ตาที่สามของไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ว

ตาที่สามของไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์บอกว่า
เชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์มีสามตา ตาที่สามนี้ก็คือต่อมไพเนียลซึ่งอยู่ด้านหลังของกะโหลกศีรษะ ภายในต่อมมีสารเคมีที่มีชื่อว่าเซโรโตนินอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อกันว่า
สารชนิดนี้ช่วยส่งผลให้มนุษย์มีการคิดอย่างสมเหตุสมผล นักวิทยาศาสตร์จึงเปรียบต่อมนี้ว่าเป็นตาที่สามของมนุษย์
ไสยศาสตร์บอกว่า
มีวิธีเปิดตาทิพย์แบบต่างๆ ๗ วิธีดังนี้
๑) เพ่งกสิณสิบ (วิธีแบบดั้งเดิม)
เป็นวิธีเก่าแก่ดั้งเดิม ง่ายสำหรับท่านที่มีบารมีเก่าทางด้านกสิณ หรือรูปฌาน เมื่อท่านหลับตาแล้วเห็นดวงกสิณ เป็นสีต่างๆ วูบๆ วาบๆ ให้ท่านฝึกเพ่งดวงกสิณนั้น การเพ่งกสิณใช้เวลานานหรือไม่นาน ขึ้นอยู่กับวาระบุญวาสนาของแต่ละบุคคล ในที่นี้จะไม่อธิบายมาก เพราะเป็นวิธีเก่าแก่ที่มีเผยแพร่มากมายในหลายสถานที่
๒) ทะลวงด้วยลมปราณ (อานาปานสติ)
โดยการกำหนดลมหายใจที่ท้องน้อย หายใจเข้า “ยุบหนอ” หายใจออก “พองหนอ” จนชำนาญ จากนั้น ให้กำหนดรวมลมปราณหายใจเข้าที่ท้องน้อย ลมปราณรวมศูนย์ที่ท้องน้อย จากนั้น หายใจออกให้ออกทางตาที่สาม แล้วบริกรรม “ทะลวงออก”ๆๆ วิธีนี้เป็นวิธีเปิดตาทิพย์ของเทพสามตา ร่วมกับสมถะแบบอานาปานสติ เมื่อเปิดตาทิพย์สำเร็จอย่าลืมขอบคุณเทพสามตา และนับท่านเป็นครูทางตาทิพย์ผู้หนึ่ง
๓) เดินจงกลมทะลวงตาที่สาม
โดยการกำหนดจิตรวมไว้ที่ตาที่สาม แล้วเดินจงกลม แบบเร็วๆ และหนักแน่น เหมือนทหารเดินสวนสนาม ทุกครั้งที่เดิน ให้กระแทกดันพลังที่ท้องน้อย ให้ทะลวงตาท่อตาที่สาม (แกนกลางกาย) ออกทางตาที่สาม ทะลวงไปเรื่อยๆ จนสำเร็จ หากรู้สึกหมดแรงให้หยุดพัก (หากพลังหมดจะเสียสุขภาพได้) วิธีนี้เป็นวิธีเปิดตาทิพย์ของหลวงพี่รอง เมื่อเปิดตาทิพย์สำเร็จ ให้ระลึกถึงคุณของท่านเป็นดั่งอาจารย์
๔) อัดพลังเข้าตาที่สาม (วิธีแบบเซียน)
โดยการใช้นิ้วจิ้มเข้าที่ตาที่สาม ไว้ระยะหนึ่ง แล้วให้ผู้จิ้ม เดินลมปราณถ่ายเข้าที่ตาที่สาม ทะลวงท่อตาที่สามแล้วอัดพลังลมปราณเติมเข้าไปจนเต็มท่อตาที่สาม ผู้รับการเปิดตาทิพย์ให้หลับตาเพ่งจุดที่ถูกจิ้มตาที่สามไว้อย่าลืมตา หากตาที่สามเปิดจะเห็นแสงวาบเข้ามาสว่างมากอย่าตกใจ หากเปิดออกอีกจะเห็นกายทิพย์ของผู้ทำการเปิดตาทิพย์ให้ ให้กราบขอบคุณผู้เปิดตาให้ ระลึกพระคุณท่านที่สละพลังลมปราณเพื่อเปิดตาที่สามให้เรา นับท่านเป็นอาจารย์ จะเจริญก้าวหน้าในทางธรรมต่อไป
๕) ใช้ขี้ผึ้งหมื่นแปด
โดยการใช้ขี้ผึ้งหมื่นแปด ป้ายที่ตาที่สาม สำหรับผู้ไม่มีปัญหาเรื่องพลังในท่อตาที่สาม หรือตาที่สามเคยเสื่อม แล้วต้องการฟื้นตาที่สามใหม่ จะได้ผลทันตา แต่หากไม่มีพลังในตาที่สามเลย ไม่เคยฝึกเลยอาจไม่ได้ผลนัก (ไม่รับประกันผล) สำหรับวิธีนี้ เมื่อสำเร็จแล้ว ให้ระลึกถึงพระคุณของหลวงพี่เอก ผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดด้วยวิธีนี้ แต่เนื่องจากขี้ผึ้งหมื่นแปดในโลกหากยากและมีน้อย จึงไม่ขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้ หากสามารถหาขี้ผึ้งหมื่นแปดมาได้ด้วยตนเอง ก็ลองทำดู แต่ไม่ควรขอขี้ผึ้งหมื่นแปดจากผู้ใดเพราะเป็นของหายาก ตามบุญวาสนาของแต่ละท่านที่จะบำเพ็ญเพียรได้
๖) ใช้คาถาเพ่งภาพพระพุทธรูป
ใช้คาถา “พุทธธัง เมฆนิมิตต์ จิตตัง มะอะอุ, ธัมมัง เมฆนิมิตต์ จิตตัง อุอะมะ, สังฆัง เมฆนิมิตต์ จิตตัง อะมะอุ” ให้บริกรรมโดยเพ่งภาพพระพุทธรูปทุกวัน วันละ ๕ นาที จำนวน ๗ ถึง ๑๕ วัน ถ้าไม่ได้ผล ให้ลองตรวจกรรม แก้กรรม สร้างบุญบารมีก่อน
๗) ใช้คาถาอาบน้ำมนต์
ใช้คาถา “นะมะพะธะ พุทธโธ โลทีปัง อาโลกสิณัง วิโสธายิ, ธัมโม โลทีปัง อาโลกสิณัง วิโสธายิ, สังโฆ โลทีปัง อาโลกสิณัง วิโสธายิ” โดยให้ใช้ธูป ๗ ดอก เทียน ๗ เล่ม (หนักเล่มละบาท) ดอกไม้ ๗ กระทง, ข้าวตอก ๗ กระทง บาตรใส่น้ำมนต์หนึ่งใบ ภาวนาคาถานี้ จนจุใจ แล้วเอาน้ำมนต์ไปอาบให้ครบ ๗ วัน สำเร็จตามวาระบุญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตาที่สามของไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์บอกว่า
เชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์มีสามตาตาที่สามนี้ก็คือต่อมไพเนียลซึ่งอยู่ด้านหลังของกะโหลกศีรษะภายในต่อมมีสารเคมีที่มีชื่อว่าเซโรโตนินอยู่เป็นจำนวนมากเชื่อกันว่า
สารชนิดนี้ช่วยส่งผลให้มนุษย์มีการคิดอย่างสมเหตุสมผลนักวิทยาศาสตร์จึงเปรียบต่อมนี้ว่าเป็นตาที่สามของมนุษย์
ไสยศาสตร์บอกว่า
มีวิธีเปิดตาทิพย์แบบต่าง ๆ ๗ วิธีดังนี้
๑) เพ่งกสิณสิบ (วิธีแบบดั้งเดิม)
เป็นวิธีเก่าแก่ดั้งเดิมง่ายสำหรับท่านที่มีบารมีเก่าทางด้านกสิณหรือรูปฌานเมื่อท่านหลับตาแล้วเห็นดวงกสิณเป็นสีต่าง ๆ วูบ ๆ วาบ ๆ ให้ท่านฝึกเพ่งดวงกสิณนั้นการเพ่งกสิณใช้เวลานานหรือไม่นาน ในที่นี้จะไม่อธิบายมากเพราะเป็นวิธีเก่าแก่ที่มีเผยแพร่มากมายในหลายสถานที่
๒) ทะลวงด้วยลมปราณ (อานาปานสติ)
โดยการกำหนดลมหายใจที่ท้องน้อยหายใจเข้า "ยุบหนอ" หายใจออก "พองหนอ" จนชำนาญจากนั้นให้กำหนดรวมลมปราณหายใจเข้าที่ท้องน้อยลมปราณรวมศูนย์ที่ท้องน้อยจากนั้นหายใจออกให้ออกทางตาที่สามแล้วบริกรรม "ทะลวงออก" ๆ ๆ ร่วมกับสมถะแบบอานาปานสติเมื่อเปิดตาทิพย์สำเร็จอย่าลืมขอบคุณเทพสามตาและนับท่านเป็นครูทางตาทิพย์ผู้หนึ่ง
๓) เดินจงกลมทะลวงตาที่สาม
โดยการกำหนดจิตรวมไว้ที่ตาที่สามแล้วเดินจงกลมแบบเร็ว ๆ และหนักแน่นเหมือนทหารเดินสวนสนามทุกครั้งที่เดินให้กระแทกดันพลังที่ท้องน้อยให้ทะลวงตาท่อตาที่สาม (แกนกลางกาย) ออกทางตาที่สามทะลวงไปเรื่อย ๆ หากรู้สึกหมดแรงให้หยุดพัก (หากพลังหมดจะเสียสุขภาพได้) วิธีนี้เป็นวิธีเปิดตาทิพย์ของหลวงพี่รองเมื่อเปิดตาทิพย์สำเร็จให้ระลึกถึงคุณของท่านเป็นดั่งอาจารย์
๔) อัดพลังเข้าตาที่สาม (วิธีแบบเซียน)
โดยการใช้นิ้วจิ้มเข้าที่ตาที่สามไว้ระยะหนึ่งแล้วให้ผู้จิ้มเดินลมปราณถ่ายเข้าที่ตาที่สามทะลวงท่อตาที่สามแล้วอัดพลังลมปราณเติมเข้าไปจนเต็มท่อตาที่สาม หากตาที่สามเปิดจะเห็นแสงวาบเข้ามาสว่างมากอย่าตกใจหากเปิดออกอีกจะเห็นกายทิพย์ของผู้ทำการเปิดตาทิพย์ให้ให้กราบขอบคุณผู้เปิดตาให้ระลึกพระคุณท่านที่สละพลังลมปราณเพื่อเปิดตาที่สามให้เรา จะเจริญก้าวหน้าในทางธรรมต่อไป
๕) ใช้ขี้ผึ้งหมื่นแปด
โดยการใช้ขี้ผึ้งหมื่นแปดป้ายที่ตาที่สามสำหรับผู้ไม่มีปัญหาเรื่องพลังในท่อตาที่สามหรือตาที่สามเคยเสื่อมแล้วต้องการฟื้นตาที่สามใหม่จะได้ผลทันตาแต่หากไม่มีพลังในตาที่สามเลยไม่เคยฝึกเลยอาจไม่ได้ผลนัก สำหรับวิธีนี้เมื่อสำเร็จแล้วให้ระลึกถึงพระคุณของหลวงพี่เอกผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดด้วยวิธีนี้แต่เนื่องจากขี้ผึ้งหมื่นแปดในโลกหากยากและมีน้อยจึงไม่ขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้ ก็ลองทำดูแต่ไม่ควรขอขี้ผึ้งหมื่นแปดจากผู้ใดเพราะเป็นของหายากตามบุญวาสนาของแต่ละท่านที่จะบำเพ็ญเพียรได้
๖) ใช้คาถาเพ่งภาพพระพุทธรูป
ใช้คาถา "พุทธธังเมฆนิมิตต์จิตตังมะอะอุ ธัมมังเมฆนิมิตต์จิตตังอุอะมะ สังฆังเมฆนิมิตต์จิตตังอะมะอุ"ให้บริกรรมโดยเพ่งภาพพระพุทธรูปทุกวันวันละ ๕ นาทีจำนวน ๗ ถึง ๑๕ วันถ้าไม่ได้ผลให้ลองตรวจกรรมแก้กรรมสร้างบุญบารมีก่อน
๗) ใช้คาถาอาบน้ำมนต์
ใช้คาถา "นะมะพะธะพุทธโธโลทีปังอาโลกสิณังวิโสธายิธัมโมโลทีปังอาโลกสิณังวิโสธายิ สังโฆโลทีปังอาโลกสิณังวิโสธายิ" โดยให้ใช้ธูป ๗ ดอกเทียน ๗ เล่ม (หนักเล่มละบาท) ดอกไม้ ๗ กระทง ข้าวตอก ๗ กระทงบาตรใส่น้ำมนต์หนึ่งใบภาวนาคาถานี้จนจุใจแล้วเอาน้ำมนต์ไปอาบให้ครบ ๗ วันสำเร็จตามวาระบุญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

7 วิธีดังนี้1) เพ่งกสิณสิบ หรือรูปฌานเมื่อท่านหลับตาแล้วเห็นดวงกสิณเป็นสีต่างๆวูบ ๆ วาบ ๆ ให้ท่านฝึกเพ่งดวงกสิณนั้นการเพ่งกสิณใช้เวลานานหรือไม่นาน ในที่นี้จะไม่อธิบายมาก ทะลวงด้วยลมปราณ หายใจเข้า "ยุบหนอ" หายใจออก "พองหนอ" จนชำนาญจากนั้น ลมปราณรวมศูนย์ที่ท้องน้อยจากนั้นหายใจออกให้ออกทางตาที่ ๆ สามแล้วบริกรรม "ทะลวงออก" ๆ ร่วมกับสมถะแบบอานาปานสติ แล้วเดินจงกลมแบบเร็ว ๆ และหนักแน่นเหมือนทหารเดินสวนสนามทุกครั้งที่เดินให้กระแทกดันพลังที่ท้องน้อยให้ทะลวงตาท่อตาที่สาม (แกนกลางกาย) ออกทางตาที่สามทะลวงไปเรื่อย ๆ จนสำเร็จหากรู้สึกหมดแรง ให้หยุดพัก (หากพลังหมดจะเสียสุขภาพได้) เมื่อเปิดตาทิพย์สำเร็จ อัดพลังเข้าตาที่สาม ไว้ระยะหนึ่งแล้วให้ผู้จิ้มเดินลมปราณถ่ายเข้าที่ตาที่สาม ให้กราบขอบคุณผู้เปิดตาให้ นับท่านเป็นอาจารย์จะเจริญก้าวหน้าในทางธรรมต่อไป5) ป้ายที่ตาที่สาม หรือตาที่สามเคยเสื่อมแล้วต้องการฟื้นตาที่สามใหม่จะได้ผลทันตา แต่หากไม่มีพลังในตาที่สามเลยไม่เคยฝึกเลยอาจไม่ได้ผลนัก (ไม่รับประกันผล) สำหรับวิธีนี้เมื่อสำเร็จแล้วให้ระลึกถึงพระคุณ ของหลวงพี่เอกผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดด้วยวิธีนี้ จึงไม่ขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้ ก็ลองทำดู ใช้คาถาเพ่งภาพพระพุทธรูปใช้คาถา "พุทธธังเมฆนิมิตต์จิตตังมะอะอุ, ธัมมังเมฆนิมิตต์จิตตังอุอะมะ, สังฆังเมฆนิมิตต์จิตตังอะมะอุ" วันละ 5 นาทีจำนวน 7 ถึง 15 วันถ้าไม่ได้ผลให้ลองตรวจกรรมแก้กรรมสร้างบุญบารมีก่อน7) ใช้คาถาอาบน้ำมนต์ใช้คาถา "นะมะพะธะพุทธโธโลทีปังอาโลกสิณังวิโสธายิ , ธัมโมโลทีปังอาโลกสิณังวิโสธายิ, สังโฆโลทีปังอาโลกสิณังวิโสธา "โดยให้ใช้ธูป 7 ดอกเทียน 7 เล่ม (หนักเล่มละบาท) ดอกไม้ยิ 7 กระทง, ข้าวตอก 7 กระทงบาตรใส่น้ำมนต์หนึ่งใบภาวนาคาถานี้จนจุใจแล้วเอาน้ำมนต์ไปอาบให้ครบ 7 วันสำเร็จตามวาระบุญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตาที่สามของไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์บอกว่าเชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์มีสามตาตาที่สามนี้ก็คือต่อมไพเนียลซึ่งอยู่ด้านหลังของกะโหลกศีรษะภายในต่อมมีสารเคมีที่มีชื่อว่าเซโรโตนินอยู่เป็นจำนวนมากเชื่อกันว่า
สารชนิดนี้ช่วยส่งผลให้มนุษย์มีการคิดอย่างสมเหตุสมผลนักวิทยาศาสตร์จึงเปรียบต่อมนี้ว่าเป็นตาที่สามของมนุษย์

มีวิธีเปิดตาทิพย์แบบต่างๆไสยศาสตร์บอกว่า๗วิธีดังนี้
๑ ) เพ่งกสิณสิบ ( วิธีแบบดั้งเดิม )
เป็นวิธีเก่าแก่ดั้งเดิมง่ายสำหรับท่านที่มีบารมีเก่าทางด้านกสิณหรือรูปฌานเมื่อท่านหลับตาแล้วเห็นดวงกสิณเป็นสีต่างๆวูบๆวาบๆให้ท่านฝึกเพ่งดวงกสิณนั้นการเพ่งกสิณใช้เวลานานหรือไม่นานในที่นี้จะไม่อธิบายมากเพราะเป็นวิธีเก่าแก่ที่มีเผยแพร่มากมายในหลายสถานที่
๒ ) ทะลวงด้วยลมปราณ ( อานาปานสติ )
โดยการกำหนดลมหายใจที่ท้องน้อยหายใจเข้า " ยุบหนอ " หายใจออก " พองหนอ " จนชำนาญจากนั้นให้กำหนดรวมลมปราณหายใจเข้าที่ท้องน้อยลมปราณรวมศูนย์ที่ท้องน้อยจากนั้นหายใจออกให้ออกทางตาที่สามแล้วบริกรรม " ทะลวงออก " ๆๆร่วมกับสมถะแบบอานาปานสติเมื่อเปิดตาทิพย์สำเร็จอย่าลืมขอบคุณเทพสามตาและนับท่านเป็นครูทางตาทิพย์ผู้หนึ่ง
เดินจงกลมทะลวงตาที่สาม
) กันโดยการกำหนดจิตรวมไว้ที่ตาที่สามแล้วเดินจงกลมแบบเร็วๆและหนักแน่นเหมือนทหารเดินสวนสนามทุกครั้งที่เดินให้กระแทกดันพลังที่ท้องน้อยให้ทะลวงตาท่อตาที่สาม ( แกนกลางกาย ) ออกทางตาที่สามทะลวงไปเรื่อยๆหากรู้สึกหมดแรงให้หยุดพัก ( หากพลังหมดจะเสียสุขภาพได้ ) วิธีนี้เป็นวิธีเปิดตาทิพย์ของหลวงพี่รองเมื่อเปิดตาทิพย์สำเร็จให้ระลึกถึงคุณของท่านเป็นดั่งอาจารย์
โตเกียว ) อัดพลังเข้าตาที่สาม ( วิธีแบบเซียน )
โดยการใช้นิ้วจิ้มเข้าที่ตาที่สามไว้ระยะหนึ่งแล้วให้ผู้จิ้มเดินลมปราณถ่ายเข้าที่ตาที่สามทะลวงท่อตาที่สามแล้วอัดพลังลมปราณเติมเข้าไปจนเต็มท่อตาที่สามหากตาที่สามเปิดจะเห็นแสงวาบเข้ามาสว่างมากอย่าตกใจหากเปิดออกอีกจะเห็นกายทิพย์ของผู้ทำการเปิดตาทิพย์ให้ให้กราบขอบคุณผู้เปิดตาให้ระลึกพระคุณท่านที่สละพลังลมปราณเพื่อเปิดตาที่สามให้เราจะเจริญก้าวหน้าในทางธรรมต่อไป
๕ ) ใช้ขี้ผึ้งหมื่นแปด
โดยการใช้ขี้ผึ้งหมื่นแปดป้ายที่ตาที่สามสำหรับผู้ไม่มีปัญหาเรื่องพลังในท่อตาที่สามหรือตาที่สามเคยเสื่อมแล้วต้องการฟื้นตาที่สามใหม่จะได้ผลทันตาแต่หากไม่มีพลังในตาที่สามเลยไม่เคยฝึกเลยอาจไม่ได้ผลนักสำหรับวิธีนี้เมื่อสำเร็จแล้วให้ระลึกถึงพระคุณของหลวงพี่เอกผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดด้วยวิธีนี้แต่เนื่องจากขี้ผึ้งหมื่นแปดในโลกหากยากและมีน้อยจึงไม่ขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้ก็ลองทำดูแต่ไม่ควรขอขี้ผึ้งหมื่นแปดจากผู้ใดเพราะเป็นของหายากตามบุญวาสนาของแต่ละท่านที่จะบำเพ็ญเพียรได้
เจอร์ ) ใช้คาถาเพ่งภาพพระพุทธรูป
ใช้คาถา " พุทธธังเมฆนิมิตต์จิตตังมะอะอุธัมมังเมฆนิมิตต์จิตตังอุอะมะ , ,สังฆังเมฆนิมิตต์จิตตังอะมะอุ " ให้บริกรรมโดยเพ่งภาพพระพุทธรูปทุกวันวันละ๕นาทีจำนวน๗ถึง๑๕ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าถ้าไม่ได้ผลให้ลองตรวจกรรมแก้กรรมสร้างบุญบารมีก่อนใช้คาถาอาบน้ำมนต์

๗ )ใช้คาถา " นะมะพะธะพุทธโธโลทีปังอาโลกสิณังวิโสธายิธัมโมโลทีปัง , อาโลกสิณังวิโสธายิสังโฆโลทีปัง , อาโลกสิณังวิโสธายิ " โดยให้ใช้ธูป๗ดอกเทียน๗เล่ม ( หนักเล่มละบาท ) ดอกไม้กระทง๗ ,ข้าวตอก๗กระทงบาตรใส่น้ำมนต์หนึ่งใบภาวนาคาถานี้จนจุใจแล้วเอาน้ำมนต์ไปอาบให้ครบ๗ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าสำเร็จตามวาระบุญ