The ERI model is based on thepremis

The ERI model is based on the
premise that occupational status can provide an opportunity to increase self-esteem and self-efficacy, through effeective role performance, but that the psychological benefits associated
with work depend upon a reciprocal relationship in which the individual’s investment of
effort is matched by adequate rewards (money, esteem and career opportunities). Lack of reciprocity, i.e. jobs that entail high costs and low gains, leads to emotional distress and the arousal of the autonomic nervous system, which in turn has consequences for health, for instance, in highly demanding but insecure jobs. A distinction is drawn between extrinsic
effort (situational factors that make work more demanding) and intrinsic effort (personal


factors such as motivation) and it is claimed that a combination of both sources provides a
more sensitive indicator of stress than the model of Karasek, and Theorell (1990), which
only considers objective characteristics.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รุ่นเอเป็นไปตามสถานที่อาชีวสถานะสามารถให้โอกาสที่จะเพิ่มความนับถือตนเองและประสิทธิภาพในตนเอง ผ่าน effeective ประสิทธิภาพการทำงานบทบาท แต่ว่า ประโยชน์ทางจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการทำงานขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันซึ่งการลงทุนของแต่ละบุคคลของพยายามจับคู่ โดยรางวัลเพียงพอ (เงิน เห็นคุณค่า และ โอกาสด้านอาชีพ) ขาดเท่าไหร่ เช่นงานที่นำมาซึ่งต้นทุนสูงและกำไรที่ต่ำ นำไปสู่ความทุกข์ทางอารมณ์และความตื่นตัวของระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ในงานที่ไม่ปลอดภัยแต่เรียกร้องสูง แตกต่างระหว่างความผิดพลาดออกความพยายาม (สถานการณ์ปัจจัยที่ทำให้การทำงานเรียกร้องเพิ่มเติม) และความพยายามที่แท้จริง (ส่วนตัวปัจจัยเช่นแรงจูงใจ) และอ้างว่า การรวมกันของทั้งสองแหล่งมีความตัวบ่งชี้ความไวต่อความเครียดมากกว่ารุ่นของ Karasek และ Theorell (1990), ซึ่งพิจารณาลักษณะวัตถุประสงค์เท่า นั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รุ่น ERI อยู่บนพื้นฐานของ
สมมติฐานว่าสถานะการประกอบอาชีพสามารถให้โอกาสที่จะเพิ่มความนับถือตนเองและการรับรู้ความสามารถตนเองผ่านการปฏิบัติงานตามบทบาท effeective แต่ว่าผลประโยชน์ทางจิตวิทยาที่เกี่ยวข้อง
กับการทำงานขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในการลงทุนของแต่ละบุคคลของ
ความพยายาม จะถูกจับคู่โดยผลตอบแทนที่เพียงพอ (เงินความนับถือและโอกาสในการทำงาน) ขาดการแลกเปลี่ยนงาน IE ที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายสูงและกำไรต่ำนำไปสู่ความทุกข์ทางอารมณ์และความตื่นตัวของระบบประสาทอัตโนมัติซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพเช่นในขอเรียกร้อง แต่ไม่ปลอดภัยงาน ความแตกต่างวาดระหว่างภายนอก
พยายาม (ปัจจัยสถานการณ์ที่ทำให้การทำงานเรียกร้องมากขึ้น) และความพยายามที่แท้จริง (Personal ปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงจูงใจ) และจะมีการอ้างว่าการรวมกันของทั้งสองแหล่งมีตัวบ่งชี้ที่สำคัญมากของความเครียดกว่ารูปแบบของ Karasek และ Theorell (1990) ซึ่งจะพิจารณาลักษณะวัตถุประสงค์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยรูปแบบจะขึ้นอยู่กับ เอริสถานที่ตั้งที่สถานะอาชีพสามารถให้โอกาสในการเพิ่มการเห็นคุณค่าในตนเองและการรับรู้ความสามารถของตนเอง ผ่านบทบาท effeective แต่ผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องทางจิตวิทยากับงานขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ซึ่งการลงทุนของแต่ละคนความพยายามกับผลตอบแทนที่เพียงพอ ( เงิน เห็นคุณค่าและโอกาสของอาชีพ ) ขาดของการพึ่งพาอาศัยกัน เช่นงานที่ครอบคลุมต้นทุนสูงและต่ำที่เพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ความทุกข์ทางอารมณ์ และเร้าอารมณ์ของระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ขอเรียกร้อง แต่งานที่ไม่ปลอดภัย ความแตกต่างระหว่างความเป็น วาดความพยายาม ( สถานการณ์ปัจจัย ที่ทำให้งานมากขึ้นความต้องการที่แท้จริง ( ส่วนตัว ) และความพยายามปัจจัยเช่นแรงจูงใจ ) และจะอ้างว่า การรวมกันของทั้งสองแหล่งที่มาให้บริการอ่อนไหวบ่งชี้ความเครียดมากกว่ารูปแบบการส่ง และ theorell ( 1990 ) ซึ่งเพียงพิจารณาลักษณะวัตถุประสงค์