Chao Phraya Bodindecha (Thai: เจ้าพ

Chao Phraya Bodindecha (Thai: เจ้าพระยาบดินทรเดชา, personal name Sing Singhaseni, สิงห์ สิงหเสนี 1777–1849) was one of the most prominent political and military figures of the early Bangkok Rattanakosin Kingdom. Bodindecha was both a top military general (แม่ทัพใหญ่) and Chief Minister in charge of civilian affairs as the Akkhra Maha Senabodi (อัครมหาเสนาบดี) of the Samuha Nayok สมุหนายก) during the reign of King Rama III. He was known for putting down the Laotian Rebellion (1826–1828} (ปราบกบฎ) of Lord Anouvong of Vientiane (เจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์)[1] and for campaigns during the Siamese-Vietnamese Wars of 1831–1834 and 1841–1845.
Sing was born in 1777 in Bangkok during the Thonburi Kingdom period to Chao Phraya Abhayraja (Pin) and Lady Fug. Abhayraja sent Sing under service to Prince Isarasundhorn, the heir apparent. The prince was later crowned as Buddha Loetla Nabhalai and Sing was made a minor official, during which time he became acquainted with Prince Chetsadabodin. Prince Chetsadabodin was crowned as Rama III in 1824 and Sing was made Phraya Ratchasuphawadi.
In 1826, Anouvong the King of Vientiene led the Laotian Rebellion against the Bangkok government. King Rama III sent his uncle (and titular heir-apparent) Maha Sakdi Polsep to Isan, accompanied by Sing (as Phraya Ratchasuphawadi) to suppress the rebellion (ปราบกบฎ, literally, "adjust" rebel.) The campaign earned Sing royal favor and he was elevated from Phraya to Chao Phraya Ratchasuphawadi and made Chief Minister in charge of civilian affairs. Rama III later granted Sing the special title Bodindecha (บดินทรเดชา) made up from parts of the king's own princely title, Chetsadabodin (เจษฏาบดินทร์).
As chancellor, Bodindecha had full responsibility during the Siamese-Vietnamese War in Cambodia from 1841 to 1845. The two countries had long been quarreling over Cambodia, and in 1841 Rama III sent Siamese armies under Bodindecha to put Prince Ang Duong on the Cambodian throne. Bodindecha was able to take Udongk and Phnom Penh. A peace was negotiated in 1845 and Ang Duong put on the throne. Bodindecha stayed in Cambodia until 1848 when he returned to Siam and died a year later of cholera.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

chao พระยาบดินทรเดชา (ไทย: เจ้าพระยาบดินทรเดชาชื่อส่วนบุคคลสิงห์สิงหเสนี, สิงห์สิงหเสนี 1777-1849) เป็นหนึ่งในที่โดดเด่นที่สุดตัวเลขทางการเมืองและการทหารของอาณาจักรรัตนโกสินทร์ตอนต้นกรุงเทพฯบดินทรเดชาเป็นทั้งทหารทั่วไปด้านบน (แม่ทัพใหญ่) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหัวหน้าในความดูแลของกิจการพลเรือนเป็น akkhra มหา senabodi (อัครมหาเสนาบดี) ของนครนายก Samuha สมุหนายก) ในระหว่างรัชสมัยของรัชกาลเขาเป็นที่รู้จักสำหรับการวางลงกบฏลาว (1826-1828} (ปราบกบฎ) ของ anouvong ลอร์ดแห่งเวียงจันทน์ (เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์) [1] และสำหรับแคมเปญในช่วงสงครามเวียดนามสยามของ 1831-1834 และ 1841-1845.
สิงห์เกิดใน 1777 ในกรุงเทพฯในช่วงเวลาที่อาณาจักรธนบุรีจะ chao abhayraja พระยา (ขา) และผู้หญิงอบอ้าวabhayraja ส่งร้องเพลงภายใต้การบริการให้กับเจ้าชาย isarasundhorn ทายาท เจ้าชายปราบดาภิเษกภายหลังเป็นพระพุทธรูป loetla nabhalai และร้องเพลงได้ทำอย่างเป็นทางการเล็กน้อยในช่วงเวลาที่เขาเริ่มคุ้นเคยกับเจ้าชาย chetsadabodin เจ้าชาย chetsadabodin ปราบดาภิเษกเป็นพระราม iii ใน 1824 และร้องเพลงได้ทำพระยา ratchasuphawadi.
ใน 1826anouvong กษัตริย์แห่ง Vientiene นำการประท้วงต่อต้านรัฐบาลลาวกรุงเทพฯ รัชกาลส่งลุงของเขา (และตำแหน่งทายาท) มหาศักดิ์ polsep ไปอีสานพร้อมกับสิงห์ (ตามที่พระยา ratchasuphawadi) เพื่อปราบปรามการจลาจล (ปราบกบฎ, ตัวอักษร "ปรับ" กบฏ) แคมเปญที่ได้รับความโปรดปรานร้องเพลงพระราชและเขาได้รับการยกระดับจากพระยาเจ้าพระยา ratchasuphawadi และหัวหน้าคณะรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นในค่าใช้จ่ายของกิจการพลเรือน พระราม iii ที่ได้รับต่อมาร้องเพลงบดินทรเดชาชื่อพิเศษ (บดินทรเดชา) ที่ทำขึ้นมาจากชิ้นส่วนของชื่อเจ้ากษัตริย์เอง chetsadabodin (เจษฏาบดินทร์).
เป็นนายกรัฐมนตรีบดินทรเดชามีความรับผิดชอบเต็มรูปแบบในช่วงสงครามสยามเวียดนามในกัมพูชา 1841-1845 ทั้งสองประเทศมานานกว่าทะเลาะกัมพูชาและใน 1,841 พระ​​ราม iii ส่งกองทัพสยามภายใต้บดินทรเดชาจะนำเจ้าชายอ่าง Duong บนบัลลังก์กัมพูชา บดินทรเดชาก็สามารถที่จะใช้ udongk และพนมเปญ สันติภาพการเจรจาต่อรองในปี 1845 และอ่าง Duong วางอยู่บนบัลลังก์บดินทรเดชาอยู่ในกัมพูชาจนกว่า 1848 เมื่อเขากลับไปที่สยามและเสียชีวิตในปีต่อมาของโรคอหิวาต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชั้นเจ้าพระยา (ไทย: เจ้าพระยาบดินทรเดชา ส่วนบุคคลชื่อสิงห์สิงหเสนี สิงห์สิงหเสนี 1777–1849) ของตัวเลขโดดเด่นที่สุดของการเมือง และการทหารของอาณาจักรรัตนโกสินทร์กรุงเทพก่อน ชั้นถูกทั่วไปทหารสูงสุด (แม่ทัพใหญ่) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงประธานรับผิดชอบกิจการพลเรือนเป็น Senabodi การมา Akkhra (อัครมหาเสนาบดี) ของสมุหนายก Samuha นครนายก) ในรัชสมัยแห่งการ เขาถูกเรียกสำหรับการลงเจ้าอนุวงศ์ (1826–1828 } (ปราบกบฎ) ของพระเจ้า Anouvong ของเวียงจันทน์ (เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์) [1] และส่งเสริมการขายในระหว่างสงครามสยามเวียดนามของ 1831–1834 และ 1841–1845
สิงห์เกิด 1777 ในกรุงเทพช่วงอาณาจักรธนบุรีเจ้าพระยา Abhayraja (Pin) และเลดี้ Fug Abhayraja ส่งสิงห์ภายใต้บริการเจ้า Isarasundhorn ทายาท เจ้าชายได้ในภายหลังมงกุฎเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสิงห์ทำเป็นรอง ในช่วงเวลาที่เขาเป็นรู้จักกับเจ้าชาย Chetsadabodin เจ้าชาย Chetsadabodin มีมงกุฎเป็นพระราม III ใน 1824 และสิงห์ทำพระยา Ratchasuphawadi
ใน 1826 Anouvong นี่แหละน่าพระมหากษัตริย์ของอยู่นำต้านรัฐบาลกรุงเทพลาว แห่งส่งลุงของเขา (และ titular heir ชัดเจน) มหา Sakdi Polsep ไปอีสาน พร้อม ด้วยสิงห์ (เป็นพระยา Ratchasuphawadi) การปราบปรามกบฏ (ปราบกบฎ แท้จริง "ปรับ" กบฏส่งเสริมการขาย)ได้รับสิงห์รอยัลโปรดปราน และเขาถูกยกระดับจากเจ้าพระยากับเจ้าพระยา Ratchasuphawadi และทำว่ารับผิดชอบกิจการพลเรือน พระราม III ในภายหลังได้รับร้องเพลงพิเศษชื่อชั้น (บดินทรเดชา) สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนของพระ princely ชื่อ Chetsadabodin (เจษฏาบดินทร์) .
เป็นชานเซลเลอร์ ชั้นมีความรับผิดชอบทั้งหมดระหว่างสงครามสยามเวียดนามในกัมพูชาจาก 1841 ถึง 1845 ทั้งสองประเทศได้นานการทะเลาะผ่านกัมพูชา และใน 1841 พระราม III ส่งกองทัพสยามภายใต้ชั้นวาง Duong อ่างทองเจ้าราชบัลลังก์กัมพูชา ชั้นได้ Udongk และพนมเปญ มีเจรจาสันติภาพที่ในค.ศ. 1845 และดวงอ่างวางบนบัลลังก์ ชั้นอยู่ในกัมพูชาจนกระทั่งปี 1848 แห่งเมื่อเขากลับไปสยาม และเสียชีวิตใน ปีต่อมาของอหิวาตกโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจ้าพระยา bodindecha (ไทยเจ้าพระยาบดินทรเดชาชื่อส่วนตัวร้องเพลง singhaseni สิงห์สิงหเสนี 1777-1849 )เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางการเมืองและการทหารอย่างชัดเจนของกรุงเทพฯสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นbodindecha ก็คือยอดทหารทั่วไป(แม่ทัพใหญ่)และประธานรัฐมนตรีในการดูแลของกิจการพลเรือนเป็น akkhra ที่มหา senabodi (อัครมหาเสนาบดี)ของ samuha นายกสมุหนายก)ที่ทั้งสองในระหว่างรัชสมัยของกษัตริย์ถนนพระราม IIIเขาเป็นที่รู้จักสำหรับการลงของลาวการปฏิวัติ( 1826 - 1828 }(ปราบกบฎ)ของพระ anouvong ของเมืองเวียงจันทน์(เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์)[ 1 ]และสำหรับแคมเปญในระหว่างที่ siamese-vietnamese สงครามของ 1831 - 1834 และ 1841 - 1845 . N สิงห์เกิดใน 1777 ในกรุงเทพฯช่วงที่ฝั่งธนบุรีราชอาณาจักรช่วงเวลาในแม่น้ำเจ้าพระยา abhayraja ( PIN )และเลดี้ fug .abhayraja ส่งไปร้องเพลงตามบริการไปยัง Prince isarasundhorn ทายาทคงที่ Prince ที่สวมมงกุฎเป็นพระพุทธรูป loetla nabhalai ใน ภายหลัง และร้องเพลงก็ทำขึ้นอย่างเป็นทางการเล็กน้อยซึ่งในระหว่างนี้เวลาเขากลายเป็นความคุ้นเคยกับเจ้าชาย chetsadabodin Prince chetsadabodin สวมมงกุฎและถนนพระราม 3 ใน 1824 และร้องเพลงก็ทำให้พระยา ratchasuphawadi .
ในปีปี 1826anouvong กษัตริย์แห่งเวียงจันทน์ไฟ LED การปฏิวัติของลาวเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่กรุงเทพฯ กษัตริย์ถนนพระราม 3 และส่งลุง(และผู้รับมรดกโดยตำแหน่ง - )ของเขามหา sakdi polsep ใน ภาค อีสานพร้อมด้วยสิงห์(เป็นพระยา ratchasuphawadi )เพื่อระงับการปฏิวัติ(ปราบกบฎอย่างแท้จริง"ปรับ"กบฏ)แคมเปญที่ได้รับความนิยมพระสิงห์และเขาก็ยกระดับจากแม่น้ำเจ้าพระยาในแม่น้ำเจ้าพระยา ratchasuphawadi และทำให้หัวหน้ารัฐมนตรีในการดูแลของกิจการพลเรือน ถนนพระราม 3 ใน ภายหลัง ได้รับสิงห์ชื่อพิเศษที่ bodindecha (บดินทรเดชา)สร้างขึ้นจากทุกส่วนพื้นที่ของของเจ้าชื่อของกษัตริย์ที่นายกฯ chetsadabodin (เจษฏาบดินทร์)..
เป็นbodindecha ก็ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในระหว่าง siamese-vietnamese สงครามในประเทศกัมพูชาจาก 1841 เป็น 1845 ทั้งสองประเทศได้มีการทะเลาะกันในประเทศกัมพูชามานานและอยู่ใน 1841 ถนนพระราม 3 และส่งกองทัพไทย ภายใต้ bodindecha กับอ่าง ภาคเหนือ ในพระที่กัมพูชา bodindecha ก็สามารถนำ udongk และพนมเปญ สันติภาพ ที่ได้เจรจาใน 1845 และอ่าง ภาคเหนือ วางอยู่บนบัลลังก์bodindecha ยังอยู่ในประเทศกัมพูชาจนกว่า 1848 เมื่อเขากลับมาถึงไทยและเสียชีวิตปีที่ใน ภายหลัง ของอหิวาตกโรค