Long time ago, people preferred to

Long time ago, people preferred to live in a countryside to work or to live with their grant  parents. Because of the urbanization, people tend to leave the countryside to install in a city. Thus, city is always crowded and life become more stressful. Nowadays, people have many options to live a city or a countryside. It depends of those choices. There are some people that  prefer a quiet and peaceful place; contrarily, others like to have a good job and more facilities. In fact, living in a city has many differences than living in a countryside. People who live in a city have better opportunities, more facilities, whereas people who live in a countryside acquires a better living environment. Living in a countryside differs from living in a city in the way to work. Both People who live in a countryside and those who live in a city work, but they work differently. In a countryside, people always work outside as farmer, whereas people who live in a city work inside. Also, there are more opportunities to find a better job in a city than a countryside because there are more companies and more institutions in the urban life. Consequently, people have more options to apply for different jobs. Another difference is people who live in a city have
 
 better chance to have a good education. There are different types of major to pursue their goal. A city always have the best university or college. Contrarily to people in a city, life in a countryside has restricted education, so they have less chance to have a better job. Also, the best  professor or professional always live in a city to find a better living condition. For instance, for  people who live Homestead, if they want to have a bachelor or a Ph. D in a major must move in a city like Miami to realize their dream. The facilities between life in a city and life in a countryside make a big difference. People who live in a city have more facilities such as health care, more options to go shopping, and more choices to enjoy their life. For instance, in a city, people have big hospitals, many super market, and many theaters to enjoy themselves. Health care is better in a city than in a countryside. The best specialist always stay in a city to have a better living condition. Furthermore, transportation is another advantage for people living in a city. They have many choices to go to work such as the bus, the train, or their cars. On the other hand, living in a countryside is more difficult to go to work. Sometimes, people have to wait for more than one hour to find a bus or to take a ride together with another neighborhood. For that, they have to be always on time. Even though living in a city offers more possibilities and more facilities, it has its bad side too. A person that lives in a city has to confront with different kinds of pollution. Because of so many cars, buses, and factories, the environment is noisy and pollute. On the contrary, in a countryside, people enjoy fresh air and stay in a quiet and peaceful place. Also, Waste from household and factories pollute water. Thus, many rivers in a city are polluted, whereas people living in a countryside use their pure water. Furthermore, traffic jam is also a major problem for human living in a city. The streets are too crowded with cars and people that make life stressful.
 
 Nevertheless, people who live in a countryside can enjoy trees, animals when they go to buy or to work with peace of mind. The better place is not always the one everybody would like to live. Life is not stable; it has its advantages and its disadvantages. Everyone has an alternative to live in a countryside or in a city. It depends on what he/she really needs such as a quiet place or a better opportunities, more facilities with noisy place or less opportunities with fresh and pure air. Even though living in a city has better opportunities to find job, to have a good education, many options to enjoy their life, people in a countryside live with peace of mind, inhale fresh air, and live in a familiar environment. It opts to human being to decide where to live.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นานมาแล้ว คนต้องอาศัยอยู่ในชนบท เพื่อทำงาน หรืออาศัยอยู่กับครอบครัวเงินช่วยเหลือ เนื่องจากเป็น คนมักจะ ปล่อยให้ท้องเพื่อติดตั้งในเมือง ดังนั้น เมืองจะแออัด และชีวิตกลายเป็นเครียดมาก ปัจจุบัน คนมีตัวเลือกอยู่ในเมืองหรือชนบทเป็น มันขึ้นอยู่กับตัวเลือกเหล่านั้น มีบางคนที่ชอบเงียบ สงบ หรืออื่น ๆ อยากมีงานที่ดีและสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม อาศัยอยู่ในเมืองในความเป็นจริง มีความแตกต่างหลายกว่าอาศัยอยู่ในชนบท คนที่อยู่ในเมืองมีโอกาสดี สิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ในขณะที่คนที่อยู่ในชนบทได้ฝึกฝนอยู่ที่สภาพแวดล้อมที่ดี อาศัยอยู่ในชนบทแตกต่างจากชีวิตในเมืองวิธีการทำงาน ทั้งคนที่อาศัยอยู่ในท้องและผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง ทำงาน แต่พวกเขาทำงานแตกต่างกัน ในชนบท คนเสมองานนอกเป็นเกษตรกร ในขณะที่คนที่อาศัยอยู่ในเมืองทำงานภายใน ยัง มีโอกาสหางานที่ดีในเมืองมากกว่าชนบทเป็นเนื่องจากมีบริษัทอื่น ๆ และสถาบันอื่น ๆ ในชีวิตเมือง ดังนั้น คนมีตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับงานต่าง ๆ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีความแตกต่างอื่น  โอกาสที่ดีมีการศึกษาดี มีแตกต่างกันของหลักการติดตามเป้าหมายของพวกเขา เมืองมีมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยดีที่สุดเสมอ หรือเพื่อคนในเมือง ชีวิตในชนบทได้จำกัดการศึกษา เพื่อให้พวกเขามีน้อยโอกาสที่จะได้งานที่ดี ยัง ศาสตราจารย์หรือมืออาชีพดีที่สุดเสมออาศัยอยู่ในเมืองเพื่อค้นหาเงื่อนไขชีวิตดีกว่า ตัวอย่าง สำหรับคน ที่อยู่โฮมสเตด ถ้าพวกเขาต้องการตรีดุษฎีในวิชาต้องไปในเมืองเช่นไมรู้ความฝันของพวกเขา สิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างชีวิตในเมืองและชีวิตในชนบททำให้เกิดความแตกต่าง คนที่อยู่ในเมืองมากกว่า อำนวยสุขภาพ เพิ่มเติมไปช้อปปิ้ง ทางเพลิดเพลินกับชีวิตได้ ตัวอย่าง ในเมือง คนมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ตลาด และโรงภาพยนตร์มากมายกับตัวเองมากที่ซุปเปอร์ สุขภาพจะดีกว่าในเมืองมากกว่าในชนบทการ ผู้เชี่ยวชาญที่สุดอยู่เสมอในเมืองมีสภาพชีวิตดีกว่า นอกจากนี้ ขนส่งเป็นประโยชน์อื่นสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมือง พวกเขาได้จ่ายไปในการทำงานเช่นรถบัส รถไฟ หรือรถของพวกเขา บนมืออื่น ๆ การใช้ชีวิตในชนบทได้ยากจะไปทำงาน บางครั้ง คนมีจะรอมากกว่าหนึ่งชั่วโมง ในการค้นหารถบัส หรือจะนั่งกับพื้นที่ใกล้เคียงอีก ที่พวกเขาได้อยู่เสมอในเวลา แม้อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้ไปและสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม มันได้มันด้านเกินไป บุคคลที่อยู่ในเมืองต้องเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ ได้ หลายคัน รถโดยสาร และโรงงาน สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง และก่อให้เกิดมลพิษ ดอก ในชนบท คนเพลิดเพลินไปกับอากาศบริสุทธิ์ และพักผ่อนในเงียบ สงบ ยัง ขยะจากครัวเรือน และโรงงานสร้างมลพิษน้ำ ดังนั้น ในแม่น้ำในเมืองจะเสีย ในขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชนบทใช้น้ำบริสุทธิ์ของพวกเขา นอกจากนี้ จราจรติดขัดเป็นปัญหาสำคัญสำหรับมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในเมือง ถนนแออัดเกินไปกับรถยนต์และคนที่ทำให้ชีวิตมีความเครียดได้  อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อาศัยอยู่ในชนบทสามารถเพลิดเพลินกับต้นไม้ สัตว์เมื่อพวกเขาไปซื้อ หรือ ไปทำงานกับความสงบของจิตใจ ดีกว่าเสมอไม่ใช่คนทุกคนจะชอบอยู่ ชีวิตไม่มั่นคง มีของข้อดีและข้อเสียของมัน ทุกคนมีทางเลือกอยู่ ในชนบท หรือ ในเมือง ขึ้นอยู่กับอะไรเขาจริง ๆ ต้องการเช่นความเงียบหรือโอกาสดี สิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้นกับสถานที่ที่เสียงดังหรือน้อยโอกาสที่ มีอากาศสดชื่น และบริสุทธิ์ แม้อาศัยอยู่ในเมืองมีโอกาสดีในการค้นหางาน ให้การศึกษาที่ดี ตัวเลือกมากมายกับชีวิตของพวกเขา คนในชนบทที่สดผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย เรื่องงานเพื่อมนุษย์เพื่อการตัดสินใจที่จะอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นานมาแล้วที่ผู้คนชอบที่จะอาศัยอยู่ในชนบทที่ไปทำงานหรือไปอยู่กับพ่อแม่ของพวกเขามอบให้ เนื่องจากการขยายตัวของเมืองที่ผู้คนมีแนวโน้มที่จะออกจากชนบทเพื่อติดตั้งในเมือง ดังนั้นเมืองจะแออัดเสมอและชีวิตกลายเป็นเครียดมากขึ้น ปัจจุบันผู้คนมีตัวเลือกมากมายที่จะอยู่ในเมืองหรือชนบท มันขึ้นอยู่กับทางเลือกเหล่านั้น มีบางคนที่ต้องการความเป็นสถานที่เงียบสงบและเงียบสงบมี; ตรงกันข้ามคนอื่น ๆ ชอบที่จะมีงานที่ดีและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกมากมาย ในความเป็นจริงที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีความแตกต่างมากมายกว่าที่อาศัยอยู่ในชนบท คนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีโอกาสที่ดีกว่า, สิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้นในขณะที่คนที่อาศัยอยู่ในชนบทได้รับสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ที่อาศัยอยู่ในชนบทที่มีความแตกต่างจากการใช้ชีวิตในเมืองในวิธีการทำงาน ทั้งสองคนที่อาศัยอยู่ในชนบทและผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ทำงาน แต่พวกเขาทำงานที่แตกต่างกัน ในชนบทคนมักทำงานนอกเป็นเกษตรกรในขณะที่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่การทำงานภายใน นอกจากนี้ยังมีโอกาสมากขึ้นที่จะหางานที่ดีกว่าในเมืองชนบทเพราะมี บริษัท มากและสถาบันมากขึ้นในการใช้ชีวิตในเมือง ดังนั้นคนที่มีตัวเลือกมากขึ้นในการใช้งานที่แตกต่างกัน แตกต่างก็คือคนที่อยู่ในเมืองที่มี โอกาสที่ดีที่จะมีการศึกษาที่ดี มีหลายประเภทที่แตกต่างกันของรายใหญ่ที่จะไล่ตามเป้าหมายของพวกเขา เมืองที่มักจะมีมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดหรือวิทยาลัย ตรงกันข้ามกับคนในเมืองที่ชีวิตในชนบทได้มีการ จำกัด การศึกษาเพื่อให้พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะมีงานที่ดีขึ้น นอกจากนี้อาจารย์ที่ดีที่สุดหรือมืออาชีพมักจะอาศัยอยู่ในเมืองเพื่อหาสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่นสำหรับคนที่อาศัยอยู่ที่ไร่ถ้าพวกเขาต้องการที่จะมีปริญญาตรีหรือ Ph. D ในที่สำคัญจะต้องย้ายในเมืองเช่นไมอามี่เพื่อตระหนักถึงความฝันของพวกเขา สิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างชีวิตในเมืองและชีวิตในชนบททำให้ความแตกต่างใหญ่ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกมากมายเช่นการดูแลสุขภาพ, ตัวเลือกมากขึ้นที่จะไปช้อปปิ้งและทางเลือกมากขึ้นที่จะสนุกกับชีวิตของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่นในเมืองที่คนมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ซูเปอร์มาร์เก็ตจำนวนมากและหลายโรงละครที่จะสนุกกับตัวเอง การดูแลสุขภาพที่ดีกว่าในเมืองมากกว่าในชนบท ผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดเสมออยู่ในเมืองที่มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้การขนส่งเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองอื่น พวกเขามีทางเลือกมากมายที่จะไปทำงานเช่นรถบัสรถไฟหรือรถของพวกเขา ในอีกทางหนึ่งที่อาศัยอยู่ในชนบทเป็นเรื่องยากมากที่จะไปทำงาน บางครั้งคนที่ต้องรอนานกว่าหนึ่งชั่วโมงที่จะหารถบัสหรือรถที่จะนั่งด้วยกันกับพื้นที่ใกล้เคียงอีก เพื่อที่พวกเขาจะต้องเสมอในเวลา แม้ว่าที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีความเป็นไปได้มากขึ้นและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ก็มีด้านที่ไม่ดีของมันเกินไป บุคคลที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีการเผชิญหน้ากับทุกชนิดที่แตกต่างกันของมลพิษ เพราะหลายคันเพื่อให้รถบัสและโรงงาน, สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังและก่อให้เกิดมลพิษ ในทางตรงกันข้ามในชนบทคนเพลิดเพลินไปกับอากาศบริสุทธิ์และอยู่ในสถานที่เงียบสงบและเงียบสงบ นอกจากนี้ของเสียจากครัวเรือนและโรงงานก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ ดังนั้นแม่น้ำหลายสายในเมืองที่มีการปนเปื้อนในขณะที่คนที่อาศัยอยู่ในชนบทใช้น้ำบริสุทธิ์ของพวกเขา นอกจากนี้การจราจรติดขัดยังเป็นปัญหาที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในเมือง ถนนที่แออัดเกินไปกับรถยนต์และผู้คนที่ทำให้ชีวิตเครียด.  แต่คนที่อาศัยอยู่ในชนบทสามารถเพลิดเพลินกับต้นไม้สัตว์เมื่อพวกเขาไปซื้อหรือการทำงานกับความสงบของจิตใจ สถานที่ที่ดีไม่ได้เสมอหนึ่งที่ทุกคนต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ ชีวิตไม่ได้มีเสถียรภาพ; แต่ก็มีข้อดีและข้อเสียของมัน ทุกคนมีทางเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ในชนบทหรือในเมือง มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขา / เธอต้องการจริงๆเช่นสถานที่เงียบสงบหรือโอกาสที่ดีกว่า, สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่มีสถานที่ที่มีเสียงดังหรือโอกาสน้อยที่มีอากาศบริสุทธิ์และบริสุทธิ์ แม้ว่าที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีโอกาสดีกว่าที่จะหางานทำเพื่อให้มีการศึกษาที่ดีตัวเลือกมากมายให้สนุกกับชีวิตของพวกเขาคนในชนบทมีชีวิตอยู่กับความสงบของจิตใจสูดอากาศบริสุทธิ์และอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย มัน opts เพื่อมนุษย์ที่จะตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่
 

 

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นานมาแล้วผู้คนที่ต้องการที่จะอาศัยอยู่ในชนบทเพื่อทำงานหรืออยู่ร่วมกับ แกรนท์ ทำไมพ่อแม่ เพราะเมืองที่ผู้คนมักจะทิ้งชนบทเพื่อติดตั้งในเมือง ดังนั้น เมืองอยู่เสมอแออัดและชีวิตกลายเป็นเครียดมากขึ้น ผู้คนสมัยนี้มีตัวเลือกมากมายที่จะอยู่ในเมืองหรือชนบท มันขึ้นอยู่กับตัวเลือกเหล่านั้นบางคนทำไมชอบสถานที่เงียบสงบ ; อุปสงค์ , คนอื่น ๆชอบที่จะได้งานที่ดีและสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ในความเป็นจริง , ที่อาศัยอยู่ในเมืองมีความแตกต่างมากมายกว่าที่อาศัยอยู่ในชนบท คนที่อยู่ในเมืองมีโอกาสดีกว่าเครื่องมากขึ้น ในขณะที่คนที่อาศัยอยู่ในชนบทได้รับดีกว่าชีวิตสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่ในชนบทที่แตกต่างจากชีวิตในเมือง ในเวลาทำงาน ทั้งผู้คนที่อาศัยอยู่ในชนบท และผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง แต่พวกเขาทำงานแตกต่างกัน ในชนบท ผู้คนทำงานนอกบ้านเป็นเกษตรกร และประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองทำงานข้างใน นอกจากนี้มีมากกว่าโอกาสที่จะได้งานที่ดีกว่าในเมืองมากกว่าชนบท เพราะมีบริษัทและสถาบันมากขึ้นในชีวิตเมือง ทำให้ประชาชนมีตัวเลือกมากขึ้น เพื่อใช้สำหรับงานที่แตกต่างกัน ความแตกต่างอีกประการหนึ่ง คือ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองมี

อะไรดีกว่าอะไร โอกาสที่จะได้รับการศึกษาที่ดี มีชนิดที่แตกต่างกันของสาขาที่จะไล่ตามเป้าหมายของพวกเขาเมืองที่มักจะมีมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย อุปสงค์ของประชาชนในเมือง ชีวิตในชนบทมี จำกัด การศึกษา เพื่อให้พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะได้งานที่ดีกว่า นอกจากนี้ดีที่สุดรึเปล่าอาจารย์หรือมืออาชีพอยู่ในเมืองเพื่อหาชีวิตที่ดีกว่าเงื่อนไข ตัวอย่าง สำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่บ้านพัก หากพวกเขาต้องการที่จะได้รับปริญญาหรือปร .D ในสาขาต้องไปในเมืองไมอามี่ เพื่อตระหนักถึงความฝันของพวกเขา สิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างชีวิตในเมืองและชีวิตในชนบทที่สร้างความแตกต่างใหญ่ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองมีความสะดวกมากขึ้น เช่น การดูแลสุขภาพ ตัวเลือกมากขึ้นไปช้อปปิ้ง และทางเลือกมากขึ้นในการเพลิดเพลินกับชีวิตของพวกเขา เช่น ในเมือง ผู้คนมีโรงพยาบาลใหญ่ ซูเปอร์ตลาดหลายและหลายโรงจะเพลิดเพลินกับตัวเอง การดูแลสุขภาพที่ดีกว่าในเมืองมากกว่าในชนบท ผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดมักจะอยู่ในเมืองที่จะมีชีวิตที่ดีกว่าเงื่อนไข นอกจากนี้ การขนส่งที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง พวกเขามีตัวเลือกมากมายเพื่อไปทำงาน เช่น รถเมล์ รถไฟ หรือรถยนต์ บนมืออื่น ๆการใช้ชีวิตในชนบทยากที่จะไปทำงาน บางครั้ง คนเราต้องรอมากกว่าหนึ่งชั่วโมงเพื่อหารถบัส หรือจะนั่งด้วยกันกับชุมชนอื่น พวกเค้าต้องถูกเสมอในเวลา แม้อยู่ในเมือง มีความเป็นไปได้มากขึ้นและสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม มันมีด้านดีของมันเหมือนกันคนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ต้องเผชิญหน้ากับชนิดของมลพิษ เพราะหลายคันรถบัส และโรงงาน สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังและก่อให้เกิดมลพิษ ในทางตรงกันข้าม ในชนบท คนเพลิดเพลินกับอากาศบริสุทธิ์ และอยู่ในสถานที่ที่เงียบและสงบ นอกจากนี้ ของเสียจากโรงงานในครัวเรือนและก่อให้เกิดมลพิษน้ำ ดังนั้น แม่น้ำหลายในเมืองมลพิษส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ในชนบท ใช้น้ำบริสุทธิ์ นอกจากนี้ รถติดก็ยังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในเมือง ถนนที่หนาแน่นไปด้วยรถและผู้คนที่ทำให้ชีวิตที่เคร่งเครียด รึเปล่า

อะไรแต่คนที่อาศัยอยู่ในชนบทสามารถเพลิดเพลินกับต้นไม้ สัตว์ เมื่อพวกเขาไปซื้อ หรือไปทำงานกับความสงบของจิตใจสถานที่ที่ดีกว่าคือไม่เสมอหนึ่งที่ทุกคนต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ ชีวิตจะไม่มั่นคง มันมีข้อดีและข้อเสียของมัน ทุกคนมีทางเลือกที่จะอยู่ในชนบทหรือในเมือง มันขึ้นอยู่กับว่า เขา / เธอ ต้องการ เช่น สถานที่เงียบสงบ หรือโอกาสที่ดีกว่า , อีกเครื่องกับที่เสียงดังหรือน้อยกว่า โอกาส ด้วยความสด และอากาศบริสุทธิ์แม้อยู่ในเมือง มี โอกาสที่ดีกว่า หา งาน ให้มีการศึกษาที่ดี หลายตัวเลือกที่เพลิดเพลินกับชีวิต ผู้คนในชนบท อยู่กับความสงบของจิตใจ สูดอากาศบริสุทธิ์ และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย มันระวางมนุษย์ตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่