Initially some in China might have

Initially some in China might have complained that Buddhist monasticism was a threat to the authority of the state, since the monks were autonomous.

However, Buddhist monks could provide magical or divination services for elite donors, which appealed to the Chinese desire to gain advantages (like prosperity and long life).

Also, Buddhism’s emphasis on ethics appealed to the Confucian predilection for moral instruction.

So the upshot of this is that by the 5th century CE Mahayana Buddhism had already become a fixture in Chinese society.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ครั้งแรกในประเทศจีนอาจได้แนะนำว่า พุทธชีวิตอารามวาสีเป็นภัยคุกคามต่อหน่วยงานของรัฐ เนื่องจากพระสงฆ์ได้ปกครองตนเองอย่างไรก็ตาม พระภิกษุสงฆ์สามารถให้ขลัง หรือบริการทำนายผู้บริจาคยอด การอุทธรณ์จากจีนต้องการที่จะได้รับประโยชน์ (เช่นความเจริญรุ่งเรืองและอายุยืน)ยัง เน้นจริยธรรมของศาสนาพุทธร้องให้ predilection Confucian การเรียนการสอนคุณธรรมดังนั้น ผลที่สุดนี้คือ ว่า โดยศตวรรษ 5 พุทธศาสนามหายาน CE ได้แล้วกลายเป็น การแข่งในสังคมจีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขั้นต้นบางอย่างในประเทศจีนอาจจะบ่นว่าพระที่นับถือศาสนาพุทธเป็นภัยคุกคามต่ออำนาจของรัฐเนื่องจากพระสงฆ์เป็นอิสระ. แต่พระสงฆ์สามารถให้บริการที่มีมนต์ขลังหรือดวงชะตาสำหรับผู้บริจาคที่ยอดเยี่ยมซึ่งได้ยื่นอุทธรณ์ต่อความปรารถนาของจีนที่จะได้รับประโยชน์ ( เช่นเดียวกับความเจริญรุ่งเรืองและยาวนาน). นอกจากนี้ยังมีความสำคัญของพระพุทธศาสนาจริยธรรมหันไปชอบขงจื้อการเรียนการสอนศีลธรรม. ดังนั้นผลที่สุดของเรื่องนี้คือโดยศตวรรษที่ 5 ซีอีพุทธศาสนามหายานได้อยู่แล้วกลายเป็นประจำในสังคมจีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เริ่มต้นบางอย่างในประเทศจีนอาจจะบ่นว่าพุทธชีวิตอารามวาสีเป็นคุกคามต่ออำนาจของรัฐ ตั้งแต่พระอิสระ

แต่พระสงฆ์จะให้ขลัง หรือการบริการ สำหรับผู้บริจาค Elite ซึ่งหันไปประสงค์จีนเพื่อประโยชน์ ( เช่นความเจริญและชีวิตที่ยาวนาน )

ยังพุทธศาสนา เน้นจริยธรรมยื่นอุทธรณ์ predilection สำหรับการจัดการเรียนการสอนจริยธรรมแบบขงจื๊อ

ดังนั้นผลที่สุดของเรื่องนี้ก็คือว่า โดยศตวรรษที่ CE มหายานได้กลายเป็นการแข่ง
ในสังคมจีน