Strategy-Making processThe first st

Strategy-Making process
The first step in the strategy-making process is determining whether a strategy needs to be changed to sustain a competitive advantage. Because uncertainty and competitive inertia make this difficult to determine, managers can improve the speed and accuracy of this step by looking for differences between top management's intended strategy and the strategy actually implemented by lower-level managers (i.e., looking for strategic dissonance). The second step is to conduct a situational analysis that examines internal strengths and weaknesses (distinctive competencies and core capabilities), as well as external threats and opportunities (environmental scanning, strategic groups, and shadow-strategy task forces). In the third step of the strategy-making process, strategic reference point theory suggests that when companies are performing better than their strategic reference points, top management will typically choose a risk-averse strategy. When performance is below strategic reference points, it is more likely to choose risk-seeking strategies. Importantly, however, managers can influence the choice of strategic alternatives by actively changing and adjusting the strategic reference points they use to judge strategic performance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระบวนการทำกลยุทธ์ขั้นตอนแรกของการทำกลยุทธ์คือการกำหนดว่า กลยุทธ์ต้องเปลี่ยนเพื่อให้ได้เปรียบเชิงแข่งขัน เนื่องจากความไม่แน่นอนและการแข่งขันแรงเฉื่อยทำให้นี้ยากที่จะตรวจสอบ ผู้จัดการสามารถปรับปรุงความเร็วและความถูกต้องของขั้นตอนนี้ โดยหาความแตกต่างระหว่างกลยุทธ์ของผู้บริหารระดับสูงและกลยุทธ์ที่นำมาใช้จริง โดยผู้บริหารระดับล่าง (เช่น มองหากลยุทธ์ dissonance) ขั้นตอนสองคือการ วิเคราะห์การเมืองไทยที่ตรวจสอบภายในจุดแข็งและจุดอ่อน (ความสามารถที่โดดเด่นและความสามารถหลัก), (สิ่งแวดล้อมการสแกน กลุ่มกลยุทธ์ และกองงานกลยุทธ์เงา) โอกาสและภัยคุกคามจากภายนอก ในขั้นตอนสามของการทำกลยุทธ์ ทฤษฎีจุดอ้างอิงกลยุทธ์ชี้ให้เห็นว่า บริษัทมีประสิทธิภาพดีกว่าของจุดอ้างอิงเชิงกลยุทธ์ ผู้บริหารระดับสูงจะปกติเมื่อกลยุทธ์ความเสี่ยง averse เมื่อประสิทธิภาพการทำงานนี้จุดอ้างอิงเชิงกลยุทธ์ มีแนวโน้มที่จะเลือกกลยุทธ์การแสวงหาความเสี่ยง สำคัญ อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการสามารถมีอิทธิพลต่อทางเลือกทางเลือกเชิงกลยุทธ์ โดยกำลังเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงจุดอ้างอิงกลยุทธ์ที่เขาใช้ตัดสินประสิทธิภาพการทำงานเชิงกลยุทธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระบวนการกลยุทธ์การทำ
ขั้นตอนแรกในขั้นตอนการทำกลยุทธ์คือการกำหนดกลยุทธ์ว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะความไม่แน่นอนและแรงเฉื่อยในการแข่งขันนี้ทำให้ยากที่จะกำหนดผู้จัดการสามารถปรับปรุงความเร็วและความถูกต้องของขั้นตอนนี้โดยการมองหากลยุทธ์ความแตกต่างระหว่างความตั้งใจที่ผู้บริหารระดับสูงและกลยุทธ์การใช้งานจริงโดยผู้จัดการในระดับต่ำกว่า (เช่นมองหาไม่ลงรอยกันยุทธศาสตร์) ขั้นตอนที่สองคือการดำเนินการวิเคราะห์สถานการณ์ที่ตรวจสอบภายในจุดแข็งและจุดอ่อน (ความสามารถที่โดดเด่นและความสามารถหลัก) เช่นเดียวกับภัยคุกคามจากภายนอกและโอกาส (สแกนสิ่งแวดล้อมกลุ่มยุทธศาสตร์และกองกำลังงานเงากลยุทธ์) ในขั้นตอนที่สามของขั้นตอนการทำกลยุทธ์จุดอ้างอิงทางยุทธศาสตร์ทฤษฎีแสดงให้เห็นว่าเมื่อ บริษัท มีประสิทธิภาพดีกว่าจุดอ้างอิงเชิงกลยุทธ์ของพวกเขา, ผู้บริหารระดับสูงโดยทั่วไปจะเลือกกลยุทธ์ไม่ชอบความเสี่ยง เมื่อผลการดำเนินงานต่ำกว่าจุดอ้างอิงทางยุทธศาสตร์ก็มีแนวโน้มที่จะเลือกกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงที่กำลังมองหา อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือผู้จัดการที่สามารถมีอิทธิพลต่อการเลือกใช้กลยุทธ์ทางเลือกด้วยการเปลี่ยนแปลงและการปรับจุดอ้างอิงเชิงกลยุทธ์ที่พวกเขาใช้ในการตัดสินผลการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลยุทธ์กระบวนการ
ก้าวแรกในกลยุทธ์กระบวนการทำให้เป็นการกำหนดกลยุทธ์ว่า จะต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะความไม่แน่นอนและความเฉื่อยแข่งขันทำให้ยากที่จะระบุได้ผู้จัดการสามารถปรับปรุงความเร็วและความถูกต้องของขั้นตอนนี้โดยการค้นหาความแตกต่างระหว่างการจัดการด้านบนของวัตถุประสงค์กลยุทธ์และกลยุทธ์จริงดำเนินการโดยผู้จัดการระดับล่าง ( เช่น มองหาความไม่สอดคล้องกันกลยุทธ์ ) ขั้นตอนที่สองคือการ ทำการวิเคราะห์สถานการณ์ที่ตรวจสอบจุดแข็งและจุดอ่อนภายใน ( สมรรถนะหลักที่โดดเด่นและความสามารถ )รวมทั้งภัยคุกคามภายนอกและโอกาส ( สิ่งแวดล้อมสแกน , ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์กลุ่มเงางานบังคับ ) ในขั้นตอนที่สามของกระบวนการ กลยุทธ์ ทฤษฎีอ้างอิง เชิงกลยุทธ์ แสดงให้เห็นว่า เมื่อ บริษัท มีการแสดงที่ดีกว่าจุดอ้างอิงเชิงกลยุทธ์ของพวกเขา ผู้บริหารมักจะเลือกกลยุทธ์การรังเกียจความเสี่ยงเมื่อการแสดงด้านล่างจุดอ้างอิงกลยุทธ์ มันมีแนวโน้มที่จะเลือกเสี่ยงหากลยุทธ์ ที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการสามารถมีอิทธิพลต่อการเลือกทางเลือกเชิงกลยุทธ์โดยใช้การเปลี่ยนแปลงและการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จุดอ้างอิงที่ใช้ตัดสินประสิทธิภาพเชิงกลยุทธ์