อันดับที่สามของธนาคารที่มีกำไรสูงสุดก่อนที่จะสำรองเป็นเวลาสองปีติดต่อกัน "เขากล่าว.
ปีที่ผ่านมาธนาคารมีกำไรก่อนสำรองของ Bt65.68 พันล้านขณะที่สอง - Kasikornban รายงาน 80 86000000000 และธนาคารไทยพาณิชย์ของ Bt88.46 พันล้าน.
เขากล่าวว่าธนาคารกรุงไทยมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 30 ต่ำกว่าธนาคารใหญ่ทำให้มันมีขนาดเล็กผลกระทบจาก PromptPay หากเปรียบเทียบกับการบริหารเงินสดที่ธนาคารยังจะช่วยลดค่าใช้จ่ายนี้เช่นกันเขากล่าวเสริม.
ภายใต้ PromptPay, ค่าธรรมเนียมจะได้รับการยกเว้นไปยังผู้ส่งผู้ที่จะโอนเงินในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท.
แต่การดำเนินการ ของ PromptPay จะเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายนซึ่งวรกล่าวว่าผลกระทบดังกล่าวจาก PromptPay จะเห็นได้ในปี 2017
ธนาคารจะขอเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากการบริหารเงินสดให้แก่ บริษัท เอกชนและหน่วยงานภาครัฐที่สาขาของธนาคารจะได้รับการชำระเงิน ช่องทางในการขับขี่รถยนต์ที่จ่ายตั๋วเข้าชมที่ดีเขาเพิ่ม