related toExperimental science acti

related to

Experimental science activities in primary school enable important cross-curricular learning for children at the levels of understanding, critical thinking and oral and written expression (Charpack 2005

; Partridge 2006

; Harlen 2007

). When carried out in an atmosphere of freedom of communication and respect for others’ opinions, they give rise to situations that encourage children to talk, communicate, discuss ideas, describe, interpret and challenge the results of observations; and learn and use new words to explain and sort their own ideas (Harlen 2007

).

It has been shown that the theme of microorganisms can be explored in the first years of schooling by using experimental activities (Mafra and Lima 2009

; Byrne 2011

; Mafra 2012

). Indeed, the natural curiosity of primary school children is a gateway to effective learning about and better understanding of microorganisms (Jones and Rua 2006

). In fact, some studies have shown that children are able to learn about these little beings from an early age (Byrne and Sharp 2006

; Mafra and Lima 2009

; Byrne 2011

). However, it turns out that even after formal education on the subject, many children continue to retain alternative and contradictory ideas about the action of microorganisms that seem to endure over time. Many such ideas on microorganisms are rooted in segmented information acquired over time, are usually acquired in the family and are not based on scientific information (Byrne and Sharp 2006

). Such conceptions are sometimes very resistant, making conceptual change difficult and thus constituting epistemological learning obstacles (Bachelard 1938

; Carvalho et al. 2004

; Carvalho and Clément 2007

; Carvalho 2007

).

Furthermore, understanding of the notion of ‘being microscopic’ is difficult, especially for young children, because it is something that cannot be seen with the naked eye. This fact points to the need to ensure children in their very early years observe live microorganisms under the microscope, and also carry out harmless experimental activities that facilitate real contact with these organisms. It was in this context that the classroom activities in our study were designed, in order to facilitate primary school pupils’ learning about microbiology in basic education and contributing to a better understanding of issues related to oral hygiene. Thus, the main objectives of the practical activities consisted of making students find out they have microorganisms in the mouth and recognise the effectiveness of the process of teeth-brushing as a contribution to reducing the amount of these microorganisms, thus contributing to the promotion of oral health and prevention of dental caries.

In several countries, microorganisms are included in the science curriculum and curriculum guidelines, reflecting the importance of the topic (Byrne and Sharp 2006

). In contrast, in Portugal this theme is not explicit in the primary school national programme or in textbooks; however, there is some content that addresses the issue indirectly or is associated with it (Mafra and Lima 2009

; Mafra 2012

).

The present work intends to join the learning of basic concepts of microbiology with health education, and more precisely oral hygiene education. The main goal was to evaluate whether the 9–10-year-old children carrying out experimental activities were able to: (1) recognise they have microorganisms in their mouth, (2) learn about simple concepts of microorganism growth, (3) verify the effectiveness of the process of teeth-brushing in decreasing the amount of microorganisms in the mouth, and so (4) understand the importance of teeth-brushing for the prevention of dental caries

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนประถมศึกษาช่วยให้การเรียนรู้ข้ามหลักสูตรที่สำคัญสำหรับเด็กในระดับของความเข้าใจความคิดและการแสดงออกที่สำคัญพูดและการเขียน (Charpack 2005 ; นกกระทา 2006 ; Harlen 2007 ) เมื่อดำเนินการในบรรยากาศของเสรีภาพในการสื่อสารและการเคารพในความคิดเห็นของผู้อื่นที่พวกเขาก่อให้เกิดสถานการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กที่จะพูดคุยสื่อสารหารือเกี่ยวกับความคิดที่อธิบายตีความและความท้าทายของการสังเกตผล; และเรียนรู้และใช้คำศัพท์ใหม่ที่จะอธิบายและเรียงลำดับความคิดของตัวเอง (Harlen 2007 ). จะได้รับการแสดงให้เห็นว่ารูปแบบของจุลินทรีย์ที่สามารถได้รับการสำรวจในปีแรกของการศึกษาโดยใช้กิจกรรมการทดลอง (Mafra และ Lima 2009 ; เบิร์น 2011 ; Mafra 2012 ) อันที่จริงอยากรู้ธรรมชาติของเด็กที่โรงเรียนประถมศึกษาเป็นประตูสู่การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับและความเข้าใจที่ดีขึ้นของเชื้อจุลินทรีย์ (โจนส์และ Rua 2006 ) ในความเป็นจริงบางการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเด็กสามารถที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จากอายุต้น (เบิร์นและคม 2006 ; Mafra และ Lima 2009 ; เบิร์น 2011 ) แต่ปรากฎว่าแม้หลังจากการศึกษาอย่างเป็นทางการในเรื่องที่เด็กหลายคนยังคงรักษาความคิดทางเลือกและความขัดแย้งเกี่ยวกับการกระทำของจุลินทรีย์ที่ดูเหมือนจะทนเมื่อเวลาผ่านไป ความคิดดังกล่าวจำนวนมากเกี่ยวกับจุลินทรีย์ที่มีรากในข้อมูลที่ได้มาแบ่งกลุ่มเมื่อเวลาผ่านไปจะได้รับมักจะอยู่ในครอบครัวและไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ (เบิร์นและคม 2006 ) แนวความคิดดังกล่าวเป็นบางครั้งทนมากทำให้เปลี่ยนแปลงแนวคิดที่ยากลำบากและอุปสรรคจึงเป็นการเรียนรู้ญาณวิทยา (Bachelard 1938 ; Carvalho et al, 2004. ; วัลโญ่และClément 2007 ; Carvalho 2007 ). นอกจากนี้ความเข้าใจในความคิดของ 'เป็นกล้องจุลทรรศน์' เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กเล็กเพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จุดนี้ความเป็นจริงความต้องการที่จะให้แน่ใจว่าเด็กในช่วงปีแรกของพวกเขาสังเกตจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ภายใต้กล้องจุลทรรศน์และยังดำเนินกิจกรรมการทดลองที่ไม่เป็นอันตรายที่อำนวยความสะดวกการติดต่อจริงกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ มันอยู่ในบริบทนี้ว่ากิจกรรมในชั้นเรียนในการศึกษาของเราได้รับการออกแบบเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาเกี่ยวกับจุลชีววิทยาในการศึกษาขั้นพื้นฐานและเอื้อต่อการเข้าใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพช่องปาก ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของการปฏิบัติกิจกรรมประกอบด้วยนักเรียนทำให้พบว่าพวกเขามีเชื้อจุลินทรีย์ในช่องปากและตระหนักถึงความมีประสิทธิผลของกระบวนการของการแปรงฟันขณะที่มีส่วนร่วมในการลดปริมาณของจุลินทรีย์เหล่านี้จึงเอื้อต่อการส่งเสริมการขายของช่องปาก สุขภาพและการป้องกันโรคฟันผุ. ในหลายประเทศจุลินทรีย์จะรวมอยู่ในหลักสูตรวิทยาศาสตร์และแนวทางหลักสูตรสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของหัวข้อ (เบิร์นและคม 2006 ) ในทางตรงกันข้ามในโปรตุเกสชุดรูปแบบนี้ไม่ได้อย่างชัดเจนในโครงการโรงเรียนประถมศึกษาแห่งชาติหรือในตำรา; แต่มีเนื้อหาบางส่วนที่เน้นปัญหาทางอ้อมหรือมีความเกี่ยวข้องกับมัน (Mafra และ Lima 2009 ; Mafra 2012 ). การทำงานในปัจจุบันมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมการเรียนรู้แนวคิดพื้นฐานของจุลชีววิทยาที่มีการศึกษาสุขภาพและแม่นยำมากขึ้นการศึกษาสุขอนามัยช่องปาก เป้าหมายหลักคือการประเมินว่าเด็ก 9-10 ปีการดำเนินกิจกรรมการทดลองก็สามารถที่จะ (1) รับรู้ว่าพวกเขามีจุลินทรีย์ในปากของเขา (2) เรียนรู้เกี่ยวกับแนวความคิดที่เรียบง่ายของการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (3) ตรวจสอบ ประสิทธิผลของกระบวนการของการแปรงฟันในการลดปริมาณของจุลินทรีย์ในช่องปากและอื่น ๆ (4) เข้าใจความสำคัญของการแปรงฟันในการป้องกันการเกิดโรคฟันผุ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่เกี่ยวข้องกับการทดลองวิทยาศาสตร์

กิจกรรมในโรงเรียนให้ความสำคัญข้ามหลักสูตรการเรียนสำหรับเด็กในระดับของความเข้าใจ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการพูดและการเขียนนิพจน์ ( charpack 2005

; นกกระทา 2006

; harlen 2007

) เมื่อดำเนินการในบรรยากาศของเสรีภาพในการสื่อสาร และเคารพความคิดเห็นของผู้อื่นพวกเขาก่อให้เกิดสถานการณ์ที่กระตุ้นให้เด็กพูด สื่อสาร พูดคุยความคิด บรรยาย อธิบาย และท้าทายผลการสังเกตและเรียนรู้ และใช้คำใหม่เพื่ออธิบายและแยกแยะความคิดของตนเอง ( harlen 2007

)

มันมีการแสดงว่ารูปแบบของจุลินทรีย์ที่สามารถสำรวจในปีแรก ของตนโดยใช้กิจกรรมการทดลอง ( มาฟราและลีมา 2009

;เบิร์น 2011

; มาฟรา 2012

) แท้จริงแล้ว ความอยากรู้อยากเห็นของเด็กประถม เป็นประตูสู่ประสิทธิภาพการเรียนรู้และความเข้าใจที่ดีขึ้นของจุลินทรีย์ ( โจนส์และเรือ 2006

) ในความเป็นจริง บางการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเด็กสามารถที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆเหล่านี้จากอายุต้น ( เบิร์นและคม 2549

; มาฟราและลีมา 2009

; เบิร์น 2011

) อย่างไรก็ตามปรากฎว่าหลังจากการศึกษาในเรื่องที่หลายๆคนยังคงรักษาทางเลือกและขัดแย้ง ความคิดเกี่ยวกับการกระทำของจุลินทรีย์ที่ดูเหมือนจะทนกว่าเวลา ความคิดมากมายเช่นจุลินทรีย์ คือรากฐานของกลุ่มข้อมูลที่ได้มาตลอดเวลา มักจะได้รับในครอบครัวและไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ( เบิร์นและคม 2549

)แนวคิดดังกล่าวบางครั้งทนมาก ทำให้ความคิดเปลี่ยนยาก และดังนั้นจึง ประกอบญาณวิทยาการเรียนรู้อุปสรรค ( bachelard 1938

; คาร์วัลโญ่ et al . 2004

; คาร์วัลโญ่และ Cl é ment 2007

; คาร์วัลโญ่ (

)

นอกจากนี้ ความเข้าใจในความคิดของ ' การกล้องจุลทรรศน์ ' เป็นเรื่องยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็ก