Research involvementAinscow, Booth,

Research involvement
Ainscow, Booth, Dyson (2006) conducted research by collecting data from staff
and students in order to map the process of change in schools. Through this, the research
was able to provide deeper theoretical insight, into the impact of practitioner research as
a means of increasing student participation and learning. With this approach Ainscow,
Booth, and Dyson (2006) suggested research for creating inclusive practices which are as
follows:
Research into school practices in relation to the agenda of practitioners. This involved
a process of colleting evidence of school development in a way that is separate from,
and complementary to, the review and development processes used within the school.
It involved the university research teams in collecting evidence about developments
in the school and feeding this information back in a way that was intended to foster
and deepen the engagement of practitioners.
Research into school practices and the practices of researchers in relation to the
agenda of practitioners and researchers. This involved an ongoing mutual dialogue
Special Education in Thailand
10
between ‘Outsiders’ and ‘insiders’, as evidence is collected and discussed during
visits, or through e-mails and phone calls, to discuss progress and priorities. It
included an engagement with the thinking and actions of researchers as well as
practitioners.
Research into school practices in relation to the agenda of researcher. In
order to analyze school practices in relation to wider policy and the oretical contexts,
the research teams also found it necessary sometimes to adopt a more detached
perspective. p.196-197
Right now various research agenda provide funding for academics to work with
schools for both knowledge related to special education development and train teachers
so that they can manage inclusive classrooms effectively. A compulsory course is also
offered under the teacher-profession pre-service degree program. During the last five
years, public schools have grown more aware of children with special needs. Nowadays,
people with high-function autism are recognized as members of society as compared to the
past, this group of mentally limited was considered as an insane group. The condition, as
learning disabilities are well recognized by teachers and educators. In the past, this group
of students was judged as a mental disabled and a bad-behaviour group. The other group
of children which showed up in mainstream education is attention deficit/hypertension
disorder. It is not listed under the law as a group of diverse needs yet. But in the
education community, we recognized them and identified approaches to help them learn
according to their abilities. At the policy level, regulations for funding support for parents with
children with special needs are announced. The family can submit their letters and receive
some government funds for facilities and learning materials in practice schools can also
obtain facilities provided that they submit a project. As for teachers themselves, they and
stakeholders can develop an Individualized Educational Plan for each student and submit
them to the Special Education Center in their provinces. The fund is B/2,000 a case per
year. But only a small number of people would know about this support. But it was found
out that teachers and school communities do not have knowledge to develop Individualized
Educational Plans for helping students. However, the Ministry of Education is trying to
develop teachersí knowledge about special education. They allocated a special budget for
in-service training for special education. But with manpower limitations, they do not have
a monitoring and following-up program.
One important issue that needs to be addressed from the policy level is the
behavior and values of the public and educators toward inclusive education. Majority of
general public still do not have knowledge and hardly understand inclusive education. They
have been seeing students with special needs in separate institutes. Nowadays, when they
come across certain types of students with special needs in the mainstream, they do not
understand and sometimes people do not notice it. So the policy level needs a lot of
public relations and public dissemination information in communities and in the society as
a whole.
Once the public and community know and understand working with students with
diverse needs, it will not be so hard. However, the policy level should also provide some
special reward or motivation for those who teach enthusiastically to students with needs.
Knowledge and understanding towards it will lead to a proper values, caring and that unity
and collaboration in work should not be so difficult.
Narot
11
However the academics themselves should work continuously and develop a wider
network based on their research strategies with schools and develop relationships with
local policy-makers .Through the educational process, if coupled with vigorous cooperation
between, stakeholders, educators, and academics, the awareness of the process and success
of the program should inevitably be reached and obtained.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิจัยการมีส่วนร่วม
ainscow บูธไดสัน (2006) ได้ทำการวิจัยโดยการจัดเก็บข้อมูลจากพนักงาน
และนักเรียนเพื่อให้แผนที่กระบวนการของการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียน ผ่านการวิจัย
ก็สามารถที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกทางทฤษฎีลึกลงไปในผลกระทบของการวิจัยประกอบการเป็น
วิธีการของการเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียนและการเรียนรู้ ด้วย ainscow วิธีนี้
บูธและไดสัน (2006) ชี้ให้เห็นการวิจัยสำหรับการสร้างการปฏิบัติรวมซึ่งเป็น
ดังนี้
การวิจัยในการปฏิบัติในโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุมของผู้ปฏิบัติงาน นี้เกี่ยวข้องกับกระบวนการของการ
colleting หลักฐานของการพัฒนาโรงเรียนในทางที่แยกจาก
และประกอบกับการตรวจสอบและการพัฒนากระบวนการที่ใช้ภายในโรงเรียน.
มันเกี่ยวข้องกับทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยในการเก็บรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับการพัฒนา
ในโรงเรียนและการให้อาหารข้อมูลนี้กลับมาอยู่ในวิธีการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริม
และลึกมากขึ้นการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติงาน.
การวิจัยในการปฏิบัติโรงเรียนและการปฏิบัติของนักวิจัยในความสัมพันธ์กับ
วาระการประชุมของผู้ปฏิบัติงานและนักวิจัย นี้เกี่ยวข้องกับการเจรจาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
การศึกษาพิเศษในประเทศไทย
10
ระหว่าง 'คนนอก' และ 'ภายใน' เป็นหลักฐานที่เก็บรวบรวมและการหารือระหว่างการเข้าชม
หรือผ่านอีเมลและโทรศัพท์เพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าและการจัดลำดับความสำคัญ มัน
รวมความผูกพันกับความคิดและการกระทำของนักวิจัยรวมทั้งผู้ปฏิบัติงาน
.
การวิจัยในการปฏิบัติในโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุมของนักวิจัย ใน
เพื่อวิเคราะห์วิธีปฏิบัติที่โรงเรียนในส่วนที่เกี่ยวกับนโยบายกว้างและบริบท oretical
ทีมวิจัยยังพบว่ามันจำเป็นที่จะนำมาใช้บางครั้งออกมากขึ้น
มุมมอง p.196-197
ตอนนี้วาระการวิจัยต่างๆให้เงินทุนสำหรับนักวิชาการที่จะทำงานกับ
โรงเรียนสำหรับทั้งความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษาพิเศษและการฝึกอบรมครูผู้สอน
เพื่อให้พวกเขาสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพชั้นเรียนรวม หลักสูตรภาคบังคับนอกจากนี้ยังนำเสนอภายใต้
ครูวิชาชีพหลักสูตรปริญญาก่อนให้บริการ ในช่วงห้าปีที่
โรงเรียนของรัฐมีการเติบโตมากขึ้นตระหนักถึงของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ปัจจุบัน
คนออทิสติกสูงฟังก์ชั่นได้รับการยอมรับในฐานะสมาชิกของสังคมเมื่อเทียบกับ
ผ่านมาจำกัด กลุ่มของจิตใจนี้ได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นกลุ่มคนบ้า สภาพที่เป็น
บกพร่องทางการเรียนรู้ได้รับการยอมรับอย่างดีจากครูและนักการศึกษา ในอดีตที่ผ่านมากลุ่มนี้
ของนักเรียนได้รับการตัดสินเป็นจิตพิการและกลุ่มที่ไม่ดีพฤติกรรม กลุ่มอื่น ๆ
ของเด็กซึ่งแสดงให้เห็นในการศึกษากระแสหลักคือการขาดดุลความสนใจ / ความดันโลหิตสูงโรค
มันไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายที่เป็นกลุ่มของความต้องการที่หลากหลายยัง แต่ในการศึกษาชุมชน
เราได้รับการยอมรับพวกเขาและระบุวิธีการที่จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้
ตามความสามารถของพวกเขา ในระดับนโยบายกฎระเบียบที่ให้การสนับสนุนเงินทุนสำหรับผู้ปกครองที่มีเด็ก
มีความต้องการพิเศษจะมีการประกาศ ครอบครัวสามารถส่งจดหมายของพวกเขาและได้รับ
บางคนเงินของรัฐบาลสิ่งอำนวยความสะดวกและสื่อการเรียนรู้ในโรงเรียนปฏิบัติยังสามารถได้รับสิ่งอำนวยความสะดวก
หากว่าพวกเขาส่งโครงการ เช่นเดียวกับครูของตัวเองที่พวกเขาและผู้มีส่วนได้เสีย
สามารถพัฒนาแผนการศึกษารายบุคคลสำหรับนักเรียนแต่ละคนและส่งพวกเขาไปยัง
ศูนย์การศึกษาพิเศษในจังหวัดของตน กองทุนเป็น b / 2,000 กรณีต่อ
ปีแต่มีเพียงจำนวนน้อยคนจะได้รู้เกี่ยวกับการสนับสนุนนี้ แต่มันก็พบ
ออกว่าครูและชุมชนโรงเรียนไม่ได้มีความรู้ในการพัฒนาแผนออมสิน
ศึกษาสำหรับช่วยเหลือนักเรียน แต่กระทรวงศึกษาธิการพยายามที่จะพัฒนาความรู้
เกี่ยวกับการศึกษาพิเศษteachersí พวกเขาจัดสรรงบประมาณพิเศษสำหรับ
การฝึกอบรมในการให้บริการการศึกษาพิเศษแต่ด้วยข้อ จำกัด ของกำลังคนที่พวกเขาไม่ได้มีการตรวจสอบ
และโปรแกรมดังต่อไปนี้ขึ้น.
ปัญหาหนึ่งที่สำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขจากระดับนโยบายที่
พฤติกรรมและค่านิยมของประชาชนและนักการศึกษาที่มีต่อการศึกษารวม ส่วนใหญ่ของ
ประชาชนทั่วไปยังคงไม่ได้มีความรู้และแทบจะไม่เข้าใจการศึกษารวม พวกเขา
ได้เห็นนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษในสถาบันการแยก ในปัจจุบันเมื่อพวกเขา
เจอบางประเภทของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษในกระแสหลักที่พวกเขาไม่ได้
เข้าใจและบางครั้งคนไม่ได้แจ้งให้ทราบว่า เพื่อให้ระดับนโยบายต้องการมากของ
ประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ข้อมูลของประชาชนในชุมชนและในสังคมเป็นทั้ง
.
เมื่อประชาชนและชุมชนรู้และเข้าใจการทำงานร่วมกับนักเรียนที่มีความต้องการที่หลากหลาย
, มันจะไม่เป็นอย่างหนัก แต่ระดับนโยบายควรให้บาง
รางวัลพิเศษหรือแรงจูงใจสำหรับผู้ที่กระตือรือร้นที่จะสอนนักเรียนที่มีความต้องการ.
ความรู้และความเข้าใจต่อมันจะนำไปสู่​​ค่าที่เหมาะสมการดูแลและความสามัคคีที่
และความร่วมมือในการทำงานไม่ควรจะเป็นเรื่องยากมาก.

11 Narot
แต่นักวิชาการที่ตัวเองควรจะทำงานอย่างต่อเนื่องและการพัฒนาที่กว้างขึ้น
เครือข่ายตามกลยุทธ์การวิจัยของพวกเขากับโรงเรียนและพัฒนาความสัมพันธ์กับท้องถิ่น
กำหนดนโยบาย. ผ่านขั้นตอนการศึกษา, ถ้าคู่กับความร่วมมือแข็งแรง
ระหว่างผู้มีส่วนได้เสียการศึกษาและนักวิชาการการรับรู้ของกระบวนการและความสำเร็จของโปรแกรม
ที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมาถึงและได้รับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

งานวิจัยเกี่ยวข้อง
Ainscow บูธ Dyson ดำเนินวิจัย (2006) โดยการรวบรวมข้อมูลจากพนักงาน
เพื่อแผนผังกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนที่นักเรียน ผ่านทางนี้ การวิจัย
ได้ลึกเข้าใจทฤษฎี ในผลกระทบของผู้ประกอบการวิจัยเป็น
หมายถึงเพิ่มขึ้นนักเรียนมีส่วนร่วม และเรียนรู้ ด้วยวิธีการนี้ Ainscow,
บูธ และ Dyson (2006) แนะนำวิจัยปฏิบัติรวมซึ่งจะเป็นการสร้าง
ดังต่อไปนี้:
วิจัยเป็นแนวทางปฏิบัติของโรงเรียนเกี่ยวกับวาระการประชุมของผู้ เกี่ยวข้องนี้
กระบวนการ colleting หลักฐานของการพัฒนาโรงเรียนที่แยกต่างหากจาก,
และเสริมการ กระบวนการตรวจสอบและพัฒนาที่ใช้ภายในโรงเรียน
มันเกี่ยวข้องกับทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยในการรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับการพัฒนา
ในโรงเรียนและการป้อนข้อมูลนี้กลับมาในลักษณะที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม
และลึกซึ้งยิ่งขึ้นความผูกพันของผู้
วิจัยในโรงเรียนปฏิบัติและระเบียบปฏิบัติของนักวิจัยการ
วาระของผู้วิจัย นี้เกี่ยวข้องกับการพูดคุยซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง
การศึกษาพิเศษในประเทศไทย
10
ระหว่าง 'บุคคลภายนอก' และ 'บุคคล ' ภายใน เป็นหลักฐานเก็บรวบรวม และกล่าวถึงระหว่าง
เข้าชม หรือผ่าน ทางอีเมล์และโทรศัพท์ เพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าและลำดับความสำคัญ มัน
รวมการหมั้น ด้วยการคิดและการดำเนินการวิจัยเป็น
ผู้การ
วิจัยในโรงเรียนปฏิบัติเกี่ยวกับวาระการประชุมของนักวิจัย ใน
สั่งเพื่อวิเคราะห์แนวทางปฏิบัติของโรงเรียนเกี่ยวกับนโยบายกว้างและบริบท oretical,
ทีมวิจัยยังพบว่าจำเป็นในบางครั้งจะนำมาใช้เดี่ยวมาก
มุมมอง p.196 197
วันนี้วาระวิจัยต่าง ๆ ให้ทุนสำหรับนักวิชาการทำงานด้วย
โรงเรียนรู้ทั้งที่เกี่ยวข้องกับครูการศึกษาพิเศษพัฒนาและรถไฟ
เพื่อให้พวกเขาสามารถจัดการห้องเรียนรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นหลักสูตรบังคับ
เสนอภายใต้โปรแกรมบริการล่วงหน้าระดับครูอาชีพ ในระหว่างห้าล่าสุด
ปี โรงเรียนมีโตตระหนักถึงเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ปัจจุบัน,
คนที่ มีโรคออทิซึมสูงฟังก์ชันมีการรับรู้เป็นสมาชิกของสังคมเป็น compared เพื่อ
อดีต กลุ่มนี้ใจจำกัดที่ถือเป็นกลุ่มบ้า เงื่อนไข เป็น
พิการทางการเรียนดีได้รับการยอมรับจากครูและนักการศึกษา ในอดีต กลุ่มนี้
นักเรียนถูกตัดสินเป็นผู้พิการทางจิตและกลุ่มพฤติกรรมที่ไม่ดี กลุ่มอื่น ๆ
เด็กซึ่งแสดงให้เห็นค่าในหลักการศึกษาคือขาดดุลความสนใจ/ความดันโลหิต
โรค จึงไม่อยู่ภายใต้กฎหมายเป็นกลุ่มของความต้องการหลากหลายยัง แต่ในการ
การศึกษาชุมชน เรารู้จักพวกเขา และระบุแนวทางเพื่อช่วยในการเรียนรู้
ตามความสามารถของพวกเขา ระดับนโยบาย กฎระเบียบสำหรับการจัดหาเงินทุนสนับสนุนสำหรับผู้ปกครองด้วย
เด็กที่ มีความต้องการพิเศษจะประกาศ ครอบครัวสามารถส่งจดหมายของพวกเขา และรับ
บางกองทุนรัฐบาลสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกและวัสดุการเรียนรู้ในโรงเรียนปฏิบัติสามารถ
ขอรับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ส่งโครงการได้ ส่วนครูเอง พวกเขา และ
เสียสามารถพัฒนาการ Individualized ศึกษาแผนสำหรับนักศึกษา และส่ง
เขาศูนย์การศึกษาพิเศษในจังหวัดของตนได้ กองทุนรวมเป็น B/2000 กรณีต่อ
ปี แต่เพียงจำนวนน้อยคนจะทราบเกี่ยวกับการสนับสนุนนี้ แต่พบ
เห็นว่า ครูและโรงเรียนชุมชนไม่มีความรู้ในการพัฒนา Individualized
แผนการศึกษาสำหรับช่วยเหลือนักเรียน อย่างไรก็ตาม การพยายามการกระทรวงศึกษาธิการ
พัฒนา teachersí ความรู้เกี่ยวกับการศึกษาพิเศษ พวกเขาจัดสรรงบประมาณพิเศษสำหรับ
ฝึกอบรมสำหรับการศึกษาพิเศษในบริการ แต่ มีข้อจำกัดกำลังคน ไม่มี
เป็น ค่าต่อไปนี้ และตรวจสอบโปรแกรม
เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับจากระดับนโยบาย
ลักษณะและค่าของรัฐและนักการศึกษาต่อศึกษารวม ส่วนใหญ่
ประชาชนทั่วไปยังไม่มีความรู้ และไม่เข้าใจการศึกษารวมกัน พวกเขา
มีการเห็นนักเรียนที่ มีความต้องการพิเศษในสถาบันต่างหาก ในปัจจุบัน เมื่อพวกเขา
มาในบางชนิดของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษในกับ ไม่
เข้าใจ และบางคนไม่สังเกตก็ ดังนั้นระดับนโยบายต้องการจำนวนมาก
ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สาธารณะข้อมูล ในชุมชน และ ในสังคมเป็น
ทั้งหมด
เมื่อรัฐและชุมชนทราบ และเข้าใจการทำงาน ด้วยเรียนด้วย
หลากหลายต้อง มันจะไม่ยากมาก อย่างไรก็ตาม ในระดับนโยบายควรแก่บาง
รางวัลพิเศษหรือแรงจูงใจสำหรับผู้ที่สอนให้นักเรียนมีความต้องการใหม่ ๆ
ความรู้ความเข้าใจต่อมันจะทำให้มูลค่าเหมาะสม เสน่ห์และความสามัคคีที่
และความร่วมมือในการทำงานไม่ควรให้ยาก
Narot
11
อย่างไรก็ตาม นักวิชาการตัวเองควรทำงานอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาความกว้าง
ตามกลยุทธ์การวิจัยกับโรงเรียนเครือข่าย และพัฒนาความสัมพันธ์กับ
policy-makers ท้องถิ่นผ่านกระบวนการศึกษา ถ้าควบคู่ไปกับความร่วมมือคึกคัก
ระหว่าง เสีย นักการศึกษา นักวิชาการ การรับรู้กระบวนการและความสำเร็จ
ของโปรแกรมย่อมควรจะมาถึง และได้รับการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยการมีส่วนร่วมออกบูธ ainscow dyson ( 2006 )ทำวิจัยโดยการรวบรวมข้อมูลจากพนักงาน
และนักเรียนในการสั่งซื้อในแผนที่การเปลี่ยนแปลงในโรงเรียน ผ่านงานวิจัยนี้ได้
ซึ่งจะช่วยได้สามารถที่จะให้ความรู้ความเข้าใจในทางทฤษฎีลึกลงไปถึงผลกระทบของการวิจัยแพทย์เป็น
ซึ่งจะช่วยในการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมสำหรับนักเรียนเพิ่มขึ้น ด้วยวิธีการนี้ ainscow
บูธและ dyson ( 2006 )ที่แนะนำสำหรับการสร้างแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการวิจัยแบบครบวงจรซึ่งเป็น
ซึ่งจะช่วยโดยมีรายละเอียดดังนี้การวิจัย:
เข้าสู่การปฏิบัติในโรงเรียนความสัมพันธ์ในวาระการประชุมของผู้ประกอบ โรงแรมแห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการ
ซึ่งจะช่วยให้การจัดเก็บหลักฐานในการพัฒนาโรงเรียนในทางที่ถูกแยกพื้นที่ออกจากกันจาก
และสมบรูณ์แบบสำหรับการพัฒนาและมีการทบทวนกระบวนการใช้ ภายใน โรงเรียนที่.
โรงแรมมีส่วนเกี่ยวข้องที่มหาวิทยาลัยด้านการวิจัยทีมในการรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับการพัฒนา
ซึ่งจะช่วยในการป้อนนมที่โรงเรียนแห่งนี้และข้อมูลกลับไปในทางที่จะมีความตั้งใจที่จะทำนุบำรุง
ซึ่งจะช่วยให้เกิดการหมั้นหมายของผู้ประกอบ.
การวิจัยเข้าสู่โรงเรียนและการปฏิบัติการปฏิบัติของนักวิจัยในความสัมพันธ์ที่
วาระของผู้ประกอบและนักวิจัย. โรงแรมแห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกล่องโต้ตอบกันอย่างต่อเนื่องที่
ตามมาตรฐานการศึกษาพิเศษในประเทศไทย

10 ระหว่าง"บุคคล ภายนอก และนักวิชาการออก''เป็นหลักฐานได้เก็บรวบรวมและหารือระหว่าง
หรือการเที่ยวชมผ่านทางอีเมลและโทรศัพท์เพื่อหารือและลำดับความสำคัญความคืบหน้า.
ซึ่งจะช่วยได้รวมถึงการที่มีความคิดและการกระทำของบรรดานักวิจัยเป็นอย่างดีเป็นการวิจัย
ซึ่งจะช่วยผู้ประกอบ.
เข้าสู่การปฏิบัติในความสัมพันธ์กับวาระของนักวิจัย ใน
ตามมาตรฐานการสั่งซื้อในการวิเคราะห์การโรงเรียนในความสัมพันธ์กับนโยบายกว้างขึ้นและบริบท oretical ที่
ทีมวิจัยยังพบว่าความจำเป็นบางครั้งการนำบ้านเดี่ยวมากขึ้น
ซึ่งจะช่วยเปิดมุมมอง. p . 196-197 ที่
อยู่ในขณะนี้วาระการวิจัยต่างๆให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับสถานศึกษาในการทำงานพร้อมด้วย
โรงเรียนสำหรับทั้งความรู้ที่เกี่ยวข้องกับครูการศึกษาพิเศษและการพัฒนารถไฟ
เพื่อว่าพวกเขาสามารถจัดการห้องเรียนแบบครบวงจรได้อย่างมี ประสิทธิภาพ แน่นอนว่าพ.ร.บ.ที่มีให้บริการตามโครงการระดับ Pre - บริการแบบที่ครูวิชาชีพที่ยัง
ตามมาตรฐาน ในช่วงสุดท้ายห้า
ปีที่โรงเรียนได้มากขึ้นรู้ของเด็กมีความต้องการพิเศษ ในปัจจุบันนี้
ผู้ที่มีออทิซึ่มยังทำงานสูงเป็นที่รู้จักในฐานะสมาชิกของสังคมเมื่อเทียบกับ
ที่ผ่านมากลุ่มนี้ของจิตใจจำกัด(มหาชน)ได้รับการพิจารณาให้เป็นดังที่กลุ่มวิกลจริต สภาพ ที่เป็นผู้ ทุพพลภาพ
ซึ่งจะช่วยการเรียนรู้โดยได้รับการยอมรับจากนักการศึกษาและครูอาจารย์เป็นอย่างดี. ในอดีตกลุ่มนี้
ของนักศึกษาเป็นผู้ตัดสินเลือกผู้ได้รับเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ถูกปิดใช้งานและไม่ดี - พฤติกรรมจิตใจ กลุ่มอื่นที่
ของเด็กซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีขึ้นในการศึกษาทั่วไปมีความสนใจการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด/ความดันเลือดสูง
โรคไม่ได้แสดงอยู่ในรายการ ภายใต้ กฎหมายที่เป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่แตกต่างกันแต่ แต่ในชุมชน
ซึ่งจะช่วยการศึกษาที่เราได้รับการยอมรับว่าเขาและระบุว่าแนวทางในการช่วยให้เด็กได้เรียนรู้
ตามความสามารถของพวกเขา ในระดับนโยบายกฎระเบียบสำหรับการให้เงินอุดหนุนการสนับสนุนสำหรับคุณพ่อคุณแม่ด้วย
สำหรับเด็กที่พร้อมด้วยความต้องการพิเศษได้ประกาศ ครอบครัวที่สามารถส่งจดหมายของพวกเขาและได้รับตอบแทน
กองทุนที่รัฐบาลบางส่วนสำหรับสื่อการเรียนรู้และส่วนอำนวยความสะดวกต่างๆในโรงเรียนจะสามารถได้รับการจัดให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่พวกเขาส่งโครงการที่ยัง
ในส่วนของครูอาจารย์เขาและ
ซึ่งจะช่วยผู้มีส่วนได้เสียสามารถที่จะพัฒนาเป็นรายบุคคลเพื่อการศึกษาแผนที่สำหรับนักเรียนแต่ละคนและส่ง
ซึ่งจะช่วยให้ศูนย์กลางการศึกษาพิเศษที่ในจังหวัดของตน กองทุนที่มี B / 2 , 000 กรณีต่อ
ปีแต่มีเฉพาะหมายเลขขนาดเล็กของผู้คนจะรู้ว่าเกี่ยวกับการสนับสนุนนี้ แต่จะพบ
ออกมาว่าครูและชุมชนโรงเรียนไม่มีความรู้ในการพัฒนาแผน
ซึ่งจะช่วยการศึกษาเป็นรายบุคคลสำหรับการช่วยนักเรียน แต่ถึงอย่างไรก็ตามกระทรวงการศึกษาได้พยายามที่จะ
ซึ่งจะช่วยพัฒนาความรู้ teachersí เกี่ยวกับการศึกษาพิเศษ ห้องพักจัดให้บริการแบบจำกัดงบประมาณพิเศษสำหรับ
ซึ่งจะช่วยในการฝึกอบรมบริการสำหรับการศึกษาพิเศษแต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องการใช้กำลังคนจะไม่มี
ซึ่งจะช่วยให้การตรวจสอบและโปรแกรมต่อไปนี้: - ขึ้น.
หนึ่งปัญหาสำคัญที่จำเป็นต้องกำหนดจากระดับนโยบายที่มีค่าและ
ซึ่งจะช่วยการทำงานของนักการศึกษาและประชาชนที่ไปทางการศึกษาแบบครบวงจร ส่วนใหญ่ของ
ประชาชนทั่วไปยังไม่มีความรู้และไม่ได้ทำความเข้าใจการศึกษาแบบครบวงจร พวกเขา
ตามมาตรฐานได้รับการได้เห็นนักเรียนนักศึกษาที่มีความต้องการพิเศษในสถาบันแบบแยกพื้นที่ ในปัจจุบันนี้เมื่อเขา
ซึ่งจะช่วยเข้ามาในบาง ประเภท ของนักเรียนนักศึกษาที่มีความต้องการพิเศษในกระแสหลักไม่
ซึ่งจะช่วยทำความเข้าใจและบางครั้งคนเราไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าได้ ดังนั้นระดับนโยบายที่ต้องการข้อมูลเป็นจำนวนมากที่
ซึ่งจะช่วยประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ต่อสาธารณะในชุมชนและในสังคมที่เป็นทั้ง
ที่.
เมื่อชุมชนและประชาชนที่ทราบและเข้าใจการทำงานร่วมกับนักเรียนนักศึกษาที่มี
ซึ่งจะช่วยตอบสนองความต้องการที่หลากหลายซึ่งจะไม่เป็นการยากดังนั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามระดับนโยบายที่จะมีแรงบันดาลใจหรือให้รางวัล
ซึ่งจะช่วยพิเศษบางอย่างสำหรับผู้ที่กระตือรือร้นในการสอนนักเรียนนักศึกษาที่มีความรู้ความเข้าใจและความต้องการ.
ความรู้ไปหามันจะนำไปสู่ค่าที่เหมาะสมการเอาใจใส่และความสามัคคีที่
ยังและการประสานการทำงานร่วมกันในการทำงานไม่ควรเป็นอย่างนั้นยาก.

narot 11
อย่างไรก็ตามนักวิชาการควรทำงานอย่างต่อเนื่องและพัฒนาขึ้น
เครือข่ายที่ใช้กลยุทธ์การวิจัยกับโรงเรียนและพัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับ
ท้องถิ่นผู้วางนโยบาย.ผ่านกระบวนการทางการศึกษาหากประกอบกับความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่าง
ผู้มีส่วนได้เสียทั้งด้านวิชาการและนักการศึกษาความตระหนักของกระบวนการและประสบความสำเร็จ
ของโปรแกรมที่จะต้องมาถึงและได้รับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้