Danish energy supply is traditional

Danish energy supply is traditionally based on fossil
fuels. Denmark has very little hydro power potential and
during the 60 and 70 s, the electricity supply was dominated
by large steam turbines located near the big cities.
However, after the first oil crisis, Denmark has become a
leading country in terms of implementing CHP, energy
conservation and renewable energy. Consequently, the
Danish energy system has been changed from a situation in
1972, in which 92% out of a total of 833 PJ was oil, into a
situation of today in which only 41% out of 828 PJ is oil. In
the same period, both transportation and electricity
consumption as well as the heated space area have
increased substantially. Today, the share of electricity
production from CHP is as high as 50%, and approximately 20% of the electricity demand is supplied by wind
power[24–29]. Fig. 4 illustrates the development from 1972
until today and shows the outlook for the future in
accordance with the reference scenario explained in the
following.
When analysing the possibilities of continuing the
development and replacing more fossil fuels by renewable
energy, two problems arise.
One problem is the transportation sector, which is
almost totally fuelled by oil. Consumptions have been
increasing from 140 PJ in 1972 to an expected 180 PJ or
more in 2020. Thus, the transportation sector accounts for
almost all of the expected oil consumption.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซากดึกดำบรรพ์ซึ่งใช้พลังงานเดนมาร์กเชื้อเพลิง เดนมาร์กมีน้อยมากพลังศักยภาพ และระหว่าง s 60 และ 70 เสบียงถูกครอบงำโดยกังหันไอน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองใหญ่อย่างไรก็ตาม หลังจากวิกฤตน้ำมัน first เดนมาร์กได้กลายเป็นการประเทศชั้นนำในด้านการใช้ CHP พลังงานอนุรักษ์และพลังงานทดแทน ดังนั้น การระบบพลังงานที่เดนมาร์กมีการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์ใน1972 ที่ 92% จากทั้งหมด 833 พีเจเป็นน้ำมัน เป็นการสถานการณ์วันนี้ที่เพียง 41% จาก 828 พีเจเป็นน้ำมัน ในรอบระยะเวลาเดียวกัน ขนส่งและไฟฟ้าปริมาณการใช้เป็นพื้นที่ว่ายได้เพิ่มมากขึ้น วันนี้ หุ้นของการไฟฟ้าผลิตจาก CHP จะสูงถึง 50% และประมาณ 20% ของความต้องการไฟฟ้าที่มาตามลมพลังงาน [24-29] Fig. 4 แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาจากปี 1972จนถึงวันนี้ และแสดง outlook สำหรับอนาคตสามัคคีกับสถานการณ์จำลองอ้างอิงการอธิบายในการต่อไปนี้เมื่อวิเคราะห์ไปได้ความต่อเนื่องของการพัฒนาและติดตั้งเพิ่มเติมเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยทดแทนพลังงาน ปัญหาที่สองเกิดขึ้นปัญหาหนึ่งคือ ภาคขนส่ง ซึ่งเป็นเติมพลัง ด้วยน้ำมันเกือบทั้งหมด ปริมาณการใช้ได้เพิ่มขึ้นจาก 140 พีเจในการเป็นพีเจ 180 คาด หรือเพิ่มเติมใน 2020 ดังนั้น ภาคการขนส่งการบัญชีสำหรับเกือบทั้งหมดของปริมาณน้ำมันที่คาดการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การจัดหาพลังงานเดนมาร์กเป็นประเพณีที่ขึ้นอยู่กับเชื้อเพลิงฟอสซิล

เดนมาร์กมีศักยภาพพลังงานน้ำน้อยมากและ
ระหว่าง 60 และ 70 ของแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่ถูกครอบงํา
โดยกังหันไอน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองใหญ่ .
แต่หลังจากวิกฤตการณ์น้ำมันจึงตัดสินใจเดินทางไปเดนมาร์กกลายเป็นประเทศชั้นนำในแง่ของการใช้

: การอนุรักษ์พลังงานและพลังงานหมุนเวียน โดย
ระบบพลังงานเดนมาร์กได้เปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณ์
1972 ที่ 92% จากทั้งหมด 833 PJ คือน้ำมัน เป็นสถานการณ์ของวันนี้
ซึ่งมีเพียงร้อยละ 41 จาก 828 พีเจ คือ น้ำมัน ใน
ช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งการขนส่ง และการบริโภค ตลอดจนไฟฟ้า

อุ่นมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นอย่างมาก วันนี้ หุ้นของการผลิตไฟฟ้า
จาก CHP มีสูงถึง 50%และประมาณ 20% ของความต้องการใช้ไฟฟ้ามาด้วยพลังลม
[ 24 – 29 ] รูปที่ 4 แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาจาก 2515
จนถึงวันนี้และแสดงแนวโน้มในอนาคต
ตามอ้างอิงบทอธิบายใน

ต่อไปนี้ เมื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลพลังงานหมุนเวียนพลังงานมากขึ้นด้วย

สองปัญหาที่เกิดขึ้นปัญหาหนึ่งคือ ภาคการขนส่ง ซึ่ง
เกือบทั้งหมดจากเชื้อเพลิงน้ำมัน ที่สลายได้
เพิ่มขึ้นจาก 140 PJ ในปี 1972 เพื่อคาดหวัง 180 PJ หรือ
เพิ่มเติมใน 2020 ดังนั้น ภาคการขนส่ง บัญชีสำหรับ
เกือบทั้งหมดของคาดน้ำมันพลังงาน