It all started in 1949 when Frank M

It all started in 1949 when Frank McNamara scheduled a business dinner in a New York restaurant.
Before he left for the dinner, Frank changed suits. When the waiter presented the check,
Frank realized that he had lift his wallet in the other suit. The embarrassing situation was solved,
but that night Frank asked himself : "Why should people be limited to spending what they are
carrying in cash, instead of being able to spend what they can afford?" A year later,
Frank returned to the same restaurant in New York. When the cheak came, Frank handed the waiter
a small cardboard card, a Diner's Club Card, and signed for the meal. This event is known in the
credit card industty as the "First Supper. "Soon the concept of "charging it" was picked up by
merchants as an alternative form of payment to the use of cash. By 1952, the Diner's Club Card
was accepted by thousands of businesses across the United States, and it became a status symbol
for those who carried it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันเริ่มในปี 1949 เมื่อ Frank แม็กนามาราเวลาธุรกิจอาหารค่ำในห้องอาหารนิวยอร์กก่อนที่เขาซ้ายสำหรับอาหารค่ำ แฟรงค์เปลี่ยนชุด เมื่อบริกรแสดงการตรวจสอบ แฟรงก์ตระหนักว่า เขาได้ยกกระเป๋าสตางค์ของเขาในชุดอื่น ๆ สถานการณ์ที่น่าอายที่ถูกแก้ไข แต่คืนนั้นแฟรงค์ถามตัวเอง: "ทำไมท่านควรจำกัดการใช้จ่ายอะไรบ้าง แบกเงินสด แทนความสามารถในการใช้จ่ายสิ่งที่พวกเขาสามารถจ่ายได้อย่างไร" ในปีต่อมา แฟรงก์กลับไปร้านเดียวกันในนิวยอร์ก เมื่อ cheak มา Frank มือเสิร์ฟบัตรกระดาษแข็งขนาดเล็ก ร้านของคลับการ์ด และลงสำหรับอาหาร เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักในการindustty บัตรเครดิตเป็นการ "แรกเย็น" เร็ว ๆ นี้ แนวคิดของ "ชาร์จ" มารับ ร้านค้าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการชำระเงินการใช้เงินสด โดย 1952, Diner ที่คลับการ์ด ยอมรับจากหลายพันบริษัททั่วสหรัฐอเมริกา และมันกลายเป็นสัญลักษณ์สถานะ สำหรับผู้ที่ดำเนินการนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันทั้งหมดเริ่มต้นในปี 1949 เมื่อแฟรงก์นารากำหนดเวลาอาหารเย็นธุรกิจในร้านอาหารนิวยอร์ก.
ก่อนที่เขาจะเหลือสำหรับอาหารค่ำ, แฟรงก์เปลี่ยนชุด เมื่อบริกรที่นำเสนอการตรวจสอบ,
แฟรงก์ตระหนักว่าเขาได้ยกกระเป๋าสตางค์ของเขาในชุดอื่น ๆ สถานการณ์ที่น่าอายได้รับการแก้ไข
แต่คืนนั้นแฟรงก์ถามตัวเองว่า "ทำไมคนควรจะ จำกัด การใช้จ่ายสิ่งที่พวกเขา
? แบกเงินสดแทนความสามารถในการใช้จ่ายในสิ่งที่พวกเขาสามารถจ่าย" หนึ่งปีต่อมา
แฟรงก์กลับไปที่ร้านอาหารเดียวกันในนิวยอร์ก เมื่อ Cheak มาแฟรงค์บริกรส่ง
บัตรกระดาษแข็งขนาดเล็กบัตรคลับการ์ด Diner และเซ็นสัญญากับมื้ออาหาร เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักกันดีใน
industty บัตรเครดิตเป็น "ครั้งแรก Supper." เร็ว ๆ นี้แนวคิดของ "ชาร์จ" ที่ถูกหยิบขึ้นมาโดย
พ่อค้าเป็นรูปแบบทางเลือกของการชำระเงินเพื่อการใช้เงินสด 1952 โดยบัตรคลับ Diner ของ
ได้รับการยอมรับโดยนับพันของธุรกิจทั่วสหรัฐอเมริกาและมันก็กลายเป็นสัญลักษณ์สถานะ
สำหรับผู้ที่ถือมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันทั้งหมดเริ่มต้นในปี 1949 เมื่อแฟรงค์ แมคนามาราได้วางแผนธุรกิจอาหารค่ำในร้านอาหารนิวยอร์ก .ก่อนที่เขาซ้ายสำหรับอาหารเย็น แฟรงค์ได้เปลี่ยนชุด เมื่อพนักงานเสิร์ฟนำเช็คแฟรงค์ ตระหนักว่าเขาได้ยกกระเป๋าเงินของเขาในชุดอื่น ๆ สถานการณ์ที่น่าอายคือแก้ไขแต่คืนนั้นแฟรงค์ถามตัวเองว่า : " ทำไมคนถูก จำกัด การใช้จ่ายที่พวกเขาแบกเงินสดแทนที่จะสามารถใช้จ่ายสิ่งที่พวกเขาสามารถจ่ายได้ ? " ปีต่อมาแฟรงก์กลับไปที่ร้านอาหารเดียวกันในนิวยอร์ก ตอน cheak มา แฟรงค์ ก็ส่ง วอลเตอร์บัตรกระดาษแข็งขนาดเล็ก ร้าน คลับการ์ด และลงนามสำหรับอาหาร เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักกันในบัตรเครดิต industty เป็น " มื้อแรก . เร็ว ๆนี้แนวคิดของ " ชาร์จ " ถูกเลือกขึ้นโดยร้านค้าเป็นรูปแบบทางเลือกของการชำระเงินเพื่อใช้เป็นเงินสด โดย 1952 , ห้องอาหารคลับการ์ดได้รับการยอมรับโดยนับพันของธุรกิจทั่วสหรัฐอเมริกา และได้กลายเป็นสัญลักษณ์สถานะสำหรับผู้ที่ถือมัน