The growing tends to increase logis

The growing tends to increase logistic costs.
At the same time, retail and production companies have to keep an eye on these cost, which often account for 10% or more of their overall costs. This seems to be a classical trade-off,but as the survey shows, there is no contradiction in managing higher complexity while at the same time reducing logistic cost. On the contrary, especially those companies that are faced with the highest possible complexity and dynamics in their respective industries prove to be the most efficient logistics managers. Car and computer manufacturers as well as large retail chains have succeeded in this task, developing state of the art logistics management concepts that rely heavily on IT

The basis for an efficient logistics management is an automated order administration system that allows the seamless and paper-free flow of order information system. A majority of the more efficient companies in the survey already uses system for automated order administration in contrast to the less efficient participants, as exhibit 1 show. Companies already relying on automation and integrated order administration outperform their competitors in several dimensions, most of all when it comes to the order throughput time. On average these companies can reduce their order throughput time by 20% compared to companies without the system.

But the support of internal processes with IT alone is no longer sufficient to enable above average performance. The internal systems have to be compatible with the systems of other partners in the supply chain to allow for a seamless information flow along the whole value process. Companies will have to embrace the possibilities of new communication standard like XML to build highly standardized and integrated supply chain information systems.

As important the connectivity and integration of the order administration system along the supply chain is the selection of the right planning systems. Most of all Enterprise Resource planning (ERP) and production planning and management (PPM) systems are essential for companies who aim to increase their logistics efficiency, again with a focus on connectivity to other information systems, internal as external

Faced with the growing complexity of logistics management, with respect to performance as well as costs, production companies and to same degree even retailers are more willing to outsource logistics activities. This offers great opportunities to logistics service providers(LSPs) - under the condition that they can provide the performance and costs their customers seek. The subsequent paragraph will therefore examine how LSPs can provide efficient services by using the right IT.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เติบโตมีแนวโน้มที่จะ เพิ่มต้นทุนโลจิสติกในเวลาเดียวกัน บริษัทขายปลีกและผลิตได้จะเก็บตาบนต้นทุนเหล่านี้ ซึ่งมักจะบัญชีอย่างน้อย 10% ของต้นทุนโดยรวม นี้ดูเหมือนจะ เป็นคลาสสิกค้าปิด แต่เป็นการสำรวจแสดง มีไม่มีความขัดแย้งในการจัดการความซับซ้อนสูงขึ้นในขณะเวลาเดียวกันลดต้นทุนโลจิสติก การ์ตูน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่กำลังประสบกับความซับซ้อนเป็นไปได้สูงสุดและพลศาสตร์ในความ พิสูจน์ให้ ผู้จัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ผลิตรถยนต์และคอมพิวเตอร์รวมทั้งกลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่ประสบความสำเร็จในภารกิจนี้ การพัฒนาแนวคิดบริหารโลจิสติกส์อันทันสมัยที่ใช้มากในข้อมูลพื้นฐานสำหรับการจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพเป็นระบบการบริหารใบสั่งอัตโนมัติที่ช่วยให้การไหลราบรื่น และ ปราศจากกระดาษระบบข้อมูลใบสั่ง ส่วนใหญ่ของบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสำรวจแล้วใช้ระบบจัดการใบสั่งอัตโนมัติตรงข้ามร่วมมีประสิทธิภาพน้อยกว่า เป็นแสดงการแสดง 1 บริษัทแล้วพึ่งทำงานอัตโนมัติและสั่งรวมบริหารมีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งในหลายมิติ ทุกเมื่อมันมาถึงเวลาสั่งประมวล โดยเฉลี่ยบริษัทเหล่านี้สามารถลดเวลาประมวลสั่ง 20% เมื่อเทียบกับบริษัทโดยระบบแต่การสนับสนุนของกระบวนการภายในกับคนเดียวจะไม่เพียงพอให้อยู่เหนือค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพการทำงาน ระบบภายในจะต้องเข้ากันได้กับระบบของคู่ค้าอื่น ๆ ในห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้สารสนเทศจำแนกตามกระบวนการทั้งหมดค่า บริษัทจะต้องโอบกอดไปสื่อสารใหม่มาตรฐานเช่นมาตรฐาน XML สร้างสูง และรวมระบบสารสนเทศโซ่อุปทานความสำคัญการเชื่อมต่อและการรวมระบบการจัดการสั่งตามห่วงโซ่อุปทานเป็นการเลือกสิทธิในการวางแผนระบบงาน ที่สุดของการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และการวางแผนการผลิตทั้งหมด และระบบการจัดการ (PPM) เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบริษัทที่มีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของโลจิสติกส์ อีกครั้ง โดยเน้นการเชื่อมต่อข้อมูลระบบอื่น ๆ ภายในเป็นภายนอก ประสบกับจัดการโลจิสติกส์ เกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานซับซ้อนเพิ่มขึ้น รวมทั้งต้น ทุน บริษัทผู้ผลิต และเดียวกันองศาแม้แต่ร้านค้าปลีกมีมากยินดีให้บริการภายนอกกิจกรรมโลจิสติกส์ นี้มีโอกาสดีในการ providers(LSPs) บริการโลจิสติกส์ - ภายใต้เงื่อนไขว่า พวกเขาสามารถให้ประสิทธิภาพและต้นทุนการหาลูกค้า ย่อหน้าต่อมาจึงจะตรวจสอบวิธี LSPs สามารถให้บริการที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้ด้านขวาได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเจริญเติบโตมีแนวโน้มที่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายโลจิสติก.
ในขณะเดียวกันการค้าปลีกและ บริษัท ผู้ผลิตจะต้องเก็บตาบนค่าใช้จ่ายเหล่านี้ซึ่งมักจะคิดเป็นสัดส่วน 10% หรือมากกว่าของค่าใช้จ่ายโดยรวมของพวกเขา นี้น่าจะเป็นการออกคลาสสิก แต่เป็นผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่ามีความขัดแย้งในการจัดการความซับซ้อนสูงขึ้นในขณะที่ในเวลาเดียวกันการลดต้นทุนโลจิสติก ในทางตรงกันข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท เหล่านั้นที่จะต้องเผชิญกับความซับซ้อนเป็นไปได้สูงสุดและการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมของตนพิสูจน์ให้เป็นผู้จัดการจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด รถยนต์และผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกับเครือข่ายค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในงานนี้การพัฒนาของรัฐของแนวคิดการจัดการโลจิสติกศิลปะที่ต้องพึ่งพาไอทีพื้นฐานสำหรับการจัดการโลจิสติที่มีประสิทธิภาพเป็นระบบการบริหารการสั่งซื้ออัตโนมัติที่ช่วยให้ราบรื่นและกระดาษฟรี การไหลเวียนของระบบข้อมูลการสั่งซื้อ ส่วนใหญ่ของ บริษัท มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสำรวจแล้วใช้ระบบการบริหารการสั่งซื้ออัตโนมัติในทางตรงกันข้ามกับผู้เข้าร่วมที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า 1 จัดแสดงโชว์ บริษัท อยู่แล้วพึ่งระบบอัตโนมัติและการบริหารจัดการแบบบูรณาการเพื่อที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งของพวกเขาในหลายมิติส่วนใหญ่ทั้งหมดเมื่อมันมาถึงเวลาที่ผ่านการสั่งซื้อ โดยเฉลี่ย บริษัท เหล่านี้สามารถลดเวลาในการส่งผ่านคำสั่งของพวกเขาโดย 20% เมื่อเทียบกับ บริษัท ที่ไม่มีระบบ. แต่การสนับสนุนของกระบวนการภายในกับ IT เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ผลการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้นโดยเฉลี่ย ระบบภายในจะต้องมีความเข้ากันได้กับระบบของคู่ค้าอื่น ๆ ในห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้การไหลของข้อมูลที่ไร้รอยต่อตามขั้นตอนทั้งค่า บริษัท จะมีความเป็นไปได้ที่จะโอบกอดของมาตรฐานการสื่อสารใหม่ ๆ เช่น XML เพื่อสร้างมาตรฐานสูงและห่วงโซ่อุปทานแบบบูรณาการระบบสารสนเทศ. ในฐานะที่เป็นสิ่งสำคัญในการเชื่อมต่อและบูรณาการระบบการบริหารงานเพื่อพร้อมห่วงโซ่อุปทานคือการเลือกระบบการวางแผนที่เหมาะสม ส่วนใหญ่ของทุกการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และการวางแผนการผลิตและการจัดการ (PPM) ระบบที่มีความจำเป็นสำหรับ บริษัท ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกของพวกเขาอีกครั้งที่มีความสำคัญในการเชื่อมต่อกับระบบสารสนเทศอื่น ๆ ภายในภายนอกต้องเผชิญกับความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของ การจัดการโลจิสติกที่เกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานเช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายในการผลิตและ บริษัท ในระดับเดียวแม้กระทั่งร้านค้าปลีกที่มีความเต็มใจที่จะ outsource กิจกรรมโลจิสติก นี้มีโอกาสที่ดีในการให้บริการโลจิสติก (LSPs) - ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าพวกเขาสามารถให้ประสิทธิภาพการทำงานและค่าใช้จ่ายลูกค้าของพวกเขาแสวงหา ย่อหน้าที่ตามมาจึงจะตรวจสอบวิธี LSPs สามารถให้บริการที่มีประสิทธิภาพโดยใช้สิทธิไอที

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเติบโตมีแนวโน้มที่จะเพิ่มต้นทุนโลจิสติก .
ในเวลาเดียวกัน บริษัทค้าปลีกและการผลิตต้องจับตาต้นทุนเหล่านี้ซึ่งมักจะบัญชีสำหรับ 10% หรือมากกว่าของค่าใช้จ่ายโดยรวมของพวกเขา นี้น่าจะเป็นอันคลาสสิก แต่เป็นการสำรวจแสดงให้เห็นว่า ไม่มีความขัดแย้งในการจัดการความซับซ้อนสูงกว่า ในขณะที่ในเวลาเดียวกันลดต้นทุนโลจิสติก ในทางตรงกันข้ามโดยเฉพาะบริษัทที่เผชิญกับความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้สูงสุดในแต่ละอุตสาหกรรมที่พิสูจน์ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดผู้จัดการโลจิสติกส์ คอมพิวเตอร์รถยนต์และผู้ผลิต รวมทั้งห้างค้าปลีกขนาดใหญ่มีความสำเร็จในงานนี้ การพัฒนารัฐของศิลปะแนวคิดการจัดการโลจิสติกส์ที่อาศัยมัน

พื้นฐานสำหรับการจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติเพื่อการบริหารระบบที่ช่วยให้ราบรื่นและการไหลของระบบข้อมูลการสั่งซื้อกระดาษฟรี ส่วนใหญ่ของ บริษัท มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสำรวจได้ใช้ระบบการบริหารการสั่งซื้ออัตโนมัติในทางตรงกันข้ามกับผู้เข้าร่วมที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าที่แสดง 1 รายการบริษัทได้ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อบูรณาการและการบริหารงานมีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งของพวกเขาในหลายมิติ มากที่สุดของทั้งหมดเมื่อมันมาถึงการสั่งผ่านเวลา โดย บริษัท เหล่านี้สามารถลดเวลานำของการสั่งซื้อโดย 20% เปรียบเทียบกับบริษัทที่ไม่มีระบบ

แต่การสนับสนุนของกระบวนการภายในกับมันคนเดียวจะไม่เพียงพอเพื่อให้เหนือประสิทธิภาพเฉลี่ย ระบบภายในจะต้องเข้ากันได้กับระบบของคู่ค้าอื่น ๆในห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้ไม่มีรอยต่อของการไหลของข้อมูลตามกระบวนการค่าทั้งหมดบริษัทจะต้องโอบกอดความเป็นไปได้ใหม่ของการสื่อสารมาตรฐานเช่น XML เพื่อสร้างมาตรฐานสูงและอุปทานแบบบูรณาการระบบข้อมูลห่วงโซ่

ที่สำคัญการเชื่อมต่อและการบูรณาการเพื่อการบริหารระบบตามห่วงโซ่อุปทานคือการเลือกของระบบการวางแผนที่ถูกต้องที่สุดของทุกองค์กรทรัพยากรการวางแผน ( ERP ) และการวางแผนและการจัดการการผลิต ( ส่วนในล้านส่วน ) ระบบที่จำเป็นสำหรับ บริษัท ที่มุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ของตนเองอีกครั้งโดยมุ่งเน้นการเชื่อมต่อกับระบบข้อมูลอื่น ๆ ภายใน และภายนอก

ต้องเผชิญกับความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของการจัดการโลจิสติกส์ เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายบริษัทผู้ผลิต และเหมือนกันทุกร้านค้าปลีกมีความเต็มใจที่จะ outsource กิจกรรมโลจิสติกส์ นี้มีโอกาสที่ดีกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ( lsps ) ภายใต้เงื่อนไขที่พวกเขาสามารถให้ต้นทุนการทำงานและลูกค้าของพวกเขาแสวงหา ย่อหน้าต่อมาจึงศึกษาวิธีการ lsps สามารถให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้สิทธิ .