2 | Rear Window (1954) อยู่ในห้องเด

2 | Rear Window (1954) อยู่ในห้องเดียว(มองไปข้างนอก)

Rear Window นี่เป็นเรื่องแรกของฮิตช์ค็อกที่ผมได้มีโอกาสดูครับ เป็นความประทับใจแรกพบที่มีต่อผู้กำกับท่านนี้ด้วย ช่วงที่ผมดู Rear Window ช่วงนั้นผมยังไม่ค่อยกล้าดูหนังเก่า ๆ เก่ากว่า 1990 แทบไม่ได้ดูเลยครับ กลัวดูไม่สนุก ซึ่งพอได้ดูจริง ๆ หนังมันทำลายกำแพงอคติในใจเราออกไปหมดเลยและทำให้เราเริ่มต้นดูหนังเก่าจริงจัง

หนังเรื่องนี้นำเสนอแบบ Single Set ถ่ายทำฉากเดียวตลอดทั้งเรื่องครับ ตัวละคร 'เจฟฟ์' (James Stewart) ช่างภาพใส่เฝือกเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ต้องกายภาพบำบัดรอวันฟื้นตัว เขาเลือกจะฆ่าเวลาด้วยการเป็นถ้ำมองคอยสอดส่องดูเรื่องราวชีวิตเพื่อนบ้านผ่านทางหน้าต่าง

หนังมันเจ๋งตั้งแต่ไอเดียของการถ่ายทำฉากเดียว คือปกติเวลาเราดูหนังประเภทนี้มักจะโฟกัสที่คนในห้องคุยกันหรือสถานการณ์ที่ทำให้ติดแหง็ก แต่ Rear Window มันโฟกัสไปที่ความสงสัยว่าห้องฝั่งตรงข้ามจะมีเหตุฆาตกรรม ซึ่งต้องชมเลยว่าหนังไม่ได้ยัดเยียดแนวสืบสวนเข้ามาแบบประเจิดประเจ้อ แต่ใส่เข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วงต้นเรื่องหนังดำเนินเรื่องได้ธรรมชาติมากครับ เหมือนเรานั่งดูชีวิตของเจฟฟ์กับเพื่อนบ้านทั้งหลายแล้วเจอเหตุการณ์แปลก ๆ ของห้องฝั่งตรงข้ามไปพร้อมกับตัวละครครับ

ช่วงต้นเรื่องจึงเหมือนนั่งดูหนังชีวิตที่พูดถึงความสัมพันธ์ความรักของสองตัวละครในแง่มุมแบบผู้ใหญ่ที่เห็นเรื่องการแต่งงานจะกระทบอะไรบ้าง ซึ่งการมานั่งแลกเปลี่ยนทัศนคติกันมันช่วยให้หนังมีน้ำหนักมิติของตัวละครมากขึ้น ในขณะที่ช่วงสอดส่องห้องต่าง ๆ ก็ใช้การบรรยายผ่านภาพเต็มที่ทั้งท่าทางภาษากายและการแสดงออกของตัวละครโดยไม่ต้องใช้เสียงพากย์มาบรรยายเสริมก็เข้าใจได้ไม่ยาก

ตอนเริ่มสงสัยว่าหญิงสาวหายไปไหนดูสอดรู้สอดเห็นจริง ๆ ครับ โทนหนังแนว thriller mystery มาเต็ม ช่วงตื่นเต้นนี่ก็ลุ้นด้วยมุมกล้อง ช่วงสืบสวนชวนสงสัยผมก็สงสัยตาม เป็นหนังสืบสวนที่ยอดเยี่ยม ยิ่งถ่ายทำแบบฉากเดียวตลอดทั้งเรื่องอีกนี่ต้องบอกว่าโคตรยอดเยี่ยมเลยครับ หนังคลาสสิกเหนือกาลเวลาจริง ๆ ครับ ดูได้ทุกยุคทุกสมัยไม่มีเชยแน่นอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2 | หลังหน้าต่างอยู่ในห้องเดียว(มองไปข้างนอก) (1954)หลังหน้าต่างด้านหลังหน้าต่างนี่เป็นเรื่องแรกของฮิตช์ค็อกที่ผมได้มีโอกาสดูครับเป็นความประทับใจแรกพบที่มีต่อผู้กำกับท่านนี้ด้วยช่วงที่ผมดูช่วงนั้นผมยังไม่ค่อยกล้าดูหนังเก่าๆ เก่ากว่า 1990 แทบไม่ได้ดูเลยครับกลัวดูไม่สนุกซึ่งพอได้ดูจริงๆ หนังมันทำลายกำแพงอคติในใจเราออกไปหมดเลยและทำให้เราเริ่มต้นดูหนังเก่าจริงจังเดี่ยวหนังเรื่องนี้นำเสนอแบบช่างภาพใส่เฝือกเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ต้องกายภาพบำบัดรอวันฟื้นตัวเขาเลือกจะฆ่าเวลาด้วยการเป็นถ้ำมองคอยสอดส่องดูเรื่องราวชีวิตเพื่อนบ้านผ่านทางหน้าต่างถ่ายทำฉากเดียวตลอดทั้งเรื่องครับตัวละคร 'เจฟฟ์' (James สจ๊วต) ตั้งหนังมันเจ๋งตั้งแต่ไอเดียของการถ่ายทำฉากเดียวคือปกติเวลาเราดูหนังประเภทนี้มักจะโฟกัสที่คนในห้องคุยกันหรือสถานการณ์ที่ทำให้ติดแหง็กแต่หลังหน้าต่างมันโฟกัสไปที่ความสงสัยว่าห้องฝั่งตรงข้ามจะมีเหตุฆาตกรรมซึ่งต้องชมเลยว่าหนังไม่ได้ยัดเยียดแนวสืบสวนเข้ามาแบบประเจิดประเจ้อแต่ใส่เข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติช่วงต้นเรื่องหนังดำเนินเรื่องได้ธรรมชาติมากครับเหมือนเรานั่งดูชีวิตของเจฟฟ์กับเพื่อนบ้านทั้งหลายแล้วเจอเหตุการณ์แปลกๆ ของห้องฝั่งตรงข้ามไปพร้อมกับตัวละครครับช่วงต้นเรื่องจึงเหมือนนั่งดูหนังชีวิตที่พูดถึงความสัมพันธ์ความรักของสองตัวละครในแง่มุมแบบผู้ใหญ่ที่เห็นเรื่องการแต่งงานจะกระทบอะไรบ้างซึ่งการมานั่งแลกเปลี่ยนทัศนคติกันมันช่วยให้หนังมีน้ำหนักมิติของตัวละครมากขึ้นในขณะที่ช่วงสอดส่องห้องต่างๆ ก็ใช้การบรรยายผ่านภาพเต็มที่ทั้งท่าทางภาษากายและการแสดงออกของตัวละครโดยไม่ต้องใช้เสียงพากย์มาบรรยายเสริมก็เข้าใจได้ไม่ยากตอนเริ่มสงสัยว่าหญิงสาวหายไปไหนดูสอดรู้สอดเห็นจริงๆ ครับโทนหนังแนวทริลเลอร์ลึกลับมาเต็มช่วงตื่นเต้นนี่ก็ลุ้นด้วยมุมกล้องช่วงสืบสวนชวนสงสัยผมก็สงสัยตามเป็นหนังสืบสวนที่ยอดเยี่ยมยิ่งถ่ายทำแบบฉากเดียวตลอดทั้งเรื่องอีกนี่ต้องบอกว่าโคตรยอดเยี่ยมเลยครับหนังคลาสสิกเหนือกาลเวลาจริงๆ ครับดูได้ทุกยุคทุกสมัยไม่มีเชยแน่นอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2 | หน้าต่างด้านหลัง (1954) อยู่ในห้องเดียว (มองไปข้างนอก) หน้าต่างด้านหลัง ช่วงที่ผมดูหน้าต่างด้านหลัง ๆ เก่ากว่า 1990 แทบไม่ได้ดูเลยครับกลัวดูไม่สนุกซึ่งพอได้ดูจริง ๆ ชุดเดียวถ่ายทำฉากเดียวตลอดทั้งเรื่องครับตัวละคร 'เจฟฟ์' (เจมส์สจ๊วต) แต่หน้าต่างด้านหลัง แต่ใส่เข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ๆ ในขณะที่ช่วงสอดส่องห้องต่าง ๆ ๆ ครับโทนหนังแนวลึกลับระทึกขวัญมาเต็มช่วงตื่นเต้นนี่ก็ลุ้นด้วยมุมกล้องช่วงสืบสวนชวนสงสัยผมก็สงสัยตามเป็นหนังสืบสวนที่ยอดเยี่ยม หนังคลาสสิกเหนือกาลเวลาจริง ๆ ครับดูได้ทุกยุคทุกสมัยไม่มีเชยแน่นอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 | กระจกหลัง ( 1954 ) อยู่ในห้องเดียว ( มองไปข้างนอก )

กระจกหลังนี่เป็นเรื่องแรกของฮิตช์ค็อกที่ผมได้มีโอกาสดูครับเป็นความประทับใจแรกพบที่มีต่อผู้กำกับท่านนี้ด้วยช่วงที่ผมดูกระจกหลังไม่มีช่วงนั้นผมยังไม่ค่อยกล้าดูหนังเก่าเก่ากว่า 1990 แทบไม่ได้ดูเลยครับซึ่งพอได้ดูจริงจะหนังมันทำลายกำแพงอคติในใจเราออกไปหมดเลยและทำให้เราเริ่มต้นดูหนังเก่าจริงจัง