Background. The measurement of gase

Background. The measurement of gaseous compounds in exhaled breath, such as volatile organic compounds (VOCs), may provide a noninvasive technique for assessing lung pathology, some of which are associated with lung cancer (LC). VOC analysis is laborious while electronic noses are emerging as rapid detectors of an array of gaseous markers recognizing a characteristic “smellprint.” Objectives. To conduct a pilot breath analysis using an electronic nose to test the hypothesis that there would be significant differences in the smellprint patterns between newly diagnosed LC patients and control subjects. Methods. Eighty-nine subjects were recruited, consisting of nonsmokers (33), ex-smokers (11), smokers (18), patients with respiratory disorders (11), and LC patients (16). Subjects exhaled into gas-impermeable bags for offline eNose measurements with a six-channel electronic detection module ENS Mk 3 (E-Nose Pty, Sydney). The time-response curve from each channel was evaluated for four parameters: rate to peak height, peak height, rate to recovery, and area under the curve. Results. The results showed significant differences between lung cancer and control groups when measuring peak height in channel 1 (p = 0.025); rate to recovery in channel 3 (p = 0.045); and rate to peak height in channel 3 (p = 0.001). Conclusion. The results show promise in that there were significant differences in the smellprint of subjects with lung cancer compared with control subjects. Further standardization of the technique will assist in improving the sensitivity and specificity of the method, with potential to use the analysis in a number of diseases where characteristic signatures occur in the breath.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง การวัด exhaled หายใจ เช่นสารอินทรีย์ระเหย (VOCs), สารเป็นต้นอาจมีเทคนิค noninvasive สำหรับประเมินพยาธิปอด ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับมะเร็งปอด (LC) วิเคราะห์ VOC จะลำบากขณะ noses อิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นใหม่เป็นเครื่องตรวจจับอย่างรวดเร็วของแถวของเครื่องหมายเป็นต้นจดจำลักษณะ "smellprint" วัตถุประสงค์ การวิเคราะห์นำร่องลมหายใจ โดยใช้จมูกอิเล็กทรอนิกส์เป็นการทดสอบสมมติฐานที่จะมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในรูปแบบ smellprint ระหว่างใหม่ วินิจฉัยผู้ป่วย LC และควบคุมเรื่อง วิธี เก้าเอ้เรื่องถูกพิจารณา ประกอบด้วยสูบบุหรี่ (33), อดีตสูบ (11), (18) ผู้สูบบุหรี่ ผู้ป่วยที่ มีโรคทางเดินหายใจ (11), และผู้ป่วย LC (16) เรื่อง exhaled เป็นถุงการผ่านของก๊าซสำหรับการประเมิน eNose ออฟไลน์กับโมดูลตรวจจับอิเล็กทรอนิกส์ 6 ช่อง ENS Mk 3 (Pty E-จมูก ซิดนีย์) เส้นโค้งตอบรับเวลาจากแต่ละช่องถูกประเมินสำหรับพารามิเตอร์สี่: อัตราความสูงสูงสุด ยอดสูง อัตราการกู้คืน พื้นที่ภายใต้โค้ง ผลลัพธ์ที่ ผลลัพธ์แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างปอดมะเร็งและควบคุมกลุ่มเมื่อวัดความสูงสูงสุดในช่อง 1 (p = 0.025); อัตราการกู้คืนในช่อง 3 (p = 0.045); และอัตราความสูงสูงสุดในช่อง 3 (p = 0.001) สรุป ผลลัพธ์แสดงสัญญาที่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญใน smellprint เรื่องโรคมะเร็งปอดเมื่อเทียบกับเรื่องควบคุม มาตรฐานเพิ่มเติมของเทคนิคจะช่วยในการปรับปรุงความไวและ specificity วิธี มีศักยภาพที่จะใช้วิเคราะห์ในจำนวนโรคที่มีลักษณะลายเซ็นเกิดขึ้นในลมหายใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง การวัดของสารที่เป็นก๊าซในลมหายใจหายใจออกเช่นสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) อาจมีเทคนิคที่ไม่อันตรายสำหรับการประเมินโรคปอดบางส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งปอด (LC) การวิเคราะห์สารระเหยเป็นลำบากในขณะที่จมูกอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นใหม่เป็นเครื่องตรวจจับอย่างรวดเร็วของอาร์เรย์ของเครื่องหมายก๊าซตระหนักถึงลักษณะ "smellprint." วัตถุประสงค์ ที่จะดำเนินการวิเคราะห์ลมหายใจนักบินใช้จมูกอิเล็กทรอนิกส์เพื่อทดสอบสมมติฐานที่จะมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในรูปแบบ smellprint ระหว่างผู้ป่วย LC วินิจฉัยใหม่และกลุ่มควบคุม วิธีการ แปดสิบเก้าวิชาที่ได้รับคัดเลือกประกอบด้วยสูบบุหรี่ (33) อดีตผู้สูบบุหรี่ (11), ผู้สูบบุหรี่ (18), ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ (11) และผู้ป่วย LC (16) วิชาที่หายใจออกในถุงก๊าซผ่านไม่ได้สำหรับการวัด eNose ออฟไลน์กับหกช่องโมดูลการตรวจสอบอิเล็กทรอนิกส์ ENS Mk 3 (E-จมูก Pty, ซิดนีย์) เส้นโค้งเวลาการตอบสนองจากแต่ละช่องได้รับการประเมินสำหรับพารามิเตอร์ทั้งสี่อัตราความสูงสูงสุดความสูงสูงสุดอัตราการกู้คืนและพื้นที่ใต้เส้นโค้ง ผล ผลการศึกษาพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างโรคมะเร็งปอดและการควบคุมกลุ่มเมื่อวัดความสูงของยอดเขาในช่องที่ 1 (p = 0.025); อัตราการฟื้นตัวในช่อง 3 (p = 0.045) และอัตราความสูงของยอดเขาในช่อง 3 (p = 0.001) ข้อสรุป ผลการศึกษาพบว่าในสัญญาว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญใน smellprint ของอาสาสมัครที่เป็นโรคมะเร็งปอดเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม มาตรฐานต่อไปของเทคนิคที่จะช่วยในการปรับปรุงความไวและความจำเพาะของวิธีการที่มีศักยภาพในการใช้การวิเคราะห์ในจำนวนของโรคที่ลายเซ็นลักษณะเกิดขึ้นในลมหายใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง การวัดปริมาณก๊าซและหายใจออกลมหายใจ เช่น สารอินทรีย์ระเหยง่าย ( VOCs ) อาจให้วิธีการตรวจประเมิน ปอด โรคบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งปอด ( LC ) การวิเคราะห์สารระเหยลำบากในขณะที่จมูกอิเล็กทรอนิกส์จะเกิดขึ้นใหม่เป็นอย่างรวดเร็วของเครื่องตรวจจับก๊าซแบบหลายตระหนักถึง smellprint ลักษณะ " " วัตถุประสงค์เพื่อทำการนำร่องลมหายใจการวิเคราะห์โดยใช้จมูกอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อทดสอบสมมติฐานที่ว่าจะมีความแตกต่างในรูปแบบ smellprint ระหว่างการวินิจฉัยใหม่ผู้ป่วย LC และควบคุมคน วิธีการ แปดสิบเก้าคน คัดเลือก ประกอบด้วย สูบบุหรี่ ( 33 ) , อดีตผู้สูบบุหรี่ ( 11 ) , สูบบุหรี่ ( 18 ) , ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ( 11 ) และผู้ป่วย LC ( 16 )วิชาที่หายใจออกในถุงแก๊สไม่ได้ครับโนสการวัดที่มีหกช่องทางอิเล็กทรอนิกส์การตรวจสอบโมดูลใน MK 3 ( จมูก Pty ซิดนีย์ ) เวลาตอบสนองโค้งจากแต่ละช่องได้ทำการแปรค่าอัตราความสูง สูงสุด ความสูงสูงสุด อัตราการกู้คืน และพื้นที่ใต้เส้นโค้ง ผลลัพธ์พบความแตกต่างระหว่างโรคมะเร็งปอดและกลุ่มควบคุมเมื่อวัดความสูงสูงสุดในช่อง 1 ( p = 0.025 ) ; อัตราการกู้คืนในช่อง 3 ( P = 0.045 ) ; และอัตราสูงสุดความสูงในช่อง 3 ( p = 0.001 ) สรุป ผลลัพธ์แสดงสัญญาว่ามีความแตกต่างใน smellprint ของวิชาด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมมาตรฐานและเทคนิคที่จะช่วยในการปรับปรุงความไวและความจำเพาะของวิธีที่มีศักยภาพเพื่อใช้ในการวิเคราะห์จำนวนของโรคที่ลายเซ็นลักษณะเกิดขึ้นในลมหายใจ