How Is Osteoarthritis of the Knee D

How Is Osteoarthritis of the Knee Diagnosed?
The diagnosis of knee osteoarthritis will begin with a physical exam by your doctor. Your doctor will also take your medical history and note any symptoms. Make sure to note what makes the pain worse or better to help your doctor determine if osteoarthritis, or something else, may be causing your pain. Also find out if anyone else in your family has arthritis. Your doctor may order additional testing, including:

X-rays, which can show bone and cartilage damage as well as the presence of bone spurs
magnetic resonance imaging (MRI) scans
MRI scans may be ordered when X-rays do not give a clear reason for joint pain or when the X-rays suggest that other types of joint tissue could be damaged. Doctors may use blood tests to rule out other conditions that could be causing the pain, such as rheumatoid arthritis, a different type of arthritis caused by a disorder in the immune system.

How Is Osteoarthritis of the Knee Treated?
The primary goals of treating osteoarthritis of the knee are to relieve the pain and return mobility. The treatment plan will typically include a combination of the following:

Weight loss. Losing even a small amount of weight, if needed, can significantly decrease knee pain from osteoarthritis.
Exercise. Strengthening the muscles around the knee makes the joint more stable and decreases pain. Stretching exercises help keep the knee joint mobile and flexible.
Pain relievers and anti-inflammatory drugs. This includes over-the-counter choices such as acetaminophen (Tylenol), ibuprofen (Advil, Motrin), or naproxen sodium (Aleve). Don't take over-the-counter medications for more than 10 days without checking with your doctor. Taking them for longer increases the chance of side effects. If over-the-counter medications don't provide relief, your doctor may give you a prescription anti-inflammatory drug or other medication to help ease the pain.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ว่าป่วยการวินิจฉัยการวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อมข้อเข่าจะเริ่มต้น ด้วยการสอบทางกายภาพโดยแพทย์ แพทย์ยังจะใช้ประวัติทางการแพทย์ของคุณ และทราบอาการใด ๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหมายเหตุอะไรที่ทำให้อาการปวดแย่ หรือดีกว่าเพื่อช่วยแพทย์กำหนดถ้าป่วย หรือสิ่งอื่น อาจทำให้เกิดอาการปวดของคุณ ยัง หาว่า คนอื่นในครอบครัวมีโรคไขข้ออักเสบ แพทย์อาจสั่งทดสอบเพิ่มเติม รวมทั้ง:รังสีเอกซ์ ซึ่งสามารถแสดงกระดูก และกระดูกอ่อนเสียหาย ตลอดจนสถานะของเดือยกระดูกสแกนการสั่นพ้องไฟฟ้าสนามแม่เหล็ก (mri)อาจจะสั่งสแกน MRI เมื่อรังสีเอกซ์ให้เหตุผลชัดเจนปวดหรือเมื่อรังสีเอกซ์ที่แนะนำว่า ชนิดอื่น ๆ ของเนื้อเยื่อร่วมอาจจะเสียหาย แพทย์อาจใช้ผลการตรวจเลือดเพื่อยกเลิกเงื่อนไขอื่น ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของอาการปวด เช่นยังคงอักเสบ ข้ออักเสบที่เกิดจากความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกันชนิดอื่นวิธีคือการถือว่าป่วยเป้าหมายหลักของการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมของข้อเข่าบรรเทาอาการปวด และกลับเคลื่อนไหวได้ วางแผนการรักษาโดยทั่วไปจะมีชุดต่อไปนี้: การสูญเสียน้ำหนัก สูญเสียแม้แต่เล็กน้อยน้ำหนัก ถ้าจำเป็น อย่างมีนัยสำคัญสามารถลดอาการปวดเข่าจากโรคข้อเข่าเสื่อมออกกำลังกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าทำให้ข้อต่ออย่างมั่นคงและลดปวด ออกกำลังกายยืดช่วยให้ข้อเข่าเคลื่อน และมีความยืดหยุ่นปวันปวดและยาแก้อักเสบ นี้มีตัวยา เช่น acetaminophen (Tylenol), ไอบูโปรเฟน (Advil, Motrin), นาโปรเซนโซเดียม (Aleve) ไม่ใช้ยายาเกิน 10 วัน โดยตรวจสอบกับแพทย์ของคุณ นำสำหรับยาวเพิ่มโอกาสของผลข้างเคียง ถ้ายายาไม่ได้ให้บรรเทา แพทย์อาจให้ยาแก้อักเสบหรือยาอื่น ๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมวินิจฉัย?
การวินิจฉัยของโรคข้อเข่าเสื่อมจะเริ่มต้นด้วยการตรวจร่างกายโดยแพทย์ของคุณ แพทย์ของคุณจะเอาประวัติทางการแพทย์ของคุณและทราบอาการใด ๆ ตรวจสอบให้แน่ใจที่จะต้องทราบสิ่งที่ทำให้ความเจ็บปวดที่เลวร้ายหรือดีกว่าที่จะช่วยให้แพทย์ของคุณตรวจสอบว่าโรคข้อเข่าเสื่อมหรือสิ่งอื่นอาจจะทำให้เกิดอาการปวดของคุณ นอกจากนี้ยังพบว่าคนอื่นในครอบครัวของคุณมีโรคข้ออักเสบ แพทย์ของคุณอาจมีคำสั่งการทดสอบเพิ่มเติมรวมถึงรังสีเอกซ์ซึ่งสามารถแสดงให้กระดูกและกระดูกอ่อนความเสียหายเช่นเดียวกับการปรากฏตัวของสเปอร์สกระดูกถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็ก (MRI) สแกนMRI สแกนอาจจะสั่งเมื่อรังสีเอกซ์ไม่ให้เหตุผลที่ชัดเจน สำหรับอาการปวดข้อหรือเมื่อรังสีเอกซ์ชี้ให้เห็นว่าประเภทอื่น ๆ ของเนื้อเยื่อร่วมกันอาจจะเสียหาย แพทย์อาจใช้การทดสอบเลือดจะออกกฎเงื่อนไขอื่น ๆ ที่อาจจะทำให้เกิดอาการปวดเช่นโรคไขข้ออักเสบชนิดที่แตกต่างกันของโรคข้ออักเสบที่เกิดจากความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกัน. วิธีการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้รับการรักษา? เป้าหมายหลักของการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ของเข่าเพื่อบรรเทาอาการปวดและการเคลื่อนไหวกลับ วางแผนการรักษามักจะรวมถึงการรวมกันดังต่อไปนี้: การสูญเสียน้ำหนัก การสูญเสียแม้เพียงเล็กน้อยของน้ำหนักถ้าจำเป็นอย่างมีนัยสำคัญสามารถลดอาการปวดเข่าจากโรคข้อเข่าเสื่อม. การออกกำลังกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบเข่าทำให้การร่วมกันมีเสถียรภาพมากขึ้นและลดความเจ็บปวด การออกกำลังกายยืดช่วยให้เข่าร่วมมือถือและมีความยืดหยุ่น. ปวดบรรเทาและยาต้านการอักเสบ ซึ่งรวมถึงทางเลือกมากกว่าที่เคาน์เตอร์เช่น acetaminophen (Tylenol), ibuprofen (แอ๊ด Motrin) หรือโซเดียม naproxen (Aleve) ไม่ได้ใช้ยามากกว่าที่เคาน์เตอร์มานานกว่า 10 วันโดยไม่มีการตรวจสอบกับแพทย์ของคุณ พาพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกต่อไปโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียง ถ้ายามากกว่าที่เคาน์เตอร์ไม่ได้ช่วยบรรเทาแพทย์ของคุณอาจทำให้คุณมียาต้านการอักเสบใบสั่งยาหรือยาอื่น ๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ว่าเป็นข้อเข่าเสื่อมการวินิจฉัย ?
การวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อมจะเริ่มต้นด้วยการตรวจร่างกายโดยแพทย์ แพทย์จะใช้ประวัติทางการแพทย์ของคุณ และสังเกตอาการ ให้แน่ใจว่าได้ทราบสิ่งที่ทำให้อาการแย่ลงหรือดีขึ้น เพื่อช่วยให้แพทย์ระบุว่า โรคข้อเข่าเสื่อม หรือสิ่งอื่นที่อาจจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดของคุณนอกจากนี้ยังพบว่าคนในครอบครัวของคุณมีโรคข้ออักเสบ แพทย์อาจสั่งสอบเพิ่มเติม ได้แก่ :

รังสีเอกซ์ซึ่งสามารถแสดงกระดูกและกระดูกอ่อนได้รับความเสียหาย รวมทั้งการปรากฏตัวของสเปอร์สกระดูก
การสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก ( MRI ) สแกน
สแกน MRI อาจจะสั่งเมื่อยุไม่ให้เหตุผลที่ชัดเจนสำหรับการปวดข้อหรือเมื่อยุว่าประเภทอื่น ๆของข้อต่อเนื้อเยื่อ อาจจะเสียหายได้แพทย์อาจใช้การทดสอบเลือดออกกฎเงื่อนไขอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการปวด เช่น ไขข้ออักเสบ ชนิดที่แตกต่างกันของโรคไขข้ออักเสบ เกิดจากความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกัน

ว่าเป็นข้อเข่าเสื่อมรักษาไหมคะ
เป้าหมายหลักของการรักษาข้อเข่าเสื่อม เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด และผลตอบแทนการการวางแผนการรักษาโดยทั่วไปจะประกอบด้วยการรวมกันของต่อไปนี้ :

การสูญเสียน้ำหนัก แม้สูญเสียเล็กน้อยของน้ำหนัก หากต้องการ สามารถลดอาการปวดเข่าจากข้อเข่าเสื่อม .
การออกกําลังกาย การเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบเข่า ทำให้ข้อมีเสถียรภาพมากขึ้น และลดความเจ็บปวด การออกกำลังกายยืดช่วยให้ข้อเข่าเคลื่อน และยืดหยุ่น
ยาแก้ปวดและแก้อักเสบ ยา นี้รวมถึงตัวเลือกที่เคาน์เตอร์เช่น acetaminophen ( ยาไทลินอล ) , ( ระงับความปวดโมตริน , ) หรือนาโปรเซนโซเดียม ( aleve ) ไม่ต้องใช้ยามากกว่าที่เคาน์เตอร์มากกว่า 10 วัน โดยไม่มีการตรวจสอบกับแพทย์ของคุณ ถ่ายได้นานเพิ่มโอกาสของผลข้างเคียง ถ้ามากกว่าที่เคาน์เตอร์ยา อย่าให้ชื้นแพทย์อาจให้ยาต้านการอักเสบยาหรือยาอื่น ๆเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด