หลวงเทพเสนา เป็นชื่อเจ้าเมืองกร


หลวงเทพเสนา เป็นชื่อเจ้าเมืองกระบี่คนแรก ไม่มีใครทราบประวัติโดยละเอียดมากนักจากการสอบถามบรรดาลูกหลานที่ยังมีชีวิต อยู่ ทราบว่าท่านเป็นชาวนครศรีธรรมราช ติดตามพระปลัดเมืองตั้งเพนียดจับช้างที่บ้านกาไส แล้วภายหลังได้เป็นผู้นำชุมชนและเจ้าเมืองในที่สุด

ประวัติ
สมัยนั้นพระยานครศรีธรรมราช ได้ส่ง "พ่อหนูใหญ่" ไปรั้งเมืองไทรบุรี และส่งพ่อหนูเล็ก (เทพ) ไปช่วยพระปลัดเมืองตั้งเพนียดจับช้างในป่า เพื่อจับช้างไปฝึกใช้งานและส่งช้างไปขายต่างประเทศ พ่อหนูเล็ก(เทพ) เป็นคนงานเอาการ มีความกล้าหาญ อดทน อาสารับใช้งานราชการโดยมิเห็นแก่เหนื่อยยาก จนในที่สุดเจ้าพระยานครให้เป็นหัวหน้าชุมชน ดูแลผู้ในเขตแขวงกาไส คือบริเวณจับช้างนั่นเอง เพราะมีผู้คนอพยพติดตามเข้าไปหักร้างถางพงเป็นที่ทำกินมากขึ้น เมื่อยกฐานะชุมชนเป็นแขวงเมืองปกาไส ก็ให้ "พ่อหนูเล็ก" (เทพ) เป็นผู้ดูแล พร้อมให้บรรดาศักดิ์เป็นที่ "หลวงเทพเสนา" ต่อมาได้มีการย้ายชุมชนมาตั้งที่บริเวณปากน้ำกระบี่ใหญ่ และยกฐานะแขวงปกาไสเป็นเมืองกระบี่ โดยให้หลวงเทพเสนาเป็นเจ้าเมืองคนแรก
ส่วนพ่อหนูใหญ่ซึ่งไปรั้งเมืองไทรบุรี เกิดรบกับพวกไทรบุรีซึ่งเป็นกบฎและถูกฆ่าตายฝ่ายกบฎได้มาสืบความถึงเมือง นครศรีธรรมราชว่า พ่อหนูใหญ่มีญาติพี่น้องอยู่ใดอีก จะได้หาทางกำจัดเสียเพื่อตัดกำลังจะไม่มีใครแก้แค้นในภายหลัง ก็ทราบว่ามีหลวงเทพเสนาซึ่งเป็นน้องชายได้เป็นเจ้าเมืองกระบี่ จึงส่งสายสืบชื่อโต๊ะหยีเพ็งเข้ามาเพื่อทำการหาโอกาสกำจัดหลวงเทพเสนาเสีย ซึ่งในที่สุดน้องสมุนของโต๊ะหยีเพ็งได้ลอบเข้ามาทำร้าย หลวงเทพเสนาจนเสียชีวิตในที่สุด

เชื้อสายหรือลูกหลานเทพเสนาเล่าว่าเดิมนั้นก็เป็นสายสกุล "ณ นคร" แต่บุตรหลวงเทพเสนาเป็นผู้หญิงทั้งหมด ๓ คน จึงไปใช้นามสกุลตามสามีทั้งสิ้น

(๑) แม่ผึ้ง สามีชื่อ พระอิศรา
(๒) แม่คลิ้ง สามีชื่อ หมื่นหาญดงดอน
(๓) แม่หนูเอียด สามีชื่อ ขุนภูมิ

ผลงานของหลวงเทพเสนา
งานของหลวงเทพเสนา เป็นงานรุานบุกเบิกเริ่มตั้งแต่ติดตามพระปลัดเมืองนครศรีธรรมราชมาตั้ง เพนียดจับช้างที่ปกาไส รวบรวมผู้คนที่มาทำกินให้เป็นปึกแผ่น ดูแลความสงบเรียบร้อยของกลุ่มคนเหล่านั้น ให้ทำมาหากินกันอย่างสงบสุข จนกระทั่งย้ายที่ทำการแขวงมาตั้งที่ปากน้ำกระบี่ใหญ่แล้วเริ่มการพัฒนา

(๑) ยุบแขวงปากลาวมาตั้งในที่ใหม่บ้านอ่าวลึก
(๒) ยกชุมชนเกาะลันตาขึ้นเป็นอำเภอ
(๓) ยุบแขวงคลองพนมาตั้งใหม่ที่บ้านคลองท่อมซึ่งการคมนาคมสะดวกกว่า

การพัฒนาบ้านเมืองในระยะการแรกๆ ยากลำบากมาก เพราะเมืองกระบี่เป็นที่กันดาร เต็มไปด้วยป่าดง สัตว์ร้ายชุกชุม การติดต่อกับภายนอกได้โดยทางเรือเท่านั้น ไม่มีถนนหนทาง ซ้ำยังขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ ทุกคนจะต้องช่วยตัวเองทั้งสิ้น การพัฒนาบ้านเมืองจึงเป็นไปอย่างล่าช้า แต่ทางการก็ให้อำนาจเด็ดขาดในการบริหารงาน คือ
(๑) ให้อำนาจในการพิจารณาคดีได้ทั้งแพ่งและอาญา
(๒) ให้อำนาจออกกฎหมายเกณฑ์แรงงานราษฎรได้ ๑๕ วัน
(๓) ให้อำนาจในการเกณฑ์ชายฉกรรจ์เป็นทหาร
(๔) ให้อำนาจในการออกกฎการเก็บภาษีบ่อนเบี้ย
(๕) ให้อำนาจในการบริหารงานบุคคลในส่วนราชการ เช่น การคัดเลือก บรรจุแต่งตั้ง


งานที่ทำในระยะแรกของท่าน คือ

(๑) สร้างที่ทำการขึ้นที่บริเวณบ้านหินขวาง (ตลาดเก่า) คือสถานที่ราชการต่างๆ ที่จำเป็น
(๒) สร้างความเข้าใจกับประชาชน เพื่อความสะดวกในการปกครองดูแลลดคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้น้อยลง การบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ขึ้นกับลูกศาล ลูกขุนศาลสอบสวนคดีความขึ้นตรงต่อเจ้าเมือง
(๓) งานพัฒนาท้องถิ่น ให้ตัดถนนสายสำคุญ ๆ ๓ สายคือ สายบ้านกระบี่ใหญ่ - ทับปริก สายบ้านกระบี่ใหญ่ - บ้านหนองกก สายบ้านกระบี่ใหญ่ - บ้านปากน้ำ ให้ฝ่ายโยธาขึ้นตรงต่อฝ่ายการเกณฑ์แรงงาน
(๔) จัดทำท่าเรือ เพื่อความสะดวกในการไปมาและการขนถ่ายสินค้า
(๕) สนับสนุนให้บุกเบิกที่รกร้างว่างเปล่าลงเป็นที่ทำนา แยะนำให้ชาวบ้านปลูกผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ หลวงเทพเสนาดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองอยู่ได้ไม่นาน ก็เสียชีวิตเพราะถูกมาตกรรมดังกล่าวมาแล้ว ยังทำงานต่างๆ ไม่สำเร็จตามเป้าหมายมากนัก แต่ก็นับว่าท่านเป็นบุคคลสำคัญในรุ่นบุกเบิกเมืองกระบี่ ที่สมควรชาวกระบี่รุ่นหลังควรจะรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านตลอดไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

??
? หลวงเทพเสนาเป็นชื่อเจ้าเมืองกระบี่คนแรก อยู่ทราบว่าท่านเป็นชาวนครศรีธรรมราช ได้ส่ง "พ่อหนูใหญ่" ไปรั้งเมืองไทรบุรีและส่งพ่อหนูเล็ก (เทพ) พ่อหนูเล็ก (เทพ) เป็นคนงานเอาการมีความกล้าหาญอดทน ดูแลผู้ในเขตแขวงกาไสคือบริเวณจับช้างนั่นเอง ก็ให้ "พ่อหนูเล็ก" (เทพ) เป็นผู้ดูแลพร้อมให้บรรดาศักดิ์เป็นที่ "หลวงเทพเสนา" และยกฐานะแขวงปกาไสเป็นเมืองกระบี่ นครศรีธรรมราชว่าพ่อหนูใหญ่มีญาติพี่น้องอยู่ใดอีก "ณ นคร" 3 คนจึงไปใช้นามสกุลตามสามีทั้งสิ้น(1) แม่ผึ้งสามีชื่อพระอิศรา(2) แม่คลิ้งสามีชื่อหมื่นหาญดงดอน(3) แม่หนูเอียดสามีชื่อ เพนียดจับช้างที่ปกาไส ให้ทำมาหากินกันอย่างสงบสุข ยกชุมชนเกาะลันตาขึ้นเป็นอำเภอ(3) ยากลำบากมากเพราะเมืองกระบี่เป็นที่กันดารเต็มไปด้วยป่าดงสัตว์ร้ายชุกชุม ไม่มีถนนหนทางซ้ำยังขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ทุกคนจะต้องช่วยตัวเองทั้งสิ้น คือ(1) 15 วัน(3) เช่นการคัดเลือก คือ(1) (ตลาดเก่า) คือสถานที่ราชการต่างๆที่จำเป็น(2) สร้างความเข้าใจกับประชาชน ที่เกิดขึ้นให้น้อยลง งานพัฒนาท้องถิ่นให้ตัดถนนสายสำคุญ ๆ 3 สายคือสายบ้านกระบี่ใหญ่ - ทับปริกสายบ้านกระบี่ใหญ่ - บ้านหนองกกสายบ้านกระบี่ใหญ่ - บ้านปากน้ำ จัดทำท่าเรือ แยะนำให้ชาวบ้านปลูกผักสวนครัวเลี้ยงสัตว์ ยังทำงานต่างๆไม่สำเร็จตามเป้าหมายมากนัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

  
 หลวงเทพเสนาเป็นชื่อเจ้าเมืองกระบี่คนแรกไม่มีใครทราบประวัติโดยละเอียดมากนักจากการสอบถามบรรดาลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ทราบว่าท่านเป็นชาวนครศรีธรรมราชติดตามพระปลัดเมืองตั้งเพนียดจับช้างที่บ้านกาไส

ประวัติสมัยนั้นพระยานครศรีธรรมราชได้ส่ง " พ่อหนูใหญ่ " ไปรั้งเมืองไทรบุรีและส่งพ่อหนูเล็ก ( เทพ ) ไปช่วยพระปลัดเมืองตั้งเพนียดจับช้างในป่าเพื่อจับช้างไปฝึกใช้งานและส่งช้างไปขายต่างประเทศพ่อหนูเล็ก ( เทพ )มีความกล้าหาญอดทนอาสารับใช้งานราชการโดยมิเห็นแก่เหนื่อยยากจนในที่สุดเจ้าพระยานครให้เป็นหัวหน้าชุมชนดูแลผู้ในเขตแขวงกาไสคือบริเวณจับช้างนั่นเองเมื่อยกฐานะชุมชนเป็นแขวงเมืองปกาไสก็ให้ " พ่อหนูเล็ก " ( เทพ ) เป็นผู้ดูแลพร้อมให้บรรดาศักดิ์เป็นที่ " หลวงเทพเสนา " ต่อมาได้มีการย้ายชุมชนมาตั้งที่บริเวณปากน้ำกระบี่ใหญ่และยกฐานะแขวงปกาไสเป็นเมืองกระบี่ส่วนพ่อหนูใหญ่ซึ่งไปรั้งเมืองไทรบุรีเกิดรบกับพวกไทรบุรีซึ่งเป็นกบฎและถูกฆ่าตายฝ่ายกบฎได้มาสืบความถึงเมืองนครศรีธรรมราชว่าพ่อหนูใหญ่มีญาติพี่น้องอยู่ใดอีกก็ทราบว่ามีหลวงเทพเสนาซึ่งเป็นน้องชายได้เป็นเจ้าเมืองกระบี่จึงส่งสายสืบชื่อโต๊ะหยีเพ็งเข้ามาเพื่อทำการหาโอกาสกำจัดหลวงเทพเสนาเสียซึ่งในที่สุดน้องสมุนของโต๊ะหยีเพ็งได้ลอบเข้ามาทำร้าย
เชื้อสายหรือลูกหลานเทพเสนาเล่าว่าเดิมนั้นก็เป็นสายสกุล " ณนคร " แต่บุตรหลวงเทพเสนาเป็นผู้หญิงทั้งหมดคนจึงไปใช้นามสกุลตามสามีทั้งสิ้นล่ะ

( ๑ ) แม่ผึ้งสามีชื่อพระอิศรา
( ๒ ) แม่คลิ้งสามีชื่อหมื่นหาญดงดอน
( กัน ) แม่หนูเอียดสามีชื่อขุนภูมิ


ผลงานของหลวงเทพเสนางานของหลวงเทพเสนาเป็นงานรุานบุกเบิกเริ่มตั้งแต่ติดตามพระปลัดเมืองนครศรีธรรมราชมาตั้งเพนียดจับช้างที่ปกาไสรวบรวมผู้คนที่มาทำกินให้เป็นปึกแผ่นดูแลความสงบเรียบร้อยของกลุ่มคนเหล่านั้นจนกระทั่งย้ายที่ทำการแขวงมาตั้งที่ปากน้ำกระบี่ใหญ่แล้วเริ่มการพัฒนา
( ๑ ) ยุบแขวงปากลาวมาตั้งในที่ใหม่บ้านอ่าวลึก

( ๒ ) ยกชุมชนเกาะลันตาขึ้นเป็นอำเภอยุบแขวงคลองพนมาตั้งใหม่ที่บ้านคลองท่อมซึ่งการคมนาคมสะดวกกว่า


( ไป )การพัฒนาบ้านเมืองในระยะการแรกๆยากลำบากมากเพราะเมืองกระบี่เป็นที่กันดารเต็มไปด้วยป่าดงสัตว์ร้ายชุกชุมการติดต่อกับภายนอกได้โดยทางเรือเท่านั้นไม่มีถนนหนทางซ้ำยังขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์การพัฒนาบ้านเมืองจึงเป็นไปอย่างล่าช้าแต่ทางการก็ให้อำนาจเด็ดขาดในการบริหารงานความ