The Joint FAO/WHO expert committee

The Joint FAO/WHO expert committee on food additives states that, "based on the information available, it is inadvisable to use carrageenan or processed eucheuma seaweed in infant formulas".[14] There is evidence from studies performed on rats, guinea pigs, and monkeys that indicates that degraded carrageenan (poligeenan) may cause ulcerations in the gastro-intestinal tract and gastro-intestinal cancer.[15] Poligeenan is produced from carrageenan subjected to high temperatures and acidity. The average carrageenan molecule weighs over 100,000 Da while poligeenans have a molecular weight of less than 50,000 Da. A scientific committee working on behalf of the European Commission has recommended that the amount of degraded carrageenan be limited to a maximum of 5% (which is the limit of detection) of total carrageenan mass. Upon testing samples of foods containing high molecular weight carrageens, researchers found no poligeenan.[16]

A recent publication[17] indicates that carrageenan induces inflammation in human intestinal epithelial cells in tissue culture through a BCL10-mediated pathway that leads to activation of NFkappaB and IL-8. Carrageenan may be immunogenic due to its unusual alpha-1,3-galactosidic link that is part of its disaccharide unit structure. Consumption of carrageenan may have a role in intestinal inflammation and possibly inflammatory bowel disease, since BCL10 resembles NOD2, mutations of which are associated with genetic proclivity to Crohn's Disease

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อต่อ FAO / คนคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญวัตถุเจือปนอาหารว่า, "ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มี inadvisable การใช้ carrageenan รดิวประมวลผลสาหร่ายในสูตรทารก"[14] ไม่มีหลักฐานจากการศึกษาทำกับหนู หนูตะเภา และลิงว่า carrageenan ที่เสื่อมโทรม (poligeenan) อาจทำให้ ulcerations ในการงดและมะเร็งลำไส้ gastro[15] Poligeenan ผลิตจาก carrageenan ภายใต้อุณหภูมิสูงและมี โมเลกุล carrageenan เฉลี่ยน้ำหนักกว่า 100000 ดาในขณะที่ poligeenans มีน้ำหนักโมเลกุลของดาน้อยกว่า 50000 คณะกรรมการวิทยาศาสตร์ทำงานในนามของคณะกรรมาธิการยุโรปได้แนะนำว่า ยอดของ carrageenan เสื่อมโทรมมีจำกัดสูงสุด 5% (ซึ่งเป็นข้อจำกัดของการตรวจสอบ) ของ carrageenan รวมมวล เมื่อทดสอบตัวอย่างอาหารที่ประกอบด้วยน้ำหนักโมเลกุลสูง carrageens นักวิจัยพบ poligeenan ไม่[16]

ประกาศล่าสุด [17] บ่งชี้ carrageenan ที่ก่อให้เกิดการอักเสบในมนุษย์ลำไส้ epithelial เซลล์ในเนื้อเยื่อผ่านทางเดินที่ BCL10 mediated ที่นำไปสู่การเปิดใช้งาน NFkappaB และ IL-8 Carrageenan อาจ immunogenic เนื่องจากเชื่อมโยงอัลฟา-1,3-galactosidic ความผิดปกติที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างของหน่วยไดแซ็กคาไรด์ ปริมาณการใช้ของ carrageenan อาจมีบทบาทในลำไส้อักเสบและโรคลำไส้อักเสบอาจ เนื่องจาก BCL10 มีลักษณะ NOD2 การกลายพันธุ์ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ proclivity ทางพันธุกรรมโรค Crohn ของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คณะกรรมการผู้ชำนาญการร่วม FAO / WHO ในวัตถุเจือปนอาหารระบุว่า "ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มีอยู่ก็ไม่สมควรที่จะใช้คาราจีแนนหรือสาหร่ายทะเล Eucheuma ประมวลผลในสูตรทารก." [14] มีหลักฐานจากการศึกษาดำเนินการในหนูหมูพริกคือ และลิงที่ระบุว่าคาราจีแนนเสื่อมโทรม (poligeenan) อาจทำให้เกิดการอักเสบในระบบทางเดินอาหารและโรคมะเร็งทางเดินอาหาร. [15] Poligeenan ผลิตจากคาราจีแนนภายใต้อุณหภูมิสูงและความเป็นกรด โมเลกุลคาราจีแนนเฉลี่ยน้ำหนักกว่า 100,000 ดาในขณะที่ poligeenans มีน้ำหนักโมเลกุลน้อยกว่า 50,000 ดา คณะกรรมการทางวิทยาศาสตร์ที่ทำงานในนามของคณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้คำแนะนำว่าปริมาณของคาราจีแนนเสื่อมโทรมถูก จำกัด ให้ไม่เกิน 5% (ซึ่งเป็นข้อ จำกัด ของการตรวจสอบ) ของมวลรวมคาราจีแนน เมื่อการทดสอบตัวอย่างอาหารที่มี carrageens น้ำหนักโมเลกุลสูงนักวิจัยพบว่าไม่มี poligeenan. [16] ที่ตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ [17] แสดงให้เห็นว่าคาราจีแนนก่อให้เกิดการอักเสบในเซลล์เยื่อบุผิวลำไส้ของมนุษย์ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อผ่านทางเดิน BCL10 สื่อที่นำไปสู่การกระตุ้นการทำงานของ NFkappaB และ IL-8 คาราจีแนนอาจจะเป็นภูมิคุ้มกันเนื่องจากอัลฟา 1,3-galactosidic เชื่อมโยงที่ผิดปกติที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างของหน่วยไดแซ็กคาไรด์ การบริโภคของคาราจีแนนอาจมีบทบาทสำคัญในการอักเสบของลำไส้และโรคลำไส้อักเสบอาจจะเป็นเพราะ BCL10 คล้าย NOD2 การกลายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับความปรารถนาทางพันธุกรรมเพื่อโรคโครห์น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ร่วม FAO / WHO คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ วัตถุเจือปนอาหาร ระบุว่า " จากข้อมูลที่พร้อมใช้งาน มันไม่สมควรที่จะใช้คาราจีแนน หรือประมวลผล eucheuma สาหร่ายสูตร " ทารก [ 14 ] มีหลักฐานจากการศึกษาดำเนินการในหนูขาว หนูตะเภาและลิงที่บ่งชี้ว่าการสลายคาราจีแนน ( poligeenan ) อาจก่อให้เกิด ulcerations ในระบบทางเดินอาหารระบบลำไส้ และ มะเร็งลำไส้ระบบทางเดินอาหาร [ 15 ] poligeenan ผลิตจากแหล่งภายใต้อุณหภูมิสูงและความเป็นกรด โมเลกุลแนนเฉลี่ยหนักกว่า 100000 ดา ในขณะที่ poligeenans มีน้ำหนักโมเลกุลน้อยกว่า 50 , 000 ดา .วิทยาศาสตร์คณะกรรมการทำงานในนามของคณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอว่าปริมาณของทราม คาราถูก จำกัด ให้สูงสุด 5 % ( ซึ่งเป็นขีดจำกัดของการตรวจหามวล ) ของแนนทั้งหมด เมื่อทดสอบตัวอย่างอาหารที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง carrageens นักวิจัยไม่พบ poligeenan [ 16 ]

[ สิ่งพิมพ์ ] ล่าสุด 17 แสดงว่า คาราก่อให้เกิดการอักเสบในลำไส้มนุษย์เซลล์บุผิวในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อผ่าน bcl10 ผ่านทางเดินที่นำไปสู่การกระตุ้น nfkappab และ 8 . แนนอาจจะ immunogenic เนื่องจากการผิดปกติ alpha-1,3-galactosidic เชื่อมโยงที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างหน่วยไดแซ็กคาไรด์ของมันการใช้คาราจีแนนอาจมีบทบาทในลําไส้อักเสบ และอาจเป็นโรคลำไส้อักเสบ เนื่องจาก bcl10 คล้ายกับ nod2 , การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มที่จะโรค Crohn ของ