A chemical bond is the link between

A chemical bond is the link between atoms. When a chemical bond forms
between two atoms the resulting arrangement of the two nuclei and their
electrons has a lower energy than the total energy of the separate atoms. If
the lowest energy can be achieved by the complete transfer of one or more electrons
from each atom of one element to those of another, then ions form and the
compound is held together by the electrostatic attraction between them. This
attraction is called an ionic bond. Sodium and chlorine atoms, for example, bond
together as ions because solid sodium chloride, which consists of Na and Cl
ions, has a lower energy than a collection of widely separated sodium and chlorine
atoms. If the lowest energy can be achieved by sharing electrons, then the atoms
link through a covalent bond and discrete molecules are formed. Hydrogen and
nitrogen atoms bond together as molecules of ammonia, NH3, for example,
because a gas consisting of NH3 molecules has a lower energy than a gas consisting
of the same number of widely separated nitrogen and hydrogen atoms. A third type
of bond is the metallic bond, in which large numbers of cations are held together
by a sea of electrons. For example, a piece of copper consists of a stack of copper
ions held together by a sea of electrons, each of which comes from one of the
atoms in the sample (recall Fig. 2.27). We consider the metallic bond in more detail
in Chapters 6 and 7. In this chapter we examine ionic and covalent bonds.
The changes in energy responsible for the formation of bonds occur when the
valence electrons of atoms, the electrons in the outermost shells, move to new
locations. Therefore, bond formation depends on the electronic structures of
atoms discussed in Chapters 1 and 2.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เชื่อมโยงระหว่างอะตอมพันธะเคมีได้ เมื่อฟอร์มพันธะเคมีระหว่างสองอะตอมการจัดเรียงผลของแอลฟา 2 และของพวกเขาอิเล็กตรอนมีพลังงานต่ำกว่าพลังงานรวมของอะตอมแยกต่างหาก หากพลังงานต่ำสุดสามารถทำได้ โดยการถ่ายโอนอิเล็กตรอน น้อยสมบูรณ์จากแต่ละอะตอมขององค์ประกอบหนึ่งของอีก แล้วประจุแบบฟอร์มและมีจัดสารประกอบด้วยกัน โดยดึงดูดไฟฟ้าสถิตระหว่างพวกเขา นี้สถานที่ท่องเที่ยวคือมีพันธะ อะตอมโซเดียมและคลอรีน ตัวอย่าง ตราสารหนี้กันเป็นประจุเนื่องจากแข็งโซเดียมคลอไรด์ ซึ่งประกอบด้วย Na และ Clประจุ มีพลังงานต่ำกว่าคอลเลกชันของอย่างกว้างขวางแยกโซเดียมและคลอรีนอะตอม ถ้าสามารถทำได้ โดยใช้อิเล็กตรอน แล้วอะตอมพลังงานต่ำผ่านพันธะโคเวเลนต์ และโมเลกุลเดี่ยว ๆ จะเกิดขึ้น ไฮโดรเจน และไนโตรเจนอะตอมพันธะรวมกันเป็นโมเลกุลของแอมโมเนีย NH3 เช่นเนื่องจากเป็นก๊าซที่ประกอบด้วยโมเลกุล NH3 มีพลังงานต่ำกว่าแก๊สประกอบด้วยหมายเลขเดียวกันของอะตอมไนโตรเจนและไฮโดรเจนที่แยกออกจากกันอย่างกว้างขวาง ชนิดที่สามของพันธะคือพันธะโลหะ ซึ่งเป็นของหายากจำนวนมากที่จัดร่วมกันทะเลของอิเล็กตรอน ตัวอย่าง ชิ้นส่วนของทองประกอบด้วยกองซ้อนของทองแดงกันจัดร่วมกันทะเลของอิเล็กตรอน ซึ่งมาจากการอะตอมในตัวอย่าง (เรียกคืน Fig. 2.27) เราพิจารณาพันธะโลหะในรายละเอียดเพิ่มเติมในบทที่ 6 และ 7 ในบทนี้ เราตรวจสอบพันธบัตร ionic และ covalentเปลี่ยนแปลงพลังงานรับผิดชอบการการก่อตัวของพันธบัตรเกิดขึ้นเมื่อการเวเลนซ์อิเล็กตรอนของอะตอม อิเล็กตรอนในเชลล์นอกสุด ย้ายไปใหม่สถาน ดังนั้น ก่อพันธะขึ้นอยู่กับโครงสร้างทางอิเล็กทรอนิกส์ของอะตอมที่อธิบายไว้ในบทที่ 1 และ 2

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พันธบัตรสารเคมีเป็นความเชื่อมโยงระหว่างอะตอม เมื่อสารเคมีในรูปแบบพันธบัตรระหว่างสองอะตอมการจัดส่งผลให้ทั้งสองนิวเคลียสของพวกเขาและอิเล็กตรอนที่มีพลังงานต่ำกว่าพลังงานทั้งหมดของอะตอมที่แยกต่างหาก หากพลังงานต่ำสุดที่สามารถทำได้โดยการถ่ายโอนที่สมบูรณ์ของหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งอิเล็กตรอนจากอะตอมขององค์ประกอบหนึ่งให้กับผู้อื่นของแต่ละรูปแบบนั้นไอออนและสารประกอบที่มีการจัดขึ้นร่วมกันโดยสถานที่ไฟฟ้าสถิตระหว่างพวกเขา ซึ่งสถานที่ที่เรียกว่าพันธะไอออนิก โซเดียมและคลอรีนอะตอมตัวอย่างเช่นพันธบัตรร่วมกันเป็นเพราะไอออนโซเดียมคลอไรด์ที่เป็นของแข็งซึ่งประกอบด้วยนา? และ Cl? ไอออนที่มีพลังงานต่ำกว่าคอลเลกชันของห่างกันโซเดียมและคลอรีนอะตอม หากพลังงานต่ำสุดที่สามารถทำได้โดยการใช้งานร่วมกันอิเล็กตรอนแล้วอะตอมเชื่อมโยงผ่านพันธะโควาเลนและโมเลกุลที่ไม่ต่อเนื่องที่เกิดขึ้น และไฮโดรเจนอะตอมไนโตรเจนพันธบัตรร่วมกันเป็นโมเลกุลของแอมโมเนีย NH3 ตัวอย่างเช่นเพราะก๊าซที่ประกอบด้วยโมเลกุลNH3 มีพลังงานต่ำกว่าก๊าซซึ่งประกอบด้วยของจำนวนเดียวกันของแยกกันอย่างแพร่หลายไนโตรเจนและอะตอมไฮโดรเจน ชนิดที่สามของพันธบัตรพันธบัตรโลหะซึ่งในจำนวนมากของไพเพอร์จะจัดขึ้นร่วมกันโดยทะเลของอิเล็กตรอน ยกตัวอย่างเช่นชิ้นส่วนของทองแดงประกอบด้วยสแต็คของทองแดงไอออนจัดขึ้นร่วมกันโดยทะเลของอิเล็กตรอนแต่ละที่มาจากหนึ่งในอะตอมในตัวอย่าง(จำรูป. 2.27) เราพิจารณาพันธบัตรโลหะในรายละเอียดเพิ่มเติมในบทที่ 6 และ 7 ในบทนี้เราตรวจสอบพันธบัตรไอออนิกและโควาเลนต์. การเปลี่ยนแปลงในการใช้พลังงานที่รับผิดชอบในการก่อตัวของพันธบัตรเกิดขึ้นเมื่ออิเล็กตรอนของอะตอมอิเล็กตรอนในเปลือกนอกสุดที่ย้ายใหม่สถานที่ ดังนั้นการสร้างพันธะขึ้นอยู่กับโครงสร้างอิเล็กทรอนิกส์ของอะตอมที่กล่าวไว้ในบทที่ 1 และ 2

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พันธะทางเคมี คือ การเชื่อมโยงระหว่างอะตอม เมื่อพันธะทางเคมีระหว่างสองอะตอม ทำให้เกิดรูปแบบ
จัดสองนิวเคลียสและอิเล็กตรอนของพวกเขา
มีพลังงานต่ำกว่าพลังงานของอะตอมที่แยกต่างหาก ถ้า
พลังงานต่ำสุดที่สามารถทำได้โดยสมบูรณ์ การหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งอิเล็กตรอนในแต่ละอะตอมของธาตุหนึ่ง
จากที่อื่น แล้วไอออนและ
แบบฟอร์มสารประกอบร่วมกันจัดขึ้นโดยแรงดึงดูดทางไฟฟ้าสถิตระหว่างพวกเขา เที่ยวนี้
เรียกว่า พันธะไอออน โซเดียมและคลอรีนอะตอม ตัวอย่างเช่น บอนด์
ด้วยกันเป็นเพราะโซเดียมคลอไรด์ไอออนที่เป็นของแข็งซึ่งประกอบด้วยนา  และ Cl 
ไอออนที่มีพลังงานต่ำกว่าคอลเลกชันของโซเดียมและคลอรีน
อย่างกว้างขวางแยกอะตอม ถ้าพลังงานต่ำสุดที่สามารถทำได้โดยใช้อิเล็กตรอนแล้วอะตอม
ลิงค์ผ่านพันธะโควา และโมเลกุลที่ไม่ต่อเนื่องจะเกิดขึ้น ไฮโดรเจนและไนโตรเจนอะตอมรวมกันเป็นโมเลกุล
พันธบัตรของแอมโมเนีย nh3 ตัวอย่างเช่น
เพราะแก๊สที่ประกอบด้วยโมเลกุลที่มีพลังงานต่ำกว่า nh3 แก๊สประกอบด้วย
ของหมายเลขเดียวกันของกันอย่างแยกไนโตรเจนและไฮโดรเจน a
ชนิดที่สามของพันธบัตรเป็นพันธบัตรโลหะซึ่งในตัวเลขขนาดใหญ่ของไอออนบวกจะจัดขึ้นร่วมกัน
โดยทะเลของอิเล็กตรอน ตัวอย่างเช่น แผ่นทองแดง ประกอบด้วย กองของไอออนทองแดง
จัดขึ้นร่วมกันโดยทะเลของอิเล็กตรอน ซึ่งแต่ละมาจากหนึ่งใน
อะตอมในตัวอย่าง ( นึกภาพ 2.27 ) เราพิจารณาพันธบัตรโลหะในรายละเอียดเพิ่มเติม
ในบทที่ 6 และ 7 ในบทนี้เราจะตรวจสอบพันธะพันธะไอออนิก .
การเปลี่ยนแปลงพลังงานรับผิดชอบการจัดตั้งพันธบัตรเกิดขึ้นเมื่อ
อิเล็กตรอนของอะตอม อิเล็กตรอนในเปลือกนอก ย้ายไปสถานที่ใหม่

ดังนั้น การสร้างพันธะขึ้นอยู่กับโครงสร้างอิเล็กทรอนิกส์ของ
อะตอมที่กล่าวถึงในบทที่ 1 และ 2