TULIPMANIA 553 high prices.33 By th

TULIPMANIA 553
high prices.33 By the time they appeared on a general catalog, they had diffused sufficiently to become relatively common. Again, in 32 years prices declined to 3 percent, 0.25 percent, 0.35 percent, or 0.04 percent of their original values, repeating the pattern of decline of the bulbs from the tulipmania. Indeed, the valuable bulbs of 1707 even converged approximately to the same prices as the valuable bulbs of 1637. We now have a pattern in the evolution of' prices of newly devel- oped, fashionable tulip bulbs. The first bulbs, unique or in small supply, carry high prices. With time, the price declines rapidly either because of rapid reproduction of' the new variety or because of' the increasing introduction of new varieties. Anyone who acquired a rare bulb would have understood this standard pattern of anticipated capi- tal depreciation, at least by the eighteenth century. To apply this pattern to the postcollapse period, we treat as rare all eighteenth-century bulbs selling for at least 1(00 guilders (Premier Noble, Aigle Noir, Roi de Fleurs, and Superintendant)9. Prices for these bulbs declined at an average annual percentage rate of' 28.5 percent. From table 1, the three costly bulbs of' February 1637 (En- glish Admiral, Admirael van der Eyck, and General Rotgans) had an average annual price decline of' 32 percent from the peak of' the speculation through 1642. Using the eighteenth-century price depre- ciation rate as a benchmark also followed by expensive bulbs after the mania, we can infer that any price collapse for rare bulbs in February 1637 could not have exceeded 16 percent of peak prices. Thus the crash of February 1637 for rare bulbs was not of extraordinary mag- nitude and did not greatly affect the normal time-series pattern of rare bulb prices.
Eighteenth-Century Hyacinth Prices
As further evidence of this standard pattern in bulb prices, I now turn to the market for hyacinths. Krelage (1946) supplies prices of' hyacinths during the eighteenth and nineteenth centuries. Hyacinths replaced tulips at the start of the eighteenth century as the fashion-
33 None of the bulbs on the 1739 list carried a price greater than 8 guilders, while most prices were much lower. Rare and valuable bulbs would not appear on a standard dealer's list. Conversely, auctions would not likely bother with common, inexpensive bulbs. Since the 1637 rare bulbs had become common by 1707, it is not surprising that their names disappeared from auction lists. 34 For example, Roi de Fleurs would be counted as rare when its price was H 251 in 1707. By 1722, its price was H 10, so it would no longer be considered rare. The price declined between 1707 and 1722 by 96 percent, and the average annual decline was 21.5 percent. This 21.5 percent annual decline was averaged with similarly computed declines for other rare bulbs to produce an overall average.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปฏิปักษ์ 553 prices.33 สูงในขณะที่พวกเขาปรากฏในแค็ตตาล็อกทั่วไป พวกเขาได้กระจายพอเป็นบ่อย อีกครั้ง ใน 32 ปี ราคาลดลงไป 3%, 0.25%, 0.35 เปอร์เซ็นต์ หรือร้อยละ 0.04 ของค่าเดิม ทำซ้ำรูปแบบของการลดลงของหลอดไฟจากปฏิปักษ์ จริง หลอดไฟมีค่าของ 1707 แม้ converged ประมาณการราคาเดียวเป็นหลอดไฟมีคุณค่าที่ 1637 ตอนนี้เรามีรูปแบบในการวิวัฒนาการของ ' ราคาของใหม่ devel-oped ทิวลิปแฟชั่น หลอดแรก ซ้ำ หรือ ใน แหล่งขนาดเล็ก พกพาราคาสูง ด้วยเวลา ราคาลดลงอย่างรวดเร็วอย่างใดอย่างหนึ่งเนื่องจากทำภาพอย่างรวดเร็ว ' หลากหลายใหม่ หรือเนื่องจากการ ' แนะนำสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้น ทุกคนที่ได้มามีหลอดหายากจะเข้าใจรูปแบบมาตรฐานนี้คาด capi-ทัลค่าเสื่อมราคา น้อยจากศตวรรษที่สิบแปด การใช้รูปแบบนี้กับงวด postcollapse เรารักษาเป็นหายากทั้งหมดหลอด eighteenth ศตวรรษการขายอย่างน้อย 1 (guilders 00 (โน เบิลพรีเมียร์ Aigle Noir ร้อย ดอกไม้ de และ Superintendant) 9 ราคาสำหรับหลอดไฟเหล่านี้ลดลงอัตราการเฉลี่ยรายปีเปอร์เซ็นต์ ' 28.5 เปอร์เซ็นต์ จากตาราง 1 หลอดไฟราคาแพงสามของ ' 1637 กุมภาพันธ์ (Admiral En glish, Admirael van der Eyck และทั่วไป Rotgans) มีการลดราคาประจำปีเฉลี่ยของ ' 32 เปอร์เซ็นต์จากจุดสูงสุดของ ' เก็งกำไรผ่าน 1642 ใช้ศึกษา depre eighteenth ศตวรรษราคาเป็นมาตรฐานที่ปฏิบัติตาม โดยหลอดไฟที่มีราคาแพงจากความบ้าคลั่ง เราสามารถ infer ว่า ยุบราคาใด ๆ สำหรับหลอดไฟหายากใน 1637 กุมภาพันธ์อาจไม่มีเกิน 16 เปอร์เซ็นต์ของราคาสูงสุด ดังนั้นความผิดพลาดของ 1637 กุมภาพันธ์สำหรับหลอดไฟหายากไม่ของวิสามัญ mag-nitude และได้ช่วยส่งผลต่อรูปแบบอนุกรมเวลาปกติราคาหลอดไฟหายาก ราคาผัก eighteenth ศตวรรษ เป็นหลักฐานเพิ่มเติมของรูปแบบมาตรฐานนี้ราคาหลอด ฉันตอนนี้เปิดตลาดสำหรับปัจจัย ราคาของอุปกรณ์ Krelage (1946)' ปัจจัยระหว่างศตวรรษสิบแปด และ 19 ปัจจัยแทนดอกทิวลิปในช่วงเริ่มต้นศตวรรษที่สิบแปดเป็นแฟชั่น- 33 ไม่มีหลอดไฟในรายการ 1739 ดำเนินราคามากกว่า 8 guilders ในขณะที่ส่วนใหญ่ราคาต่ำกว่ามาก หลอดไฟหายาก และมีคุณค่าจะไม่ปรากฏขึ้นในรายการของตัวแทนจำหน่ายมาตรฐาน การประมูลจะไม่ได้น่ารำคาญกับหลอดไฟทั่วไป ราคาไม่แพง ตั้งแต่หลอดไฟหายาก 1637 เป็นทั่วไป โดย 1707 จึงไม่น่าแปลกใจว่า ชื่อของพวกเขาหายไปจากรายการประมูล 34 ตัวอย่างเช่น Roi de ดอกไม้นับเป็นหายากเมื่อราคาของ H 251 ใน 1707 โดย 1722 ราคาเป็น H 10 ดังนั้นมันไม่เป็นหายาก ราคาปฏิเสธระหว่าง 1722 1707 โดยร้อยละ 96 และลดลงเฉลี่ยต่อปีเป็นร้อยละ 21.5 ลดลงนี้ประจำปีร้อยละ 21.5 เป็นเฉลี่ย ด้วยในทำนองเดียวกันคำนวณภาวะสำหรับหลอดไฟหายากอื่น ๆ ในการผลิตเฉลี่ยโดยรวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความคลั่งทิวลิป 553
prices.33 สูงเวลาที่พวกเขาปรากฏตัวบนแคตตาล็อกโดยทั่วไปพวกเขาได้กระจายพอที่จะกลายเป็นธรรมดา อีกครั้งใน 32 ปีที่ผ่านมาราคาปรับตัวลดลงถึงร้อยละ 3 ร้อยละ 0.25 ร้อยละ 0.35 หรือร้อยละ 0.04 ของค่าเดิมของพวกเขา, การทำซ้ำรูปแบบของการลดลงของหลอดไฟจากความคลั่งทิวลิปที่ แน่นอนว่าหลอดไฟที่มีคุณค่าของ 1707 แม้จะแปรสภาพประมาณราคาเดียวกับหลอดไฟที่มีคุณค่าของ 1637 ขณะนี้เรามีรูปแบบในการวิวัฒนาการของ 'ราคาพัฒนาแล้วใหม่, หลอดไฟดอกทิวลิปที่ทันสมัย หลอดแรกที่ไม่ซ้ำกันในการจัดหาหรือขนาดเล็กพกพาราคาสูง กับเวลาที่ราคาลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกันเพราะการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วของ 'พันธุ์ใหม่หรือเพราะ' การเปิดตัวที่เพิ่มขึ้นของพันธุ์ใหม่ ทุกคนที่มาเป็นหลอดไฟที่หายากจะมีความเข้าใจนี้รูปแบบมาตรฐานของค่าเสื่อมราคาที่คาดว่าจะ Tal capi- อย่างน้อยจากศตวรรษที่สิบแปด เมื่อต้องการใช้รูปแบบนี้กับช่วงเวลา postcollapse เรารักษาเป็นที่หายากทุกหลอดศตวรรษที่สิบแปดขายอย่างน้อย 1 (00 กิลเดอร์ (พรีเมียร์โนเบิล Aigle Noir, ร้อยเอ็ด de Fleurs และผู้กำกับ) 9. ราคาหลอดไฟเหล่านี้ลดลงเฉลี่ย อัตราร้อยละต่อปีของร้อยละ 28.5. จากตารางที่ 1 สามหลอดไฟค่าใช้จ่ายของกุมภาพันธ์ 1637 (En- ไทยพล Admirael แวนเดอร์เอคและ Rotgans ทั่วไป) มีราคาลดลงเฉลี่ยปี '32 เปอร์เซ็นต์จากระดับสูงสุดของ' การเก็งกำไรผ่าน 1642 โดยการใช้ราคาอัตรา ciation ศตวรรษที่สิบแปด depre- เป็นมาตรฐานนอกจากนี้ยังตามมาด้วยหลอดไฟที่มีราคาแพงหลังจาก Mania เราสามารถอนุมานได้ว่าการล่มสลายราคาใด ๆ สำหรับหลอดไฟหายากในกุมภาพันธ์ 1637 อาจจะไม่ได้เกินกว่าร้อยละ 16 ของราคาสูงสุด ดังนั้นความผิดพลาดของกุมภาพันธ์ 1637 สำหรับหลอดไฟที่หายากที่ไม่ได้ของ nitude MAG- พิเศษและไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมากปกติรูปแบบอนุกรมเวลาของราคาหลอดไฟที่หายาก.
ราคาสิบแปดศตวรรษผักตบชวา
เป็นหลักฐานต่อไปของรูปแบบมาตรฐานนี้ในราคาหลอดตอนนี้ผม หันไปตลาดสำหรับผักตบชวา Krelage (1946) ซัพพลายราคาของผักตบชวาในช่วงศตวรรษที่สิบเก้า ผักตบชวาแทนที่ดอกทิวลิปที่เริ่มต้นของศตวรรษที่สิบแปดเป็นแฟชั่น
33 ไม่มีของหลอดไฟใน 1,739 รายการดำเนินการราคาสูงกว่า 8 กิลเดอร์ขณะที่ราคาส่วนใหญ่เป็นที่ต่ำกว่ามาก หลอดไฟที่หายากและมีคุณค่าจะไม่ปรากฏในรายชื่อตัวแทนจำหน่ายมาตรฐานของ ตรงกันข้ามการประมูลจะไม่น่ารำคาญกับทั่วไปหลอดราคาไม่แพง ตั้งแต่ 1,637 หลอดไฟที่หายากได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาโดย 1707 ก็ไม่น่าแปลกใจที่ชื่อของพวกเขาหายไปจากรายการประมูล 34 ตัวอย่างเช่นร้อยเอ็ด de Fleurs จะถูกนับเป็นของหายากเมื่อราคาของมันคือ H 251 ใน 1707 1722 โดยราคาของมันเป็น H 10 ดังนั้นมันจะไม่ได้รับการพิจารณาหายาก ราคาลดลงระหว่าง 1707 และ 1722 โดยร้อยละ 96 และลดลงเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 21.5 ร้อยละ 21.5 ลดลงรายปีนี้เฉลี่ยที่มีการลดลงของการคำนวณเช่นเดียวกันกับหลอดไฟที่หายากอื่น ๆ ในการผลิตเฉลี่ยโดยรวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

tulipmania 553สูง prices.33 โดยเวลาที่พวกเขาปรากฏในแค็ตตาล็อกทั่วไป พวกเขาได้กระจายพอที่จะกลายเป็นทั่วไปค่อนข้าง อีกครั้ง ใน 32 ปี ราคาลดลงถึงร้อยละ 3 ร้อยละ 0.25 , 0.35 เปอร์เซ็นต์ หรือ 0.04 เปอร์เซ็นต์ของค่าเดิม ทำซ้ำรูปแบบของการปฏิเสธของหลอดไฟจาก tulipmania . แน่นอน หลอดไฟที่มีคุณค่าของ 707 ได้แปรสภาพประมาณราคาเดียวกับหลอดไฟที่มีคุณค่าของ 1637 . ตอนนี้เรามีแบบแผนในการวิวัฒนาการของราคาของใหม่ - devel oped หลอดไฟดอกทิวลิปที่ทันสมัย หลอดแรก เป็นเอก หรือจัดหาขนาดเล็กพกพาราคาสูง ด้วยเวลา , ราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว " พันธุ์ใหม่ หรือเพราะ " การแนะนำพันธุ์ใหม่ ใครที่ซื้อหลอดที่หายากจะได้เข้าใจรูปแบบนี้มาตรฐานคาดกะปิ - ทาล ค่าเสื่อมราคา อย่างน้อยศตวรรษที่สิบแปด ใช้รูปแบบนี้ในช่วง postcollapse เราถือว่าเป็นแรร์ทั้งหมดในศตวรรษที่สิบแปดหลอดขายอย่างน้อย 1 ( 100 กิลเดอร์ ( พรีเมียร์ โนเบิล ไอเกิลนัวร์ Roi de Fleurs และศึกษาธิการ ) 9 . ราคาหลอดไฟเหล่านี้ลดลงเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละอัตรา " 28.5 เปอร์เซ็นต์ . จากตารางที่ 1 สามหลอดแพง " กุมภาพันธ์ 1637 ( en - glish พลเรือเอก แอดมิราล แวน เดอ เอค และ rotgans ทั่วไป ) มีการลดลงราคาเฉลี่ยรายปีของ " 32 เปอร์เซ็นต์จากจุดสูงสุดของการเก็งกำไรผ่าน 1642 . ใช้ศตวรรษที่สิบแปดราคา depre - ciation เท่ากันเป็นมาตรฐานก็ตาม โดยหลอดไฟแพงหลังมาเนีย เราสามารถสรุปได้ว่ายุบ ราคา หายาก หลอดไฟในกุมภาพันธ์ 1637 ไม่เกิน 16 เปอร์เซ็นต์ของราคาสูงสุด ดังนั้น ความผิดพลาดของกุมภาพันธ์ 1637 สำหรับหลอดที่หายากได้ของพิเศษ แม็ก - nitude และไม่มีผลต่อรูปแบบของอนุกรมเวลา ปกติราคาหลอดที่หายากศตวรรษที่สิบแปดผักตบชวาราคาตามหลักฐานของมาตรฐานนี้ในราคาแบบหลอด ตอนนี้ผมเปิดตลาดสำหรับไฮยาซิน krelage ( 1946 ) วัสดุ ราคา ของงานในช่วงคริสตศตวรรษที่ 18 และ 19 ศตวรรษ ไฮยาซินแทนที่ทิวลิปที่เริ่มต้นของศตวรรษที่สิบแปดเป็นแฟชั่น33 ไม่มีหลอดไฟใน 1739 รายการแบกราคามากกว่า 8 กิลเดอร์ ขณะที่ส่วนใหญ่ราคาต่ำกว่ามาก หลอดที่หายากและมีคุณค่าจะไม่ปรากฏบนรายการมาตรฐานดีลเลอร์ของ ตรงกันข้ามการประมูลจะไม่อาจรบกวนกับหลอดไฟทั่วไป ราคาไม่แพง เนื่องจากหายาก หลอดไฟได้กลายเป็นสามัญ 1637 โดย 707 , ไม่น่าแปลกใจว่าชื่อของพวกเขาหายไปจากรายการประมูล 34 ตัวอย่าง รัว เดอเฟอร์ จะนับว่าหายากเมื่อราคาของมันคือ 251 ใน 1707 . โดย 783 ราคาของมันคือ 10 จึงจะไม่ถือว่าหายาก ราคาปรับตัวลดลงระหว่าง ค.ศ. 1707 . โดย และ 96 เปอร์เซ็นต์ และลดลงต่อปีเฉลี่ย 21.5 เปอร์เซ็นต์ . นี้ลดลง 21.5 เปอร์เซ็นต์ ปี เฉลี่ยกับเหมือนกับคำนวณลดลงสำหรับหลอดไฟที่หายากอื่น ๆเพื่อผลิตเฉลี่ยโดยรวม