Petroleum-based fuels meet the majo

Petroleum-based fuels meet the majority of the world energy
needs, but are finite and not sustainable. Due to the depletion of
petroleum reserves and increase in environmental concerns, new
alternative sources for petroleum-based fuel have been widely
studied [1]. Biodiesel, consisting of a fatty acid methyl ester produced
by transesterification of vegetable oils with methanol, is a
promising alternative to fossil diesel fuel, because its renewable
nature is effective in easing down emissions of greenhouse gas,
unburned hydrocarbons, particulate matter and sulphur dioxide
[1]. It provides a feasible solution for the twin crisis of fossil fuel
depletion and environmental degradation. Biodiesel only refers to
100 percent pure fuel that meets the specific standards given by
the American Society of Testing and Materials (ASTM) International
(D6751) [2]. It is superior to fossil diesel fuel in terms of
cetane number, flash point and lubricity characteristics, without
any significant difference in heat of combustion of these fuels
[1]. Sharmer (1993) estimated that for each kg of pure biodiesel
blended together with a fossil fuel, 3.2 kg of CO2 production could
be reduced in comparison with fossil fuel alone [3]. Biodiesel can
also be blended with conventional fossil diesel fuel and used.
Blends with 2–30% fossil diesel fuel do not require any modification
in the car engine [4].

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เชื้อเพลิงปิโตรเลียมที่ใช้ตอบสนองความต้องการส่วนใหญ่ของพลังงานโลกความต้องการ แต่จะมี จำกัด และไม่ยั่งยืน
เพราะการสูญเสียของสำรองปิโตรเลียมและการเพิ่มขึ้นของความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมใหม่แหล่งทางเลือกเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียมได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางศึกษา[1] ไบโอดีเซลซึ่งประกอบด้วยกรดไขมันเมทิลเอสเตอร์ที่ผลิตโดย transesterification ของน้ำมันพืชที่มีเมทานอลเป็นทางเลือกที่มีแนวโน้มที่จะฟอสซิลน้ำมันดีเซลเพราะทดแทนธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาลงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไฮโดรคาร์บอนเผาไหม้อนุภาคและก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์[ 1] มันมีวิธีการแก้ปัญหาเป็นไปได้สำหรับวิกฤตฝาแฝดของเชื้อเพลิงฟอสซิลการสูญเสียและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ไบโอดีเซลเพียง แต่หมายถึงร้อยละ100 น้ำมันเชื้อเพลิงบริสุทธิ์ที่ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดโดยเฉพาะสังคมอเมริกันของการทดสอบและวัสดุ(ASTM) นานาชาติ(D6751) [2] มันจะดีกว่าฟอสซิลน้ำมันดีเซลในแง่ของค่าซีเทนจุดวาบไฟและลักษณะการหล่อลื่นโดยไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญใดๆ ในความร้อนจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเหล่านี้[1] Sharmer (1993) คาดว่าในแต่ละกิโลกรัมของไบโอดีเซลบริสุทธิ์ผสมร่วมกับเชื้อเพลิงฟอสซิล3.2 กก. ผลิต CO2 อาจจะลดลงเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิลคนเดียว[3] ไบโอดีเซลสามารถยังสามารถผสมกับฟอสซิลน้ำมันดีเซลธรรมดาและใช้. ผสมกับ 2-30% ฟอสซิลน้ำมันดีเซลไม่จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนใด ๆในเครื่องยนต์รถ [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใช้เชื้อเพลิงปิโตรเลียมพบส่วนใหญ่ของโลกพลังงาน
ต้องการ แต่แน่นอนและไม่ยั่งยืน เนื่องจากมีการลดลงของปริมาณสำรองปิโตรเลียม และเพิ่มความกังวล
ในสิ่งแวดล้อม แหล่งปิโตรเลียมเชื้อเพลิงทางเลือกใหม่

เรียนอยู่ได้รับอย่างกว้างขวาง [ 1 ] ไบโอดีเซลประกอบด้วยกรดไขมันเมทิลเอสเทอร์จากน้ำมันพืชที่ผลิตโดยกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่น

ด้วยเมทานอลคือสัญญาทางเลือก ฟอสซิล เชื้อเพลิงดีเซล เพราะธรรมชาติทดแทน
ของมันมีประสิทธิภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง
เผาไหม้ , ไฮโดรคาร์บอน ฝุ่นและแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์
[ 1 ] มันมีความเป็นไปได้ที่วิกฤตแฝดร่อยหรอเชื้อเพลิง
ฟอสซิลและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม . ไบโอดีเซลเท่านั้นหมายถึง
100 เปอร์เซ็นต์บริสุทธิ์น้ำมันที่ตรงตามมาตรฐานกำหนดโดยเฉพาะ
สังคมอเมริกันของการทดสอบและวัสดุ ( ASTM ) ระหว่างประเทศ
( d6751 ) [ 2 ] มันจะดีกว่า ฟอสซิล เชื้อเพลิงดีเซลในแง่ของ
ซีเทนนัมเบอร์ จุดวาบไฟ และลักษณะการหล่อลื่น ไม่มีความแตกต่างใด ๆใน
ความร้อนจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง
เหล่านี้ [ 1 ] sharmer ( 1993 ) ประมาณว่า แต่ละกิโลกรัมของเพียวไบโอดีเซล
ผสมด้วยกันกับเชื้อเพลิงฟอสซิล , 3.2 กก. การผลิต CO2 อาจ
จะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์คนเดียว [ 3 ] ไบโอดีเซลสามารถ
ยังสามารถผสมกับน้ำมันดีเซลปกติฟอสซิลและใช้ .
2 – 30 % ผสมกับฟอสซิล เชื้อเพลิงดีเซล ไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ใด ๆ ในรถ
[ 4 ]