การระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารเป็นการเตรียมความพร้อมตามแผนผนึกกำลังและทร การแปล - การระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารเป็นการเตรียมความพร้อมตามแผนผนึกกำลังและทร ไทย วิธีการพูด

การระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารเป็นการ

การระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารเป็นการเตรียมความพร้อมตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศตั้งแต่ในภาวะปกติโดยการรวบรวมและจัดระเบียบทรัพยากรของชาติทำให้ทรัพยากรของชาติอยู่ในลักษณะพร้อมที่จะนำไปใช้หรือนำไปแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในภาวะไม่ปกติ และโดยที่ปัจจุบันทรัพยากรต่างๆอยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงานซึ่งแยกส่วนกันดำเนินการทั้งส่วนราชการพลเรือน รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน จึงต้องมีการผนึกกำลังร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการนำทรัพยากรต่างๆที่มีอยู่ในหลายหน่วยงานมารวมกันเพื่อจัดการกับปัญหาหรือภาวะไม่ปกติที่เกิดขึ้น รวมถึงการป้องกันประเทศต้องมีการเตรียมการในด้านทรัพยากรต่างๆที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการของกองทัพในภาวะที่มีการรบหรือภาวะไม่ปกติ/การสงครามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จะเห็นได้ว่าความสำคัญของการระดมสรรพกำลังเพื่อการทหาร จะต้องอาศัยการประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการในการปฏิติเป็นไปด้วยดีมีประสิทธิภาพ จึงได้ทำการศึกษาวิจัยในเรื่อง “การพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนในการระดมสรรพกำลังตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ”
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บังคับบัญชาทั้งในอดีตและปัจจุบันของกรมการสรรพกำลังกลาโหม จำนวน ๓ ท่าน ดังมีรายนามคือ พลเอก ประพันธ์ พุทธานุ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พลโท ปรพล อนุศรี ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และพลโท ดำรงศักดิ์ วรรณกลาง เจ้ากรมการสรรพกำลังกลาโหม รวมทั้งใช้ข้อมูลทุติยภูมิ คือ ข้อมูลที่ได้จากเอกสารทางวิชาการ แนวคิดทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลโดยค้นคว้าจากแหล่งต่างๆ มาวิเคราะห์กำหนดแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนในการระดมสรรพกำลังตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ
ผลจากการศึกษาวิจัยพบว่า ในการที่จะพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนที่กำหนดตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศนั้นจะต้องเสริมสร้างความรู้ ให้เกิดความเข้าใจในงานด้านการระดมสรรพกำลังตลอดจนการประสานความรู้ ความเข้าใจ ทั้งข้อมูลและการทำงานอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องระหว่างส่วนราชการทหารและส่วนราชการพลเรือนที่เกี่ยวข้องในรูปแบบของกิจกรรมต่างๆ ตามที่หน่วยได้ดำเนินการอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น การประชุม อบรม สัมนา พัฒนาสัมพันธ์ และใช้การฝึกเป็นตัวประเมิน ซึ่งนับว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้องแล้ว
จากผลการวิจัยเรื่องการพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนในการระดมสรรพกำลัง ตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ ถ้าดูจากกิจกรรมหรืองานต่าง ๆ ที่ทางหน่วยได้ดำเนินการมา ไม่ว่าจะเป็นการประชุมสัมนา การอบรมเสริมสร้างความรู้ การพัฒนาสัมพันธ์กับทุกภาคส่วนตลอดจนการฝึกการระดมสรรพกำลังแล้ว จะเห็นว่าทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนด แต่หากจะให้มีการพัฒนาให้เกิดความร่วมมือที่ดี และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้ว ควรจะต้องมีการดำเนินการดังนี้
๑. ปรับปรุงรูปแบบการดำเนินกิจกรรมไม่ให้ซ้ำของเดิม ตลอดจนมีการขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น
๒. กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นโดยการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการต่าง ๆ หรืออาจให้มีกิจกรรมการตรวจเยี่ยมเพิ่มขึ้น
๓. ควรมีการสร้างแรงจูงใจ โดยมีค่าตอบแทนหรือมีการมอบใบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือเข้ารับการอบรมหลักสูตรด้านการระดมสรรพกำลัง เป็นต้น
๔. ความเป็นเอกภาพในการประสานงานทั้งภายในกรมการสรรพกำลังกลาโหม และกับหน่วยส่วนราชการพลเรือน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
การระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารเป็นการเตรียมความพร้อมตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศตั้งแต่ในภาวะปกติโดยการรวบรวมและจัดระเบียบทรัพยากรของชาติทำให้ทรัพยากรของชาติอยู่ในลักษณะพร้อมที่จะนำไปใช้หรือนำไปแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในภาวะไม่ปกติ และโดยที่ปัจจุบันทรัพยากรต่างๆอยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงานซึ่งแยกส่วนกันดำเนินการทั้งส่วนราชการพลเรือน รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน จึงต้องมีการผนึกกำลังร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการนำทรัพยากรต่างๆที่มีอยู่ในหลายหน่วยงานมารวมกันเพื่อจัดการกับปัญหาหรือภาวะไม่ปกติที่เกิดขึ้นรวมถึงการป้องกันประเทศต้องมีการเตรียมการในด้านทรัพยากรต่างๆที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการของกองทัพในภาวะที่มีการรบหรือภาวะไม่ปกติ/การสงครามได้อย่างมีประสิทธิภาพจะเห็นได้ว่าความสำคัญของการระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารจะต้องอาศัยการประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการในการปฏิติเป็นไปด้วยดีมีประสิทธิภาพจึงได้ทำการศึกษาวิจัยในเรื่อง "การพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนในการระดมสรรพกำลังตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ" การศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพประกอบการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บังคับบัญชาทั้งในอดีตและปัจจุบันของกรมการสรรพกำลังกลาโหมจำนวน ๓ ท่านดังมีรายนามคือพลเอกประพันธ์พุทธานุผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมพลโทปรพลอนุศรีที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมและพลโทดำรงศักดิ์วรรณกลางเจ้ากรมการสรรพกำลังกลาโหมรวมทั้งใช้ข้อมูลทุติยภูมิคือข้อมูลที่ได้จากเอกสารทางวิชาการแนวคิดทฤษฎีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องซึ่งผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลโดยค้นคว้าจากแหล่งต่าง ๆ มาวิเคราะห์กำหนดแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนในการระดมสรรพกำลังตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศผลจากการศึกษาวิจัยพบว่าในการที่จะพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนที่กำหนดตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศนั้นจะต้องเสริมสร้างความรู้ให้เกิดความเข้าใจในงานด้านการระดมสรรพกำลังตลอดจนการประสานความรู้ความเข้าใจทั้งข้อมูลและการทำงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องระหว่างส่วนราชการทหารและส่วนราชการพลเรือนที่เกี่ยวข้องในรูปแบบของกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่หน่วยได้ดำเนินการอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการประชุมอบรมสัมนาพัฒนาสัมพันธ์และใช้การฝึกเป็นตัวประเมินซึ่งนับว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้องแล้วจากผลการวิจัยเรื่องการพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนในการระดมสรรพกำลัง ตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ ถ้าดูจากกิจกรรมหรืองานต่าง ๆ ที่ทางหน่วยได้ดำเนินการมา ไม่ว่าจะเป็นการประชุมสัมนา การอบรมเสริมสร้างความรู้ การพัฒนาสัมพันธ์กับทุกภาคส่วนตลอดจนการฝึกการระดมสรรพกำลังแล้ว จะเห็นว่าทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนด แต่หากจะให้มีการพัฒนาให้เกิดความร่วมมือที่ดี และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้ว ควรจะต้องมีการดำเนินการดังนี้๑. ปรับปรุงรูปแบบการดำเนินกิจกรรมไม่ให้ซ้ำของเดิม ตลอดจนมีการขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น๒. กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นโดยการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการต่าง ๆ หรืออาจให้มีกิจกรรมการตรวจเยี่ยมเพิ่มขึ้น๓. ควรมีการสร้างแรงจูงใจ โดยมีค่าตอบแทนหรือมีการมอบใบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือเข้ารับการอบรมหลักสูตรด้านการระดมสรรพกำลัง เป็นต้น๔. ความเป็นเอกภาพในการประสานงานทั้งภายในกรมการสรรพกำลังกลาโหม และกับหน่วยส่วนราชการพลเรือน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
การระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารเป็นการเตรียมความพร้อมตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศตั้งแต่ในภาวะปกติโดยการรวบรวมและจัดระเบียบทรัพยากรของชาติทำให้ทรัพยากรของชาติอยู่ในลักษณะพร้อมที่จะนำไปใช้หรือนำไปแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในภาวะไม่ปกติและโดยที่ปัจจุบันทรัพยากรต่างๆอยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงานซึ่งแยกส่วนกันดำเนินการทั้งส่วนราชการพลเรือนรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนรวมถึงการป้องกันประเทศต้องมีการเตรียมการในด้านทรัพยากรต่างๆที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการของกองทัพในภาวะที่มีการรบหรือภาวะไม่ปกติ / การสงครามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จะเห็นได้ว่าความสำคัญของการระดมสรรพกำลังเพื่อการทหารจะต้องอาศัยการประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการในการปฏิติเป็นไปด้วยดีมีประสิทธิภาพจึงได้ทำการศึกษาวิจัยในเรื่อง
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพประกอบการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บังคับบัญชาทั้งในอดีตและปัจจุบันของกรมการสรรพกำลังกลาโหมจำนวนกันท่านดังมีรายนามคือพลเอกประพันธ์พุทธานุผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษพลโทปรพลอนุศรีที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมและพลโทดำรงศักดิ์วรรณกลางเจ้ากรมการสรรพกำลังกลาโหมรวมทั้งใช้ข้อมูลทุติยภูมิความข้อมูลที่ได้จากเอกสารทางวิชาการแนวคิดทฤษฎีซึ่งผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลโดยค้นคว้าจากแหล่งต่างๆมาวิเคราะห์กำหนดแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนในการระดมสรรพกำลังตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ
ผลจากการศึกษาวิจัยพบว่าในการที่จะพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนที่กำหนดตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศนั้นจะต้องเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจทั้งข้อมูลและการทำงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องระหว่างส่วนราชการทหารและส่วนราชการพลเรือนที่เกี่ยวข้องในรูปแบบของกิจกรรมต่างๆตามที่หน่วยได้ดำเนินการอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการประชุมอบรมสัมนาและใช้การฝึกเป็นตัวประเมินซึ่งนับว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้องแล้ว
จากผลการวิจัยเรื่องการพัฒนาความร่วมมือกับส่วนราชการพลเรือนในการระดมสรรพกำลังตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศถ้าดูจากกิจกรรมหรืองานต่างจะที่ทางหน่วยได้ดำเนินการมาการอบรมเสริมสร้างความรู้การพัฒนาสัมพันธ์กับทุกภาคส่วนตลอดจนการฝึกการระดมสรรพกำลังแล้วจะเห็นว่าทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้วควรจะต้องมีการดำเนินการดังนี้
๑ . ปรับปรุงรูปแบบการดำเนินกิจกรรมไม่ให้ซ้ำของเดิมตลอดจนมีการขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น
๒ .กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นโดยการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการต่างจะหรืออาจให้มีกิจกรรมการตรวจเยี่ยมเพิ่มขึ้น
ล่ะ .ควรมีการสร้างแรงจูงใจโดยมีค่าตอบแทนหรือมีการมอบใบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือเข้ารับการอบรมหลักสูตรด้านการระดมสรรพกำลังเป็นต้น
โตเกียวความเป็นเอกภาพในการประสานงานทั้งภายในกรมการสรรพกำลังกลาโหมและกับหน่วยส่วนราชการพลเรือน
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: