the authors propose a quality–fit r

the authors propose a quality–fit ratio to represent a consumer’s strength of preference for quality compared to his or her preference for product fit. they develop a game-theoretic duopoly model to analyze the competitive interaction of information personalization and product differentiation. they find that both firms have an incentive to personalize their products in equilibrium when the costs of providing quality and the costs of product misfits are low. Otherwise, as long as the effectiveness of product personalization reaches at least some threshold value, one firm personalizes while the other firm relies on standard product marketing. the resulting equilibrium is generally asymmetric in the sense that one firm’s personalization strategy does not necessarily guarantee a higher profit than the other firm, only a higher profit than the alternative of both firms not personalizing

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้เขียนเสนอคุณภาพ – พออัตราส่วนแสดงถึงความแข็งแรงของผู้บริโภคตามลักษณะคุณภาพเทียบกับของเขา หรือเธอชอบในผลิตภัณฑ์ให้พอดี พวกเขาพัฒนาเกม theoretic duopoly แบบจำลองการวิเคราะห์การแข่งขันโต้ตอบของข้อมูลส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์สร้างความแตกต่าง พวกเขาพบว่า บริษัททั้งสองมีสิ่งจูงใจการปรับผลิตภัณฑ์ของตนในสมดุลเมื่อต้นทุนของคุณภาพและต้นทุนของผลิตภัณฑ์ misfits ต่ำ มิฉะนั้น ตราบเท่าที่ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลถึงค่าขีดจำกัดบางอย่าง บริษัทหนึ่งเป็นส่วนตัวในขณะที่บริษัทอื่น ๆ อาศัยการตลาดผลิตภัณฑ์มาตรฐาน สมดุลผลลัพธ์เป็น asymmetric โดยทั่วไปในแง่ที่กลยุทธ์การตั้งค่าส่วนบุคคลของบริษัทหนึ่งไม่จำเป็นต้องรับประกันกำไรสูงกว่าอื่น ๆ ของบริษัท เฉพาะกำไรสูงกว่าทางเลือกของบริษัททั้งส่วนบุคคลไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้เขียนเสนออัตราส่วนที่มีคุณภาพเหมาะสมในการเป็นตัวแทนของความแข็งแรงของผู้บริโภคในการตั้งค่าสำหรับคุณภาพเมื่อเทียบกับการตั้งค่าของเขาหรือเธอพอดีสินค้า พวกเขาพัฒนารูปแบบเกม duopoly ทฤษฎีการวิเคราะห์การทำงานร่วมกันในการแข่งขันของส่วนบุคคลและข้อมูลที่แตกต่างของสินค้า พวกเขาพบว่าทั้งสอง บริษัท มีแรงจูงใจในการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ของตนในภาวะสมดุลเมื่อค่าใช้จ่ายของการให้บริการที่มีคุณภาพและค่าใช้จ่ายของฟิตสินค้าที่อยู่ในระดับต่ำ มิฉะนั้นตราบใดที่มีประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลอย่างน้อยถึงค่าเกณฑ์บางอย่างซึ่งเป็นหนึ่งใน บริษัท ที่เป็นส่วนตัวในขณะที่ บริษัท อื่น ๆ ที่ต้องอาศัยการตลาดผลิตภัณฑ์มาตรฐาน สมดุลที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปไม่สมดุลในแง่ที่ว่ากลยุทธ์ส่วนบุคคล บริษัท แห่งหนึ่งไม่จำเป็นต้องรับประกันผลกำไรที่สูงกว่า บริษัท อื่น ๆ เพียง แต่มีกำไรสูงกว่าทางเลือกของทั้งสอง บริษัท ไม่ได้ปรับแต่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้เขียนเสนอ–คุณภาพพอดีอัตราส่วนเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของความชอบของผู้บริโภค คุณภาพเมื่อเทียบกับความต้องการของเขาหรือเธอเพื่อให้พอดีกับสินค้า พวกเขาพัฒนาเกมทฤษฎีแบบโมเดลเพื่อวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์แข่งขันที่สุดของข้อมูลและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์พวกเขาพบว่าทั้งสอง บริษัท มีแรงจูงใจที่จะปรับผลิตภัณฑ์ของตนในสมดุลเมื่อค่าใช้จ่ายที่ให้คุณภาพและต้นทุนของ Misfits ผลิตภัณฑ์ต่ำ มิฉะนั้น ตราบใดที่ประสิทธิผลส่วนบุคคลผลิตภัณฑ์ถึงอย่างน้อยบางส่วนของค่า หนึ่งใน บริษัท ในขณะที่ บริษัท อื่น ๆ Personalizes อาศัยการตลาดผลิตภัณฑ์มาตรฐานให้สมดุลโดยทั่วไปไม่สมมาตรในความรู้สึกว่า กลยุทธ์ส่วนบุคคลของ บริษัท หนึ่งไม่จําเป็นต้องรับประกันกำไรสูงกว่า บริษัท อื่น ๆ , เพียงกำไรกว่าทางเลือกของทั้งสองบริษัทไม่ได้ปรับ