พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ในปลาย พ.ศ. 2489 ขณะที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษา ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกวาระหนึ่งหลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว เพลงพระราชนิพนธ์ชะตาชีวิต เป็นเพลงเดียวที่ทรงพระราชนิพนธ์ในแบบบลูส์แท้ๆ โดยไม่มีสเกลอื่นปะปนเลย ต่อมาเมื่อบรรเลงในวงบิกแบนด์ (Big Band) จึงเล่นให้เร็วและกระชับขึ้นโดยบรรเลงเป็นบลูส์สวิง คือนำเอาจังหวะสวิงของแจสมาผสมกับบลูส์ เนื้อร้องของเพลงนี้ในภาษาไทยและภาษาอังกฤษต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในชั้นต้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษขึ้นก่อน โดยใช้ชื่อว่า H.M. Blues ซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าหมายถึง His Majesty’s Blues แต่แท้จริงหมายถึง Hungry’s Men’s Blues เพราะเหตุว่าในงานรื่นเริงที่ทรงเชิญข้าราชบริพาร นักเรียนไทย ไปร่วมงานเป็นการส่วนพระองค์นั้น ทรงบรรเลงเพลงเป็นเวลาถึงครึ่งคืนโดยมิได้หยุดเพื่อเสวยพระกระยาหารเลย ในขณะที่ผู้ได้รับเชิญทุกคนได้รับพระราชทานอาหารอิ่มหนำสำราญ เนื้อหาในภาษาอังกฤษจึงแสดงอารมณ์ขันและแฝงความสนุกสนานต่างกับท่วงทำนองของเพลงบลูส์ ส่วนเนื้อร้องภาษาไทยซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้ ศ.ดร. ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์นั้น ศ.ดร. ประเสริฐ เล่าว่า ด้วยเหตุที่ไม่ทราบเนื้อร้องภาษาอังกฤษเพราะโน้ตเพลงและเนื้อร้องภาษาอังกฤษอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื้อร้องจึงมีความหมายแตกต่างกันอย่างมาก ศ.ดร. ประเสริฐประพันธ์เนื้อร้องภาษาไทยโดยใช้อารมณ์แบบเพลงบลูส์เป็นหลัก เนื้อร้องพรรณนาถึงความทุกข์ของคนซึ่งยากไร้ทุกสิ่งทุกอย่าง สีสันของทำนองเพลงในภาษาไทยจึงหม่นหมอง เศร้า และเดียวดาย แต่ในตอนท้ายยังได้สอดแทรกความหวังว่าสิ่งที่ดีอาจเกิดขึ้นต่อไปได้ ซึ่งก็เป็นไปตามหลักพระราชประสงค์ คือตอนท้ายต้องสะท้อนปรัชญาชีวิตที่ให้มีความหวังอยู่ด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.kroobannok.com/4355ดีย