The sparcity of clinical trial stud

The sparcity of clinical trial studies on back pain among nursing professionals in Brazil impaired the comparability aspects, due to lack of validated methods in Portuguese for standardizing diagnosis and classification of spinal disorders and back pain. An other difficulty was the practice of controversial prevention methods described in the literature. Back pain is, by definition, symptomatic and definite diagnoses are rarely possible. Pain assessment is complex and may be possible through measures of its severity, frequency and disability caused. This study tried to overcome these limitations by estimating severity using the VAS.
Gates7 (1988) stated that muscular disability is one of the main causes of back pain among nursing per- sonnel. Physical activity and exercise are known to have beneficial effects on the musculoskeletal system.Training in patient lifting procedures and edu- cation in body mechanics were initially proposed to avoid back pain in nursing personnel. Stubbs et al16 (1983) emphasized that training alone would not solve the problem since the training effectiveness cannot be assessed without knowing the environment and individual’s concerns.
Few studies have dealt with programs consisting only of exercises designed to reduce back pain. Gundewall et al9 (1993) reported a decrease in lower back pain complaints and pain intensity in a group of nurses after implementing an exercise program during working hours. Skargren & Oberg15 (1996) suggested that a moderate weekly exercise program directed to nursing personnel can modify the physical capacity and reduce muscu loskeletal symptoms in non-regular exercisers, and prob- ably in subjects over 40 years of age.
The current tendency is to combine different approaches in a single program since various interrelated factors may cause spinal lesions. Thus, recent studies have evaluated programs that simultaneously use different strategies, such as training in lifting and handling patients, with work alteration, life style orientation, organizational changes at the workplace, use of mechanical devices, exercises and relaxation.5,18
The prevalence of back pain among nursing professionals stresses the need for further studies to better understand the problem and provide effective approaches for dealing with this condition.
Programs based on ergonomics and postural aspects for patient’s lifting and handling can prevent back impairment and improve patient management skills.11,17 Such training has become requisite in health institutions in countries with occupational health concerns.
336611 336611 Rev Saúde Pública 2001;35(4):356-61361 www.fsp.usp.br/rsp Back pain in nursing personnel Alexandre NMC et al.
In Brazil, schools and health institutions are not particularly concerned about training nursing personnel in moving and transferring patients and there is no spe cific legislation relating nursing personnel education.
The present study indicates that there is a need of an educational program with emphasis on ergonomics for health workers. Its results should also encourage more research on the evaluation of specific training projects to reduce back pain among nursing personnel.
Researchers and organizations worldwide are looking for solutions regarding musculoskeletal disorders seen in nursing personnel. In Brazil, this is a particularly important problem and active measures are needed.3,4
As a conclusion, this study indicated that the frequency and intensity of back pain among nursing aides, mainly in the cervical (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Sparcity ของการศึกษาทดลองทางคลินิกในปวดจากพยาบาลผู้เชี่ยวชาญในบราซิลผู้พิการทางด้านความ ครบกำหนดขาดวิธีตรวจในโปรตุเกสสำหรับ standardizing วินิจฉัยและจำแนกประเภทของโรคสันหลัง และอาการปวดหลัง มีปัญหาการปฏิบัติตามวิธีป้องกันที่แย้งที่อธิบายไว้ในวรรณคดีได้ ปวดหลัง โดยนิยาม อาการ และวินิจฉัยแน่นอนไม่ค่อยได้ ประเมินความเจ็บปวดมีความซับซ้อน และอาจจะได้มาตรการความรุนแรง ความถี่ และความพิการที่เกิดจาก การศึกษานี้พยายามเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้ โดยการประเมินความรุนแรงการใช้ VASGates7 (1988) กล่าวว่า กล้ามเนื้อพิการเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการปวดระหว่างพยาบาลต่อ sonnel กิจกรรมทางกายภาพและการออกกำลังกายเป็นที่รู้จักกันมีผลประโยชน์ในระบบ musculoskeletalเริ่มฝึกอบรมในขั้นตอนการยกผู้ป่วยและ edu-cation ในร่างกายกลศาสตร์ได้เสนอเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดหลังในบุคลากรพยาบาล Stubbs et al16 (1983) เน้นที่การฝึกคนเดียวจะแก้ปัญหาเนื่องจากไม่สามารถประเมินประสิทธิผลการฝึกอบรมโดยไม่ทราบสภาพแวดล้อมและความกังวลของแต่ละบุคคลศึกษาน้อยมีแจกโปรแกรมที่ประกอบด้วยแบบฝึกหัดที่ออกแบบมาเพื่อลดอาการปวดหลังเท่านั้น Gundewall et al9 (1993) รายงานลดลงต่ำกว่ากลับร้องเรียนอาการปวด และอาการปวดความรุนแรงในกลุ่มพยาบาลหลังจากใช้โปรแกรมการออกกำลังกายในช่วงเวลาทำงาน Skargren และ Oberg15 (1996) แนะนำว่า ปานกลางรายสัปดาห์ออกกำลังกายโปรแกรมโดยตรงให้บุคลากรพยาบาลสามารถปรับเปลี่ยนกำลังการผลิตจริง และช่วยลดอาการ loskeletal muscu ในเคลื่อนไม่ประจำ และ prob-ด้วยความสามารถในเรื่องอายุมากกว่า 40 ปีแนวโน้มปัจจุบันจะรวมวิธีต่าง ๆ ในโปรแกรมเดียวเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอาจทำให้สันหลังได้ ดังนั้น การศึกษาล่าสุดได้ประเมินโปรแกรมที่พร้อมใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกัน เช่นในการยก และการจัดการผู้ป่วย งานแก้ไข วางแนววิถีชีวิต การเปลี่ยนแปลงองค์กรที่ทำงาน ใช้อุปกรณ์เครื่องจักรกล ออกกำลังกาย และ relaxation.5,18ส่วนหลังอาการปวดจากพยาบาลผู้เชี่ยวชาญด้านความเครียดต้องการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจปัญหาดีขึ้น และให้วิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับเงื่อนไขนี้โปรแกรมตามให้และลักษณะเนื้อ postural ยกผู้ป่วยและการจัดการสามารถป้องกันไม่ให้ผลย้อนกลับ และปรับปรุง skills.11,17 ผู้ป่วยจัดการฝึกอบรมดังกล่าวได้กลายเป็นจำเป็นในสถาบันสุขภาพในประเทศมีความกังวลอาชีวอนามัย336611 336611 เรฟ Saúde Pública 2001; 35 (4): 356 61361 www.fsp.usp.br/ บังคับหลังปวดพยาบาลบุคลากรภัณฑ์อเล็กซานเดอร์ NMC et alในบราซิล โรงเรียนและสถาบันสุขภาพไม่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการฝึกอบรมพยาบาลบุคลากรในการย้าย และการโอนย้ายผู้ป่วย และไม่มีกฎหมายไม่ cific spe พยาบาลบุคลากรการศึกษาที่เกี่ยวข้องการศึกษาปัจจุบันบ่งชี้ว่า มีความจำเป็นของโปรแกรมการศึกษาโดยเน้นให้สำหรับผู้ปฏิบัติงานสุขภาพ ผลของมันควรยังส่งเสริมการวิจัยเพิ่มเติมในการประเมินโครงการฝึกอบรมเฉพาะเพื่อลดอาการปวดหลังระหว่างบุคลากรพยาบาลนักวิจัยและองค์กรทั่วโลกกำลังมองหาโซลูชั่นเกี่ยวกับโรค musculoskeletal เห็นในบุคลากรพยาบาล ในบราซิล นี้เป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่ง และใช้งานเป็น needed.3,4เป็นสรุป การศึกษานี้ระบุว่า ความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหลังผู้ช่วยพยาบาล ส่วนใหญ่ในปากมดลูก (p < 0.05), และภูมิภาคช่องไข (p = 0.07) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในกลุ่มใน tervention แนะนำว่า การดำเนินการสองสัปดาห์ มีวิธีการอุปกรณ์ออกกำลังกายสามารถลดอาการ musculoskeletal ในบุคลากรพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

sparcity จากการศึกษาทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับอาการปวดหลังในหมู่ผู้เชี่ยวชาญพยาบาลในบราซิลที่มีความบกพร่องด้านการเปรียบเทียบเนื่องจากขาดวิธีการตรวจสอบในโปรตุเกสมาตรฐานการตรวจวินิจฉัยและการจำแนกความผิดปกติของกระดูกสันหลังและอาการปวดหลัง ความยากลำบากอื่น ๆ เป็นเรื่องของวิธีการป้องกันความขัดแย้งที่อธิบายไว้ในวรรณคดี อาการปวดหลังเป็นโดยนิยามการวินิจฉัยอาการและแน่นอนเป็นไปได้ไม่ค่อย การประเมินความเจ็บปวดที่มีความซับซ้อนและอาจเป็นไปได้ผ่านมาตรการความรุนแรงของความถี่และความพิการที่เกิด การศึกษานี้พยายามที่จะเอาชนะข้อ จำกัด เหล่านี้โดยการประเมินความรุนแรงโดยใช้ VAS.
Gates7 (1988) ระบุว่าความพิการของกล้ามเนื้อเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการปวดหลังในหมู่บุคลากรพยาบาลที่แน่นอนได้ การออกกำลังกายและการออกกำลังกายเป็นที่รู้จักกันว่ามีผลประโยชน์ใน system.Training กล้ามเนื้อในขั้นตอนการยกผู้ป่วยและไอออนบวก edu- ในกลศาสตร์ร่างกายถูกเสนอครั้งแรกเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดหลังในบุคลากรทางการพยาบาล สตับส์และ al16 (1983) เน้นย้ำว่าการฝึกอบรมเพียงอย่างเดียวจะไม่แก้ปัญหาตั้งแต่การฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพไม่สามารถได้รับการประเมินโดยไม่ทราบว่าสภาพแวดล้อมและความกังวลของแต่ละบุคคล.
หลายการศึกษาที่ได้กระทำกับโปรแกรมประกอบเพียงการออกกำลังกายที่ออกแบบมาเพื่อลดอาการปวดหลัง Gundewall และ AL9 (1993) รายงานการลดลงของการร้องเรียนอาการปวดหลังส่วนล่างและความปวดในกลุ่มของพยาบาลหลังจากการใช้โปรแกรมการออกกำลังกายในระหว่างชั่วโมงทำงาน Skargren & Oberg15 (1996) ชี้ให้เห็นว่าโปรแกรมการออกกำลังกายสัปดาห์ปานกลางสั่งให้บุคลากรทางการพยาบาลสามารถปรับเปลี่ยนกำลังการผลิตทางกายภาพและลดอาการ muscu loskeletal ในการออกกำลังกายที่ไม่ปกติและการผุด้วยความสามารถในวิชากว่า 40 ปีของอายุ.
แนวโน้มในปัจจุบันคือการ รวมวิธีการที่แตกต่างกันในโปรแกรมเดียวตั้งแต่ปัจจัยสัมพันธ์ต่าง ๆ อาจทำให้เกิดรอยโรคกระดูกสันหลัง ดังนั้นการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการประเมินโปรแกรมที่พร้อมใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันเช่นการฝึกอบรมในการยกและผู้ป่วยในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงการทำงานของการวางแนววิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงองค์กรในสถานที่ทำงาน, การใช้อุปกรณ์เครื่องจักรกล, การออกกำลังกายและ relaxation.5,18
ชุก ของอาการปวดหลังในหมู่ผู้เชี่ยวชาญพยาบาลเน้นความจำเป็นในการศึกษาต่อไปเพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและให้แนวทางที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับสภาพนี้.
โปรแกรมขึ้นอยู่กับการยศาสตร์และด้านทรงตัวสำหรับการยกของผู้ป่วยและการจัดการสามารถป้องกันไม่ให้กลับด้อยค่าและปรับปรุงการจัดการผู้ป่วย skills.11 17 การฝึกอบรมดังกล่าวได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในสถาบันสุขภาพในประเทศที่มีความกังวลเรื่องสุขภาพอาชีว.
336,611 336,611 เรSaúdePública 2001; 35 (4): 356-61361 www.fsp.usp.br/rsp อาการปวดหลังในการพยาบาลบุคลากรอเล็กซานเด NMC และคณะ .
ในบราซิล, โรงเรียนและสถาบันสุขภาพไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกังวลเกี่ยวกับการฝึกอบรมบุคลากรทางการพยาบาลในการเคลื่อนย้ายและการถ่ายโอนผู้ป่วยและไม่มีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเอสพีอี cific การศึกษาบุคลากรทางการพยาบาล.
การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ามีความจำเป็นของโปรแกรมการศึกษาโดยเน้นการยศาสตร์ สำหรับคนทำงานด้านสุขภาพ ผลมันยังควรส่งเสริมให้วิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประเมินผลของโครงการฝึกอบรมเฉพาะเพื่อลดอาการปวดหลังของบุคลากรพยาบาล.
นักวิจัยและองค์กรทั่วโลกกำลังมองหาโซลูชั่นที่เกี่ยวกับความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกที่เห็นในบุคลากรทางการพยาบาล ในประเทศบราซิลนี้เป็นปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งและมาตรการที่ใช้งานอยู่ needed.3,4
เป็นข้อสรุปการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหลังในหมู่ผู้ช่วยพยาบาลส่วนใหญ่อยู่ในปากมดลูก (p <0.05) และภูมิภาคเอว (p = 0.07) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในกลุ่ม tervention ทำา นี้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมของการออกกำลังกายสัปดาห์ละสองครั้งดำเนินการด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับสรีระสามารถลดอาการกล้ามเนื้อและกระดูกในบุคลากรทางการพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การ sparcity ของการทดลองทางคลินิกการศึกษาอาการปวดหลังระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านการพยาบาลในบราซิลที่มีไม่สามารถเปรียบเทียบด้าน เนื่องจากขาดการตรวจสอบวิธีการในภาษาโปรตุเกสสำหรับมาตรฐานการวินิจฉัยและจำแนกโรคไขสันหลังและปวดหลัง มีปัญหาอื่น ๆคือการปฏิบัติของการป้องกันวิธีการที่อธิบายไว้ในวรรณกรรม ปวดหลัง โดยนิยามอาการและการวินิจฉัยที่แน่นอนไม่ค่อยได้ เป็นไปได้ การประเมินความเจ็บปวด ซับซ้อน และอาจเป็นไปได้ผ่านมาตรการของความรุนแรง ความถี่ และความพิการที่เกิดจาก การศึกษานี้พยายามที่จะเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้โดยการประมาณความรุนแรงโดยใช้วาส
gates7 ( 2531 ) กล่าวว่า ความพิการของกล้ามเนื้อเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการปวดหลังของพยาบาลต่อ - sonnel .การออกกำลังกายและกิจกรรมทางกายเป็นที่รู้จักกันจะมีผลที่เป็นประโยชน์ต่อระบบกล้ามเนื้อ การฝึกในขั้นตอนของการยกผู้ป่วยและ - กลศาสตร์ร่างกายครั้งแรกถูกเสนอเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดหลังในบุคลากรทางการพยาบาลสตับส์ และ al16 ( 1983 ) เน้นว่า การอยู่คนเดียวจะไม่แก้ปัญหา เนื่องจากไม่สามารถประเมินประสิทธิผลการฝึกอบรมโดยไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และของแต่ละบุคคล มีการศึกษาน้อยจัดการกับโปรแกรม
ประกอบด้วยเฉพาะของแบบฝึกหัดที่ออกแบบมาเพื่อลดอาการปวดหลังgundewall et al9 ( 1993 ) รายงานการลดลงของอาการปวดหลังส่วนล่างข้อร้องเรียนและความปวดในกลุ่มของพยาบาลหลังการใช้โปรแกรมการออกกำลังกายในระหว่างชั่วโมงทำงาน skargren & oberg15 ( 1996 ) พบว่าโปรแกรมการออกกำลังกายระดับปานกลางประจำสัปดาห์ที่บุคลากรทางการพยาบาลสามารถปรับเปลี่ยนความสามารถทางกายภาพและลดอาการ muscu loskeletal ไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ ,ปัญหา - และสามารถในคนอายุเกิน 40 ปี แนวโน้มในปัจจุบันคือการรวม
วิธีต่าง ๆในโปรแกรมเดียว เนื่องจากปัจจัยที่สัมพันธ์ต่าง ๆอาจก่อให้เกิดรอยโรคไขสันหลัง ดังนั้น การศึกษามีการประเมินโปรแกรมที่พร้อมใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกัน เช่น การยกและการจัดการผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงงานปฐมนิเทศ สไตล์ชีวิตการเปลี่ยนแปลงองค์กรในที่ทำงาน การใช้อุปกรณ์ทางกล แบบฝึกหัด และผ่อนคลาย 5,18
ความชุกของอาการปวดหลังระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านการพยาบาลเน้นความต้องการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจปัญหาและให้วิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับเงื่อนไขนี้ .
โปรแกรมบนพื้นฐานของการยศาสตร์และพัฒนาการด้านการจัดการ และสามารถป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยยกกลับบกพร่องและพัฒนาทักษะการจัดการผู้ป่วย 11,17 การฝึกอบรมดังกล่าว ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในสถาบันสุขภาพในประเทศที่มีความกังวลอาชีวอนามัย .
336611 336611 เรฟซาú de p ú blica 2001 ; 35 ( 4 ) : 356-61361 www.fsp.usp.br/rsp ปวดหลังในบุคลากรทางการพยาบาล ล็กซานเดอร์ NMC et al .
ในบราซิลโรงเรียนและสถาบันสุขภาพไม่กังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการฝึกอบรมบุคลากรทางการพยาบาลในการย้ายและย้ายผู้ป่วย และไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาสาร cific บุคลากรพยาบาล .
การศึกษาพบว่ามีความต้องการของโปรแกรมการศึกษา โดยเน้นการยศาสตร์แรงงานด้านสุขภาพผลของมันจะยังสนับสนุนให้วิจัยเพิ่มเติมในการประเมินโดยเฉพาะโครงการฝึกอบรมเพื่อลดอาการปวดหลังของบุคลากรพยาบาล .
นักวิจัยและองค์กรทั่วโลกกำลังมองหาโซลูชั่นเกี่ยวกับความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่เห็นในบุคลากรทางการพยาบาล ในบราซิล ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญโดยเฉพาะและมาตรการที่ใช้งานเป็น 3 , 4
เป็นบทสรุปการศึกษานี้พบว่า ความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหลังระหว่างผู้ช่วยพยาบาล ส่วนใหญ่ในปากมดลูก ( P < 0.05 ) และภูมิภาคเอว ( P = 0.07 ) ลดลงมากขึ้นอย่างมากในในกลุ่ม tervention . นี้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมของแบบฝึกหัดดำเนินการสองครั้งต่อสัปดาห์ด้วยวิธีการตามหลักสรีรศาสตร์สามารถลดอาการกล้ามเนื้อในบุคลากรทางการพยาบาล .